Home | Login | คอร์ด/เนื้อเพลง | Webboard | Classifieds | Music Jobs (หางาน) | TV / Video









(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ว่าด้วย คอร์ด ในเสกล...ผ่านมา 2 ปีแล้ว ผมก็ยังไมเจอคำตอบ..ที่เคลียร์ เลย......  
 
กระทู้นี้ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมเคยตั้ง...และถามทุกคนในบอร์ด หลายกระทู้ ติดกัน ในหลายวัน

กลายเป็นที่ งุน งง และถกเถียงกัน

และยังไม่มีคำตอบใดที่เคลียร์เลยยยยยย

แต่ตอนนั้นยังมี ผู้คร่ำหวอดหลายคน ที่ยังไม่ออกมาแสดง ทรรศนะ

และผ่านมา 2 ปี ผมก็พยายามวิเคราะห์ แต่ก็ยังไม่เจอคำตอบที่ว่า ใช่เลย ชัดเลย เคลียร์เลยสักที

วันนี้ผมตั้งใจ จะเอามาเล่าใหม่อีกครั้ง

โดยที่.........หากยังไม่กระจ่าง ผมจะตั้งกระทู้นี้ไปเรื่อยๆ ทุกวัน..ทุกวัน...ทุกวัน

หวังว่า กระทู้นี้ จะเป็นประโยชน์ ให้หลายๆๆๆ ท่าน ไม่มาก ก็น้อย




เรื่องมันมีอยู่ว่า.....เรื่องไดทานิก คอร์ด ขั้นคู่เสกล(เรียกถูกไหมนี่)

เอาเป็นว่า คอร์ดในเสกลละกันนะครับ เอาง่ายๆ...............

ในเสกล ต่างๆ จะมีคอร์ดในเสกลอยู่ใช่มั้ยละ

ซึ่ง ทำไมถึงเป็นคอร์ดนั้นๆ มันมีหลักการ คิด การสร้างของมัน(อันนี้อิงทฤษฎีก่อนนะ พวกแหก แหวก เดี๋ยวก่อน)

มันเป็นอย่างนี้ทุกเสกลหลัก ผมจะยกตัวอย่างที่ เมเจอร์เกสล

เอา C major เสกล ละกันนะครับ


C major scale ปรกกอบไปด้วย โน๊ต ในเสกลคือ

C D E F G A B ok นะ

ส่วนคอร์ดในเสกลนี้ คือ

C Dm Em F G Am Bdim ok นะ

หลักการคิดคอร์ด ที่จะมาเล่นในเสกลคือ คิดแบบไตรแอดที่ โน๊ต 1 - 3 -5 ในเสกลนั้น เป็นหลัก

ไล่มาเลยนะครับ

C 1 -3-5 คือ C - E--G
Dm 1 -3 -5 คือ D -F-A
Em 1-3-5 คือ E - G--B
F 1--3--5 คือ F - A--C
G 1 - 3- 5 คือ G -B -D
Am 1-3-5 คือ A-C-E
Bdim 1-3-5 คือ B-D-F

คำถามของผมก็คือ Bdim นี่แหละครับ B-D-F รวมกัน แล้วมันไม่ใช่ B ดิมินิช นิ่ครับ

ใช่มั้ย เขียนคิดแบบไตรแอดคอร์ด มันไม่ใช่ดิมินิช

แล้วทำไม ในทฤษฎี ทุกที่ บนโลกใบนี้ ถึงเขียนเป็น บีดิมินิช

หรือ เฉพาะตัวนี้ มีวิธีคิด ผิดจากทั้ง 6 ตัวที่เหลือ ถ้าเป็นเช่นนั้น เพราะอะไรละครับ



เข้าใจที่ผมถามนะครับท่านๆ

ถ้าเพิ่ม 7 ไปอีกตัว มันก็กลายเป็น ดิมินิช7

อย่าพึ่งถึงกระนั้นเลย

ท่านที่ยังไม่เคยสังเกตุ ลองยกกีตาร์มาจับดูนะครับ

แล้วจะเข้าใจคำถาม


ขอบคุณมากครับทุกท่าน


พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 10:35:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 61.47.69.142
 


  คำตอบที่ 1  
 
[บางทีผมแค่เข้าใจผิดไปก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ชี้ทางให้ผมทีครับ ท่านๆ ลุงๆ น้าๆ พี่ๆ เพือ่นๆ น้องๆ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 10:39:00    IP = 61.47.69.142
 


  คำตอบที่ 2  
 
เข้ามางงครับ

   bbling      12 พ.ย. 53   เวลา 11:02:00    IP = 58.137.217.251
 


  คำตอบที่ 3  
 
ฺB-D-F = Bmb5 ได้มั้งครับ
ผมเองเคยเขียนเพลงใช้คอร์ดเดียวคือคอร์ดนี้ Bmb5 แล้วเขียนทำนองด้วย C major scale หรือ B locrian mode ก็พอได้นะครับ

   lhanlhan      12 พ.ย. 53   เวลา 11:11:00    IP = 119.46.47.6
 


  คำตอบที่ 4  
 
คอร์ดที่7ของmajor key ในที่นี้ B D F คือ root b3 b5(สูตรคิดจากBmajor scale โน้ต13,5มันคือB,D#,F#) มันก็คือtriadประเภทdiminished ถูกเเล้วนี่ครับ

ปล. ถ้าเพิ่มตัว7ในdiatonic keyไปอีกตัว มันจะเป็น B D F A คือ 1 b3 b5 b7 เป็นคอร์ดประเภทminor7b5(half diminished)นะครับ ไม่ใช่diminished7

   Rock Guitar Instructor      12 พ.ย. 53   เวลา 11:20:00    IP = 124.122.97.109
 


  คำตอบที่ 5  
 
โครงสร้างของคอร์ด คือ 1-3-5 อย่างที่เข้าใจถูกแล้้วครับ

คอร์ดคือ triad หรือ คู่ 3 ซ้อนกันสองคู่


แต่คอร์ดจะมี Quality ของมัน หรือก็คือ ความเป็น Major Minor Augmented Diminish
สิ่งที่บ่งบอก Quality ของมันก็คือ ระยะห่างระหว่างคู่ เสียงในคอร์ด (ชนิดของขั้นคู่นั้นเหละ )

โน๊ตในโลกนี้มีอยุ่ 12 ตัว คือ

C C# D D# E F F# G G# A A# B

แต่ละตัวจะห่างกัน ครึ่งเสียง

โน๊ตของขั้นคู่ 3 ห่างกัน 5 ครึ่งเสียง จะเรียกว่า คู่ 3 เมเจอร์ - M3
โน๊ตของขั้นคู่ 3 ห่างกัน 4 ครึ่งเสียง จะเรียกว่า คู่ 3 ไมเนอร์ - m3

โน๊ตของขั้นคู่ 5 ห่างกัน 8 ครึ่งเสียง จะเรียกว่า คู่ 5 เฟอร์เฟ็ค - P5
โน๊ตของขั้นคู่ 5 ห่างกัน 7 ครึ่งเสียง จะเรียกว่า คู่ 5 ดิมมินิช - d5

คอร์ดเมเจอร์ เกิดจาก Root + M3 +P5
คอร์ดไมเนอร์ เกิดจาก Root + m3 + P5
คอร์ดดิมมินิช เกิดจาก Root + m3 + d5

(จริงๆ มีพวกขั้นคู่ และ คอร์ดอื่นๆอีกเยอะเลยนะครับ อันนี้พูดถึงแค่เรื่องที่ถามก่อน )


ที่นี่มาดูในคีย์ C อย่างที่ถาม

C - E - G / C กับ E ห่างกัน 5 ครึ่งเสียง เป็น M3 / C กับ G ห่างกัน 8 ครึ่งเสียง เป็น P5

ดังนั้นคอร์ด C E G เป็น C Major


D - F - A / D กับ F ห่างกัน 4 ครึ่งเสียง เป็น m3 / D กับ A ห่างกัน 8 ครึ่งเสียง เป็น P5

ดังนั้นคอร์ด D F A เป็น D minor

Em, F ,G ,Am ก็ลองคิดตามสูตร ข้างบนดูนะครับ


ส่วน B - D - F / B กับ D ห่างกัน 4 ครึ่งเสียง เป็น m3 / B กับ F ห่างกัน 7 ครึ่งเสียง เป็น d5

ดังนั้นคอร์ด ที่ประกอบด้วยโน๊ต B D F มันจึงเป็น Bdim ครับ


   pete122      12 พ.ย. 53   เวลา 11:26:00    IP = 203.148.216.48
 


  คำตอบที่ 6  
 
สุดยอดดด

   สมาชิกแบบพิเศษ      SURVEY_TADZERO      12 พ.ย. 53   เวลา 11:37:00    IP = 202.151.46.11
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 7  
 
WoW พาเครียด -*- รู้ข้อมูลแต่ อธิบายไม่เป็น ก๊ากกก มีผู้รู้มา ตอบ แบบ เต็มๆ ถามอีกครับ ชอบ ^^ คำถามเพื่อสังคม จริงๆ

   zerouone      12 พ.ย. 53   เวลา 11:36:00    IP = 124.121.110.35
 


  คำตอบที่ 8  
 
เพิ่มให้อีกนิดละกันครับ

คอร์ด Diminish มีสองแบบครับ

ต่างกันที่ตัวที่ 7

ถ้าคู่ที่เจ็ดห่างกัน 10 ครึ่งเสียงเราเรียกว่า คู่ 7 ดิมมินิช d7

R-m3-d5-d7 เรียกว่า Fully Diminish 7 chord


แต่่ถ้าคู่เจ็ดห่างกัน 11 ครึ่งเสียงเราเรียกมันว่าคู่ 7 ไมเนอร์ m7

R-m3-d5-m7 เรียกว่า Half Diminish หรือ Mior 7 flat5 ก็ได้ครับ

คอร์ด Bdim ในคีย์ C ถ้าเพิ่มตัว 7 ให้มันคือตัว A

ได้เป็น ​ B D F A เราเรียกว่าคอร์ด B half dim หรือ Bm7b5 ก็ได้ครับ

   pete122      12 พ.ย. 53   เวลา 11:41:00    IP = 203.148.216.48
 


  คำตอบที่ 9  
 
เก็บความรู้ครับ

   tuv  12 พ.ย. 53   เวลา 11:49:00    IP = 180.180.159.187
 


  คำตอบที่ 10  
 

สุดยอดครับ ท่าน pete122 .......

   CRYSTAL BLUE      12 พ.ย. 53   เวลา 11:50:00    IP = 61.90.114.220
 


  คำตอบที่ 11  
 
ดูจาก root ของ cord นั้นๆง่ายกว่าครับเช่นพลงใน key C มีโน๊ต C D E F G A B
แต่คอร์ดเป็น C Dm Em F G Am Bdim โดยมีวิธีคิดโดย คอร์ดจะเทียบกับ root ของ คอร์ดนั้นๆเอง
cord C = 1 3 5 = C E G
cord Dm= 1 b3 5 =D F A แต่ถ้า D major = 1 3 5 = D F# A
cord Bdim = 1 b3 b5 = B D F ถ้า B = B Eb F#
สรุปว่าคิดเป็นคอร์ดต้องเทียบกับ root ของ scale ในคอร์ด นั้น ไม่ใช้ เทียบ 1 3 5 ของ scale ของเพลง

   nookk_15      12 พ.ย. 53   เวลา 11:52:00    IP = 202.167.250.59
 


  คำตอบที่ 12  
 
ชอบกระทู้แบบนี้จัง

เคยเรียน แต่ลืมหมดแว้ว

^_^

   Djam      12 พ.ย. 53   เวลา 11:59:00    IP = 125.27.97.91
 


  คำตอบที่ 13  
 
เพิ่มเติมหน่อยครับ
คอร์ด diminished seventh = 1 b3 b5 bb7 (ตัว bb7 = 6)

   hutty  12 พ.ย. 53   เวลา 12:17:00    IP = 58.64.95.208
 


  คำตอบที่ 14  
 
โอ้ว.....นึกว่าจะมีแต่กระทู้ทะเลาะกัน...

   สมาชิกแบบพิเศษ      Mod carabao      12 พ.ย. 53   เวลา 12:37:00    IP = 58.97.59.33
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
^^

   sk888      12 พ.ย. 53   เวลา 12:38:00    IP = 110.49.193.173
 


  คำตอบที่ 16  
 
แหม่ ผมละชอบจริงๆ กระทู้ สร้างสรรค์แห่งปี ได้บรรยากาศสมัยก่อนมากครับ ^^

   สมาชิกแบบพิเศษ      ~:ธันวาซ่าส์:~      12 พ.ย. 53   เวลา 13:00:00    IP = 118.174.65.157
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 17  
 
ขอบคุณทุกท่านนะครับ

ท่าน pete122 แน่นป๊กๆๆๆ มากๆๆๆ

ผมคงงง เรื่องโครงสร้างนิดหน่อย

หลายท่านอาจเข้าใจแล้ว แต่ผมยัง

คือ ผมยังง อยู่ตรงที่....................

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 14:02:00    IP = 61.47.69.143
 


  คำตอบที่ 18  
 
โทษทีนะครับ หารูป ไม่ทัน หาได้แค่นี้

เนี่ย..ครับ ตามรูป

ฟอร์มการจับคอร์ด ของ Bdim ตามข้างบนซ้าย ที่ผม วงกลมแดงๆ ไว้

การจับคอร์ด Bdim สังเกตุดูที่ สาย 1 มัน มี G# อยู่อ่ะครับ

ในเมื่อโครงสร้างคอร์ด ของ Bdim = B D F จากที่หลายท่านอธิบาย

แล้ว ในคอร์ด Bdim ทำไม มี G# มาด้วยครับผม ผมงงมากเลย

ใช่ๆๆ ตรงนี้แหละ เพราะผมเข้าใจ ว่า โครง สร้าง ดิมินิช คือ 1 3b 5b
Bdim คือ B D G# ใช่ๆๆๆๆๆๆ

อธิบาย ผมหน่อยครับ Bdim = B D F แล้ว G # มันมาไงครับ ถ้ามันคือ 7 แล้วทำไม
การจับคอร์ด Bdim มันให้จับแบบนี้ อ่ะครับ

หรือเขาเขียนผิด จากหนังสือหลายเล่ม

หรือผมเข้าใจไรผิดอีกครับ ท่านๆ

งงคำถามผมมั้ย ไม่งงเนอะ ขอบคุณครับ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 14:08:00    IP = 61.47.69.145
 


  คำตอบที่ 19  
 
กำ ลืมรูปอีก

นี่ครับ ยกข้อความลงมาด้วยเลย


โทษทีนะครับ หารูป ไม่ทัน หาได้แค่นี้

เนี่ย..ครับ ตามรูป

ฟอร์มการจับคอร์ด ของ Bdim ตามข้างบนซ้าย ที่ผม วงกลมแดงๆ ไว้

การจับคอร์ด Bdim สังเกตุดูที่ สาย 1 มัน มี G# อยู่อ่ะครับ

ในเมื่อโครงสร้างคอร์ด ของ Bdim = B D F จากที่หลายท่านอธิบาย

แล้ว ในคอร์ด Bdim ทำไม มี G# มาด้วยครับผม ผมงงมากเลย

ใช่ๆๆ ตรงนี้แหละ เพราะผมเข้าใจ ว่า โครง สร้าง ดิมินิช คือ 1 3b 5b
Bdim คือ B D G# ใช่ๆๆๆๆๆๆ

อธิบาย ผมหน่อยครับ Bdim = B D F แล้ว G # มันมาไงครับ ถ้ามันคือ 7 แล้วทำไม
การจับคอร์ด Bdim มันให้จับแบบนี้ อ่ะครับ

หรือเขาเขียนผิด จากหนังสือหลายเล่ม

หรือผมเข้าใจไรผิดอีกครับ ท่านๆ

งงคำถามผมมั้ย ไม่งงเนอะ ขอบคุณครับ


   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 14:10:00    IP = 61.47.69.145
 


  คำตอบที่ 20  
 
ผมว่าในภาพด้านบน น่าจะเป็นการ Voicing Chord มากกว่านะครับ
มันไม่ได้เขียนว่า Bdim เฉยๆนะครับ มันเขียนว่า Bdim/Ab อ่านว่า Bdim On Ab
Ab ที่ว่านั่นคือ G# ครับ

ผิดถูกอย่างไร ท่านอื่นชี้แจงแถลงไขต่อครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      คลั่ง      12 พ.ย. 53   เวลา 14:29:00    IP = 58.8.127.9
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 21  
 
Bmi7[b5] = B+D+F+A
Bdim7 = B+D+F+Ab

   b5sub  12 พ.ย. 53   เวลา 14:30:00    IP = 223.205.152.10
 


  คำตอบที่ 22  
 
คอร์ด ดังกล่าวคือ Bdim7 ครับ ซึ่งมีสูตร เป็น 1 3b 5b 7bb = B D F G#

7bb ก็คือ G# นั่นเอง ครับ คอร์ด จำพวก dim มันจะใช้ ตัว 7 ต่างจากคอร์ดพวก major กับ minor ครับ ^^

ลองอ่าน link นี้ ที่เขาสอนจะกระจ่างเลยครับ
http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=1884


   สมาชิกแบบพิเศษ      sukkavadee      12 พ.ย. 53   เวลา 14:33:00    IP = 202.12.118.61
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 23  
 
dim7 หรือ m7b5 มันไม่ใช่คอร์ด triad น่ะครับ
ที่เจ้าของกระทู้งง เพราะ มันเป็นคอร์ด 4 เสียงครับ เลยมีเสียงโน้ตเพิ่มมาอีกตัวทำให้พาเขว

คอร์ด triad ที่เราจะเห็นๆกันก็มี maj minor dim aug ครับ ใช้โน้ตแค่3ตัวครับ

   guitarpook      12 พ.ย. 53   เวลา 15:40:00    IP = 115.87.130.251
 


  คำตอบที่ 24  
 
guitarpook

ใช่ครับๆๆๆๆๆ ใช่ๆๆๆ

คต ที่ 23 เนี่ย โดนติ่งผมเลย

คือว่า ถ้าคิดแบบไตรแอด มันก็ 1 -3 -5

แต่ถ้า bdim นั้น ฟอร์มการจับ มัน จะไม่ใช่ ไตรแอด ไม่ใช่คอร์ด สามเสียง แต่มากกว่าสาม

อย่างตำรา บางเล่ม เขาเขียนคอร์ดทุกคอร์ด เป็น 7 นั่นหมายถึง ตาม ด้วย 7 ทุกคอร์ดในเสกล

ซึ่งนั่นหมายถึง การเติม 7 เข้าไป ไม่ใช่ไตรแอดแล้ว

อันนี้ ก็ออกมา ชัดเจา ไม่งง

แต่พอมาคิดแบบไตรแอด

Bdim มัน ก็จะไม่ใช่ไตรแอด ตามตัวอื่น



จากภาพตาม คต 19 การจับ Bdim ผมดูในตำราทุกเล่ม (หมายถึงที่ผมอ่านอ่ะนะ) ทุกเล่มเลย

ฟอร์มการจับ Bdim เป็นแบบนี้

ถ้าเป็นVoicing Chord แบบที่ ท่าน คลั่ง บอก

งั้นท่านๆ บอดอย่างนี้ก็ได้ครับ ว่า ท่านจับคอร์ด Bdim แบบไตรแอด กันยังไงครับ

เผื่อบางที ผมเข้าใจอะไรผิดอีก

ยังก็ขอบคุณทุกท่านนะครับ

แต่มันก็ยังงงอยู่ดี หรือผมนี่มันถึกจริงๆหว่า

คือผมเรียนรู้ด้วยตัวเองอ่ะนะครับ พอดีมาติด ตรงนี้ ข้องใจอ่ะครับ

ขอบคุณครับ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 15:57:00    IP = 61.47.69.145
 


  คำตอบที่ 25  
 
เอางี้ ดีกว่า ก่อนจะงงอีก อิอิ

ท่าน จับ Bdim แบบไตรแอดยังไงครับ

ถ้า เป็น Voicing Chord แบบที่ท่าน คลั่งบอก

ท่าน ลองหา Bdim แบบ ไตรแอด ที่ถูกต้องจริงๆ มาให้ผมดูหน่อยสิครับ เพราะผมหา Bdim มันก็มีฟอร์มนี้อ่ะครับ

ขอบคุณอีกทีครับ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:00:00    IP = 61.47.69.145
 


  คำตอบที่ 26  
 
หลักสูตรที่ผมเรียน ในที่นี้คือ ไตรแอด ครับ คือคอร์ดที่ประกอบด้วยโน้ต 3 ตัวในสเกล C เมเจอร์
เรียง 13 5 ไปตลอด อย่าง คอร์ด Bdim นี่ไม่มีใน คีย์ C ผมเรียก Bm-5 บีไมเนอร์ เฟรทไฟว์ครับ เพราะโน้ตในคี ย์ C ไม่มี # b ครับ คอร์ด Bm-5 เมื่อลงตามลำดับแล้วก็มีโน้ต B D F พอดี ซึ่ง ตามทฤฎีคือคอร์ด Bm แต่ลดตัวที่ 5 มาครึ่งเสียง จาก F# เป็น F ครับเพื่อให้เข้ากับสูตรโครงสร้างของสเกล ไอ้ที่มีG# นี่ผมว่าน่าจะมาจาก สเกล A ฮาโมนิคไมเนอร์มากกว่าครับ เพราะสเกลนี้ใช้รว่มกันกับ สเกล C ได้

   reypong      12 พ.ย. 53   เวลา 16:03:00    IP = 183.89.20.228
 


  คำตอบที่ 27  
 
สวัสดีพี่ reypong

เอาละเริ่มกระจ่าง เริ่ม งงน้อยมาหน่อย ที นี้ ผมถามพี่ต่อครับว่า

แล้ว ถ้าเราเล่น คอร์ด Bm-5 เนี่ย เราต้องจับยังไงครับพี่

เพราะเท่าที่ผมศึกษาด้วยตัวเอง ผ่านตำรามา ฟอร์มที่เขาให้จับ เป็นไปตามรูปด้านบน หมายถึง มี G# เข้ามาด้วย

นั่นแหละที่พี่พูด ตรงใจผมเลย Cmajor ไม่มี# b ถ้ามี G# เข้ามา ได้ไง

นั่นแหละ คือประเด็น..........

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:20:00    IP = 61.47.69.146
 


  คำตอบที่ 28  
 
มาถึง ตอนนี้ ถ้า ตำราที่ผมอ่านมันผิด ..........หรือผมเข้าใจผิด

ช่วยบอกผมทีเถิด ไอ้การจับคอร์ด Bdim หรือ Bm-5 เนี่ย มันจับยังไง

แล้วทำไม ในตำรา มันบอกให้จับ แบบ Bdim7

แล้วถ้าบอก ตำรา ถูกแล้ว ก็ถามนิดว่า ทำไม ต้องจับ แบบ Bdim 7 ในเมื่อมันเป็นไตรแอดครับ

เพิ่ม G# เพื่อ อย่าบอกนะว่า จับแบบนี้ แล้วเสียงมันกลมกลืน 555++

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:24:00    IP = 61.47.69.146
 


  คำตอบที่ 29  
 
.......................................................................
...............................................3......................
......................................4..............................
...........................3...........................................
...........2................................................................
........................................................................ แบบแรกครับ

   reypong      12 พ.ย. 53   เวลา 16:25:00    IP = 183.89.20.228
 


  คำตอบที่ 30  
 

เยี่ยมครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ชิตชัย      12 พ.ย. 53   เวลา 16:26:00    IP = 223.207.43.26
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 31  
 
ผมเข้าใจแล้วครับว่าท่าน งง เรื่องอะไร (เพราะผมก็ งง แล้วเหมือนกัน)
เนื่องจากลอง Search ดูในเว็บ ฟอร์มนิ้ว Bdim (ส่วนใหญ่ด้วย)จะเหมือนในภาพของท่าน พายุ
คือถ้าคุยกันเรื่องทฤษฎีคงไม่มีใครเถียงว่า Bdim = B D F
แต่สิ่งที่ท่านพายุ งง คงหมายถึงว่า ในเมื่อมันเขียนว่าคอร์ด Bdim แต่มันจะแถม G# มาให้ทำไมในฟอร์มนิ้ว

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ 5555

   สมาชิกแบบพิเศษ      คลั่ง      12 พ.ย. 53   เวลา 16:27:00    IP = 58.8.127.9
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 32  
 
...1................................................................
.....................3......................
.......................................4........
........................3............................................
.......................................................................
....................................................................
แบบ2 ครับ ชี้ นาง ก้อย กลาง ตามลำดับเด้อครับ อิๆ

   reypong      12 พ.ย. 53   เวลา 16:28:00    IP = 183.89.20.228
 


  คำตอบที่ 33  
 
ผมเข้าใจแล้วครับว่าท่าน งง เรื่องอะไร (เพราะผมก็ งง แล้วเหมือนกัน)
เนื่องจากลอง Search ดูในเว็บ ฟอร์มนิ้ว Bdim (ส่วนใหญ่ด้วย)จะเหมือนในภาพของท่าน พายุ
คือถ้าคุยกันเรื่องทฤษฎีคงไม่มีใครเถียงว่า Bdim = B D F
แต่สิ่งที่ท่านพายุ งง คงหมายถึงว่า ในเมื่อมันเขียนว่าคอร์ด Bdim แต่มันจะแถม G# มาให้ทำไมในฟอร์มนิ้ว

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ 5555

คลั่ง 12 พ.ย. 53 เวลา 16:27:00 IP = 58.8.127.9
ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คร๊าบ นั่นแหละครับ ถูกต้องเลย

แล้วยิ่ง มาบอกให้จับใน C major scale ยิ่งงงไปใหญ่ ไหนบอกว่า ไม่มี # b ไง เนี่ยแหละที่ผมงง

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:33:00    IP = 61.47.69.146
 


  คำตอบที่ 34  
 
reypong ขอบคุณมากครับพี่

ทางทฤฤษฎี และฟอร์มคอร์ด ที่พี่ให้มา ok มาก ผมเข้าใจครับ

แต่งง ตรงที่ ตำราที่ผมศึกษามา ทุกเล่ม (เยอะมากอ่ะนะ)

ทำไมเค้าให้จับ Bdim เนี่ย เป็น Bdim7 ละครับ โดยเฉพาะ ใน Cmajor scale ที่บอกว่า ไม่มี # b

ถ้าจับ มันมี G# เข้ามาชัดๆ

ตรงนี้แหละครับพี่ที่ผมงง

ทำไมไม่ให้จับแบบไตรแอด

หรือตำราเข้าเขียนผิดก็ไม่น่าใช่ หรือเขาสื่ออะไรอีกขั้นที่ผมไม่เข้าใจ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:37:00    IP = 61.47.69.146
 


  คำตอบที่ 35  
 
ตกลง มันจับแบบนี้ ใช่มั้ยครับ ถ้าจับแบบนี้ ผมก็ จบครับ เกทครับ เข้าใจครับ


แต่ผมก็ยังงงที่ ว่าตำรา หลายเล่ม(ทุกเล่มที่ผมอ่าน) เขาให้จับแบบ รูป คต 19 อ่ะครับ

จะว่าตำราผิดเหรอ ไม่น่าใช่นะ

ตอนนี้ ถ้าจะให้ผมเข้าใจ ผมขอเข้าใจโดย ให้เหตุผล ที่งง เพราะตำราผิด

แต่ถ้าตำราถูกผมก็งงต่อไป

ถ้าภาพในคตนี้ คือฟอร์มที่ถูก ก้แสดงว่า ตำรามันผิดกันมั่งล่ะครับ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 16:43:00    IP = 61.47.69.146
 


  คำตอบที่ 36  
 
ถ้าเป็น A ฮาโมนิคไมเนอร์ จะมี A ..B...C..D...E....F...G#
คอร์ดก็ ลองนับดูจาก B ไป 1 3 5 ก็จะได้ B..D. F .เพิ่ม ตัวที่ 7 ไปก็ G# พอดี ผมว่าน่าจะประมาณนี้มั้งครับ ฟังจากเพลง มนเพลงคาราบาวเลย คอร์ด E m ต้องกลายเป็น E ตามโครงสร้างของสเกล ส่วน Bm-5 ก็กลายเป็น Bdim 7 อันนี้ต้องถามผู้กระจ่าง อีกทีครับ ผมแค่ พื้นฐานครับ อิๆ

   reypong      12 พ.ย. 53   เวลา 16:52:00    IP = 183.89.20.228
 


  คำตอบที่ 37  
 
คต 35 ถูกต้องแล้วครับท่าน

   reypong      12 พ.ย. 53   เวลา 16:54:00    IP = 183.89.20.228
 


  คำตอบที่ 38  
 
แปะก่อนเลยเดี๋ยวค่ำๆมาอ่าน


อยากให้มีแบบนี้เยอะๆ

   cmbrutalhead      12 พ.ย. 53   เวลา 17:36:00    IP = 118.172.199.144
 


  คำตอบที่ 39  
 
G# = Ab ครับ

และคอร์ด Bdim ที่อยุ่ในรุป คค มันเป็น Fully Diminish ครับ

ซึ่ง คอร์ด fully diminish เนี่ย มันเป็นคอร์ดพิเศษ คือ มันเป็นการ เรียงกัน ของคู่ 3 ไมเนอร์ซ้อนกันไปเรือยๆ

เช่น B D F Ab --- อันนีคือ B fully dim ถ้าจับตาม คต 19 โน๊ตจะครบตามนี้ถูกใหมครับ?

B - D เป็น m3
D - F ก้ m3
F-Ab ก็ m3
Ab(G#)-B ก็เป็น m3

ดังนั้นไม่ว่ามันจะพลิกกลับยังไง เอาตัวไหนเป็น Root มันก็ยังคงเป็นคอร์ด Fully Dim เหมือนเดิม

มอง อีกมุม มันก้เหมือนมี คู่ Tritone (b5) สองคู่ ซ้อนกันอยุ่ คือ
B-F เป็น คู่ 5dim หรือ b5
D- Ab ก้ b5

แล้วไอ้เจ้า Tritone เนี่ย มันเป็นคู่ที่กลิ่นแรงๆมากๆ คือถ้าเล่นคอร์ดที่มี คุ่นี้อยุ่ เสียงคุ่นี้มันจะออกชัดที่สุด

ดังนั้น การจะเพิ่ม ตัว 7 หรือก้คือ G#/Ab ลงไปใน Bdim มันไม่ค่อยมีผลต่อเสียงเท่าไหร่

บางทีเค้าเลยเพิ่มลงไปเลยโดยอัตโนมัต โดยไม่ต้อง เขียนชื่อคอร์ดว่า Bdim7 ครับ

ผมเข้าใจว่าแบบนี้นะ จากที่สงสัยเรือง คต 19



ส่วนคอร์ด Bdim ใน C major เนี่ย มันเป็น half dim นะครับ เพราะ ตัว A ใน Diatonic มันเป้น A natural

ดังนั้น คอร์ด Bdim ใน Cmajor มีโน๊ต B D F A ครับ ไม่สามารถใช้คอร์ดใน คต 19 แทนได้ ในทางทฤษฏี

แต่ถ้าในทางปติบัต ถ้าชอบเสียงไม่มีปัญหาครับ ใช้ได้เลย

   pete122      12 พ.ย. 53   เวลา 17:53:00    IP = 203.148.216.48
 


  คำตอบที่ 40  
 
ถ้า ยัง งง ตรงไหน ลองถามไว้นะครับ เด๋วค่ำๆผมเข้ามาดูใหม่ๆ ถ้าตอบได้ จะพยายามช่วยตอบครับผม ^^

   pete122      12 พ.ย. 53   เวลา 17:55:00    IP = 203.148.216.48
 


  คำตอบที่ 41  
 
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ หลายๆคำตอบ รวมเข้าด้วยกัน ทำให้ผมเข้าใจ

ณ ตอนนี้ ผมเข้าใจแล้วครับ (ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดรึเปล่านะ 5555+++)

สรุปก็คือ ในตำราที่ผม ไปอ่านมา เขาไม่ได้ อธิบาย โดยละเอียดนั่นเอง



.........ดังนั้น คอร์ด Bdim ใน Cmajor มีโน๊ต B D F A ครับ ไม่สามารถใช้คอร์ดใน คต 19 แทนได้ ในทางทฤษฏี

แต่ถ้าในทางปติบัต ถ้าชอบเสียงไม่มีปัญหาครับ ใช้ได้เลย


ตรงนี้ ชัดเจนที่สุดครับ ตรงนี้แหละที่ผมคาใจ

ตกลง ในทางทฤษฎีมันใช้ไม่ได้จริงๆนะครับ

ขอบคุณมากอีกครั้งครับ

เอาละ ท่านใด งง ตามผม แล้วยังกลับไม่ถูกมีอีกมั้ยครับ

ว่ากันได้นะครับ จะได้ช่วยกันงง อิอิ

ผมมาเคลียร์ที่สุด ตรงนี้

ตรง คต 41 ของท่าน pete122

ตรงที่

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 18:51:00    IP = 124.121.70.7
 


  คำตอบที่ 42  
 
คือ ผมพยายาม ถามหลายท่านเรื่องนี้ มาสักพัก ผมเชื่อว่า หลายคนเข้าใจ แต่อธิบายไม่ถก

หลายคน ละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจ

หลายคนเข้าใจ แต่กั๊กไว้

และเชื่อมั้ยมีบางคนอธิบายผม (เพื่อนผม) อธิบายว่า "ก็ถ้าจับแบบ Bdim มันจับลำบากมั้ง เข้าเลยให้จับแบบ Bdim7 ผมก็เถียงกับมันนะว่า ถ้างั้น ในทางทฤษฎีก็ต้องเขียนให้ ตามหลักการณ์ก่อนสิ จะแหวก จะแหก เดี๋ยวค่อยว่ากัน งั้นจะมีหลักการไว้ทำไม"

นั่นหมายถึง อ้างตำราอ่ะนะ

นั่นแหละครับ บางคนอธิบายไม่เป็น

บางคน ฮูว คิดมาก ดีดเป็นเพลงก็พอ กินเหล้าดีกว่า....

จนผม ลืมเรื่องนี้ไปสักพัก แต่เก็บไว้ในใจลึกๆ

วันนี้ ถือว่า

เคลียร์มากๆครับ

สำหรับหลายๆ คำตอบ ของหลายๆท่าน

ขอบคุณ อีกครั้งครับ

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 18:55:00    IP = 124.121.70.7
 


  คำตอบที่ 43  
 
เรื่องนี้ ผมว่าอธิบายแบบ ปากต่อปากน่าจะง่ายกว่า
แต่ที่รู้ๆ ผมไม่ชอบเลยครับ คอร์ดดิม ดิม7
ยิ่งเจออะเพจจิโอ้ ดิมมินิช 7 จะบ้าตาย มันเมหือนกันเกินไป งง ไปหมดเลย

   taotaotao  12 พ.ย. 53   เวลา 19:09:00    IP = 124.120.104.207
 


  คำตอบที่ 44  
 
xxx ป๋าอ้นก็...

   พายุลูกเห็บ      12 พ.ย. 53   เวลา 19:51:00    IP = 124.121.70.7
 


  คำตอบที่ 45  
 
ยินดีที่ช่วยได้ครับผม

แต่สำหร้บผมนะ ทฤษฏีดนตรี มันเป้นแค่กรอบครับ ที่ตีไว้กว้างๆ ว่าเราทำอะไรได้บ้าง

แต่ ดนตรี จุดกำเนิดของมัน มาจาก การที่มนุษย์ ได้ยินเสียง มีจิตนาการ และ มีการถ่ายทอดความรุ้สึก ออกมา ผ่านเสียง

และ พอมันผ่านมา ซักระยะ นึง ก็มีคน มาคิด วิเคราะห์​และ เขียนขึ้นมา เป็นทฤษฏี เพื่ออธิบาย สิ่งที่เกิดขึ้น

แต่สุดท้ายแล้ว ดนตรี มันก็คือ เรื่องของอารมณ์​ ความรู้สึก และจิตนาการครับ ดังนั้น ชอบอะไร เล่นไปเลยครับ อย่าไปกลัวผิด

   pete122      12 พ.ย. 53   เวลา 20:18:00    IP = 203.148.216.48
 


  คำตอบที่ 46  
 
เจอกระทู้ทะเลาะกัน แล้วเครียด
มาเจอกระทู้นี้ เครียดกว่าเดิมอีก...งง

"มึนตึ้บ........
มีรูปโป๊ประกอบคำอธิบายไหมครับพี่น้อง"

ไอดียเจ๋งดี ชอบมากครับ


   บักซิเด๋อ  12 พ.ย. 53   เวลา 20:52:00    IP = 119.42.96.153
 


  คำตอบที่ 47  
 
พอจะเข้าใจว่าที่งงเนี้ยสาเหตุน่าจะมาจากเพราะไปมอง Ab เป็น G#
เพราะถ้ามองเป็นAb จากตารางคอร์ดนั่นมันก็คือ ทบไปอีก ไมเนอร์3 ก็ฟูลดิม แค่นั้นเอง....





   s2020  12 พ.ย. 53   เวลา 21:36:00    IP = 125.25.99.48
 


  คำตอบที่ 48  
 
ขอบคุณทุกๆๆท่านอีกครั้งนะครับ

   พายุลูกเห็บ      13 พ.ย. 53   เวลา 9:44:00    IP = 61.47.69.147
 


  คำตอบที่ 49  
 
สุดยอดเลย

   taeng123  13 พ.ย. 54   เวลา 16:36:00    IP = 141.0.8.34
 


  คำตอบที่ 50  
 
พอดีอ่านเข้าไปเจอคำถามที่น่าสนใจคือ Bdim ส่วนมากเข้าใจถูกแล้วครับส่วนเรื่องที่มี. G#หรือAb เข้ามาทำให้งง?ผมจะตอบอย่างผู้รู้น้อยนะครับผิดถูกก็ว่ากันคือ. ถ้าคิดจากสเกล C Harmonic Minor Scale จะลงตัวพอดี. ผมคิดสเกลHarmonic Minor เป็นเมเจอร์สเกล b3,b6 จะเร็วกว่าเช่น. C,D,Eb,F,G,Ab,B...ถ้าเอาโน้ตตัวที่7ของสเกลคือ B มาตั่งโดยใช้ตัวเว้นตัวหรือคู่3ในสเกล( ละไว้ว่าเป็นขั่นคู่ชนิดใดเดี๋ยวจะงง) ก็ได้ B=1, D=b3,F=b5,Ab=bb7. (อ่านว่าดับเบิลแฟ็ทเจ็ด) ถ้าคิดจาก B Major scale ตัวที่ 7คือ A# ลดลงครึ่งเสียงสองครั้งคือ A#>A>Ab...(อย่ามองเป็นตัวโน้ตที่ 6คือ G# นะครับเดี๋ยวจะงง.???ในทางปฎิบัติโน้ต G#กับAb คือตัวเดียวกันแต่ในทางทฤษฎีคุณผิด.คอร์ดนี้เรียกว่า Bdim7 หรือบีดิมมินิทเซเว่นครับ........ถ้าใช้สเกล
A Harmonic Minor Scale คือ A,B,,C,D,E,F,G#..โดยเล่นเป็นคู่ 3ในสเกลเอาโน้ตตัว B,=1, D=b3, F=b5,A=b7(สูตรโครงสร้างคอร์ดต้องคิดจากเมเจอร์สเกลทุกครั้งแล้วเอามาหักลบกัน)ก็จะเป็นคอร์ด Bm7b5 คือเป็นคอร์ดที่ 2ของ Harmonic.....ส่วนตอร์ดที่7ของ Harmoic minor คือคอร์ด Dim7..

   Niket      5 ธ.ค. 54   เวลา 11:55:00    IP = 58.9.188.14
 


  คำตอบที่ 51  
 
ครับ ผมพอเข้าใจ

แต่ก็ยังงง จากหลายๆคำตอบ

เพราะ เท่าที่รู้ เขาบอกว่า c majorไม่ติด# b

แต่ปรากกว่า มันมี เข้ามาไงครับ ไม่ว่าจะเป็น Ab or G#

ผมทราบตรงนี้ ไม่ได้งงตรงนี้นะ เพราะไม่ว่าตัวไหน มันก็ มี# b

เข้ามาอยู่ดี ไหนบอกว่า c major ไม่มี#b

   พายุลูกเห็บ      19 มิ.ย. 56   เวลา 16:35:00    IP = 49.48.15.44
 


  คำตอบที่ 52  
 
58 แล้ว ยังไม่เคลียเลยครับ อ.เต็มบอรด มาตอบหน่อยสิครับ

   พายุลูกเห็บ      30 มี.ค. 58   เวลา 23:16:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 53  
 
กะทู้ที่มีความรู้เยอะมาก. งง กันไปคับ. ช่วยกันหาทางออก งงเพื่อความรู้ ชื่นชมๆ

   stevepai      31 มี.ค. 58   เวลา 2:51:00    IP = 124.121.6.28
 


  คำตอบที่ 54  
 
ค่อยๆทำความเข้าใจนะครับ ถ้าtriad chordคือchordที่มี3เสียงเราจะเอาnoteในscaleเรียงกันขึ้นไป ตามที่เรียงมาถูกแล้ว พอมาถึงBเนื่องจากมี3เสียงคือB,D,FตามทฎษฎีเรียกBmb5ครับเพราะมี3note แต่ตามทฎษฎีบอกว่าChordที่7เป็นDimnish เมื่อไหร่ที่เราพูดคำว่าDiminishจริงๆแล้วมันคือDiminish7คือต้องมีตัว7ถ้าไม่มี7 เสียงมันจะเหมือนกับMinor b5 มาดูโครงสร้างChordนะครับเริ่มจากBm7b5(half dim7เดี่ยวค่อยอธิบายครับ)1-b3-b5-b7เนื่องจากมี4เสียงเราลืมไดอะโทนิคchordของCmajไปก่อนนะครับเรามามองตรงBเลยมองว่าเป็นBmaj ไดอะโทนิค มีโน้ต1B-2C#-3D#-4E-5F#-6G#-7A#-Bมาดูทีละตัวเลยนะครับ ตามโครงสร้าง1คือฺB.. b3คือD#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตD..b5คือF#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตF..b7คือA#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตAเอาโน้ตมาเขียนใหม่คือB,D,F,AคือBm7b5..เข้าใจมั๊ยครับ ดูให้เข้าใจ

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 4:16:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 55  
 
ค่อยๆทำความเข้าใจนะครับ ถ้าtriad chordคือchordที่มี3เสียงเราจะเอาnoteในscaleเรียงกันขึ้นไป ตามที่เรียงมาถูกแล้ว พอมาถึงBเนื่องจากมี3เสียงคือB,D,FตามทฎษฎีเรียกBmb5ครับเพราะมี3note แต่ตามทฎษฎีบอกว่าChordที่7เป็นDimnish เมื่อไหร่ที่เราพูดคำว่าDiminishจริงๆแล้วมันคือDiminish7คือต้องมีตัว7ถ้าไม่มี7 เสียงมันจะเหมือนกับMinor b5 มาดูโครงสร้างChordนะครับเริ่มจากBm7b5(half dim7เดี่ยวค่อยอธิบายครับ)1-b3-b5-b7เนื่องจากมี4เสียงเราลืมไดอะโทนิคchordของCmajไปก่อนนะครับเรามามองตรงBเลยมองว่าเป็นBmaj ไดอะโทนิค มีโน้ต1B-2C#-3D#-4E-5F#-6G#-7A#-Bมาดูทีละตัวเลยนะครับ ตามโครงสร้าง1คือฺB.. b3คือD#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตD..b5คือF#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตF..b7คือA#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตAเอาโน้ตมาเขียนใหม่คือB,D,F,AคือBm7b5..เข้าใจมั๊ยครับ ดูให้เข้าใจ

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 4:16:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 56  
 
ค่อยๆทำความเข้าใจนะครับ ถ้าtriad chordคือchordที่มี3เสียงเราจะเอาnoteในscaleเรียงกันขึ้นไป ตามที่เรียงมาถูกแล้ว พอมาถึงBเนื่องจากมี3เสียงคือB,D,FตามทฎษฎีเรียกBmb5ครับเพราะมี3note แต่ตามทฎษฎีบอกว่าChordที่7เป็นDimnish เมื่อไหร่ที่เราพูดคำว่าDiminishจริงๆแล้วมันคือDiminish7คือต้องมีตัว7ถ้าไม่มี7 เสียงมันจะเหมือนกับMinor b5 มาดูโครงสร้างChordนะครับเริ่มจากBm7b5(half dim7เดี่ยวค่อยอธิบายครับ)1-b3-b5-b7เนื่องจากมี4เสียงเราลืมไดอะโทนิคchordของCmajไปก่อนนะครับเรามามองตรงBเลยมองว่าเป็นBmaj ไดอะโทนิค มีโน้ต1B-2C#-3D#-4E-5F#-6G#-7A#-Bมาดูทีละตัวเลยนะครับ ตามโครงสร้าง1คือฺB.. b3คือD#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตD..b5คือF#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตF..b7คือA#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตAเอาโน้ตมาเขียนใหม่คือB,D,F,AคือBm7b5..เข้าใจมั๊ยครับ ดูให้เข้าใจ

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 4:16:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 57  
 
โทษครับnetมันช้าเลยกดไป3ที..ทีนี้มาที่Bdiminish7 เหมือนเดิมครับเราลืมC ไดอะโทนิคChord เรามองไปที่Bเลยว่าเป็นBmaj 1B-2C#-3D#-4E-5F#-6G#-7A#-Bมาดูโครงสร้าง1-b3-b5-7bb(7ดับเบิ้ลแฟรช)1คือฺB..b3คือD#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตD..b5คือF#ทำให้ต่ำลงครึ่งเสียงจะได้โน้ตF..7bbคือA#ทำให้ต่ำลง2ครั้ง ครั้งที่1จากA#จะได้โน้ตAครั้งที่2จากAจะได้โน้ตAbหรือโน้ตG#นั่นเอง AbกับG#ชื่อต่างกันแต่มีเสียงเดียวกัน ตรงนี้จะได้ตอบโจทย์ว่าBdim ทำไมมีโน้ตG#ครับ..พอเข้าใจมั๊ยครับ..ต่ออีกนิดตรงBm7b5โครงสร้างคือ1-b3-b5-b7มันต่างกับDiminish7..1-b3-b5-bb7ตรงขั้นที่7ต่างกันอยู่1bเราเลยเรียกBm7b5ว่าhalf dim7ครับ

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 4:47:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 58  
 
คต.5 ถูกต้องแล้วครับเคลียร์และเข้าใจง่าย คอร์ดdiminishจะลดตัวที่3และตัวที่5ตัวละครึ่งเสียง กรณีของผมใช้วิธีลัดคือจะยึดBเป็บคีย์เลยครับ คีย์Bจะติดเครื่องหมายแปลงเสียงคือF# C# G# D# A# คีย์Bมี5ชาร์ป ถ้าเป็นคอร์ดBเมเจอร์ จะประกอบไปด้วย B D# F# โน้ตปกติในคีย์ของมันเองคือ 1 3 5 แต่ถ้าเราลดตัวที่3และตัวที่5ลงจะเป็นคอร์ดdiminishทันคือ B D F เป็นคอร์ดBdim เพราะDกับFไม่ติดชาร์ปมันจะลดลงครึ่งเสียงโดยอัตโนมัติ

   worwit      31 มี.ค. 58   เวลา 9:50:00    IP = 223.205.243.173
 


  คำตอบที่ 59  
 
ถ้าเป็นตามนี้

ดังนั้นคำว่า "โน้ตในเสกล c major ต้องไม่ # b" ก็ไม่ถูกต้อง ใช่มั้ยครับ

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 15:38:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 60  
 
สรุปให้ครับ Bdim (Triad)---->B D F (1 3b 5b ใน key B)----->เป็น Diatonic chord ใน key C
Bm7b5(คอร์ด 4 เสียง)--->B D F A(1 3b 5b 7b ใน key B)--->เป็น Diatonic chord ใน key C
Bdim7(คอร์ด 4 เสียง)--->B D F Ab(1 3b 5b 7bbใน key B)--->ไม่เป็น Diatonic chord ใน key C ครับ

   G-sound  31 มี.ค. 58   เวลา 16:17:00    IP = 118.172.0.66
 


  คำตอบที่ 61  
 
Diminish Triad(3เสียง -->1 3b 5b) มีแบบเดียวครับ แต่ Diminish ของคอร์ด4 เสียง มีอยู่สองแบบครับ คือ Half-Diminish(minor7b5-->1 3b 5b 7b) กับ Full-Diminish(dim7-->1 3b 5b 7bb)ครับ


   G-sound  31 มี.ค. 58   เวลา 16:26:00    IP = 118.172.0.66
 


  คำตอบที่ 62  
 
ตำราบางอันก็ผิดนะครับ ต้องดูดีๆว่าเป็น half หรือเป็น full dim7

   G-sound  31 มี.ค. 58   เวลา 16:33:00    IP = 118.172.0.66
 


  คำตอบที่ 63  
 
มันคนละเรื่องกันครับ..จขกท..กำลังสับสน..ถ้าพูดถึงCmajor scale ถูกต้องแล้วครับต้องไม่มีbไม่มี#..เอามาใช้ในการsoloหรือแต่งเพลง(melody)แต่เมื่อพูดว่าchord diminishประกอบด้วยโน้ตอะไรเราต้องไม่มองโน้ตในCmajorแล้วครับมันคนละเรื่องกันครับ ต้องทำตามสูตรการสร้างchord diminish7..1-b3-b5-bb7ครับ ที่งงๆอยู่เพราะไปยึดติดว่าCmaj scaleต้องไม่มีิb,# อย่างง..คนละเรื่องกันครับอย่าเอาไปคิดรวมกัน

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 16:52:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 64  
 
ครับ ผมเข้าใจว่า โน้ตในคอร์ดทุกคอร์ด ใน ไดทานิค คอร์ด ของ c major จะประกอบไปด้วยเสียงต่างๆ ในโครงสร้าง ที่มาจาก c major scale เสียอีก หรือผมเข้าใจผิด

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 18:10:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 65  
 
เพราะถ้าเรา จะเล่นโน้ตในคอร์ด (อะเพจิโอ) ในคีย์ c major หากเราเลือกเอาไดทานิกคอร์ด ที่ 7 (bdim) นั่นหมายความว่า จะมีโน้ต นอกเสกลปนอยู่ g#

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 18:12:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 66  
 
ท่าน jun guitar กำลังสื่อบอกผมว่า G# ไม่ได้อยู่ในเสกล c major
แต่ยู่ใน ไดทานิคคอร์ด ของคีย์ c major
และ c major scale ไม่ได้เกียวข้องกับ key c major คือคนละเรื่องกัน แบบนั้นป่าวครับ

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 18:14:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 67  
 
คือถ้าให้ผมเข้าใจแบบเคลียที่สุด ตอนนี้ผมเข้าใจตาม คต60 61 62 ของ ท่าน G-sound นะครับ และก็คิกว่าตำราหลายๆเล่มมันผิด ผม คิดแบบนี้จริวๆ

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 18:15:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 68  
 
ไม่ใช่ครับCmajor scaleเกี่ยวข้องกันกับkey Cmajorเพราะในไดโทนิค chordในCmajorก็เอาโน้ตในCmajor scaleมาเรียงต่อกันเรียกว่าTriadจะได้chordตามนี้C-Dm-Em-F-G-Am-Bmb5แต่มันพิเศษตรงถ้าเป็นBdiminish7จะมีB-D-F-G#อันนี้เป็นโน้ตที่เอามาตามสูตรการสร้างChord ส่วนการเล่นSOLOเราเจอChord Bdiminish7ในKey Cเราก็SOLO Cmajor scaleในChord Bdimได้เลยครับไม่ต้องสนใจว่ามันจะมายังไง ยกเว้นการเล่นappeggioในChord Bdimต้องเล่นตามโน้ตB-D-F-G#ครับ

   jun guitar  31 มี.ค. 58   เวลา 19:10:00    IP = 114.109.198.104
 


  คำตอบที่ 69  
 
.... ครับ

   พายุลูกเห็บ      31 มี.ค. 58   เวลา 20:27:00    IP = 49.230.148.180
 


  คำตอบที่ 70  
 
ขออนุญาตช่วยตอบนะครับ พอดีตอนป.ตรีโชคดีมีโอกาสลงเรียนวิชาทฤษฎีดนตรีเบื้องต้น ซึ่งอาจารย์สอนเรื่องตรงนี้ไว้ ผมจำคำเรียกได้คร่าวๆ ว่า มันเกี่ยวกับ "เททราอคร์ด" ลองดูตามรูปภาพที่ผมแนบมาครับ น่าจะช่วยพอให้เข้าใจว่า "ทำไมสเกล C หรือ Key C มันถึงมีคอร์ด Bdim" (ที่คำว่า dim เราจะคุ้นปากกันว่าคือการติด flat ให้ตัว 3 กับ 5)
นั่นเพราะเป็นเรื่องของการผสมเสียง minor+minor ครับ (ตามภาพ)

ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วเว็บกีตาร์ไทยมีคนเก่งๆมากมายครับ แต่ความเก่งของแต่ละคนหลากหลายมาก บางคนเก่งทฤษฎีมากแต่ปฏิบัติอาจไม่เซียน บางคนกระบี่อยู่ที่ใจแค่กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน คือทฤษฎีกรูไม่เป๊ะแต่กรูเล่นเพราะมาก บางคนมีโอกาสได้เรียนทฤษฎี บางคนไม่มีโอกาสได้เรียนทฤษฎี แต่รวมๆ แล้วทุกคน "ชอบเล่นกีตาร์ครับ" เล่นทั้งๆที่เก่งแต่ไม่รู้ทฤษฎี เล่นทั้งๆที่รู้ทฤษฎีมากแต่เล่นไม่เก่ง หรือบางคนก็ไม่รู้อะไรเลยไม่เก่งเลยแต่รู้แค่ว่า "ฉันอยากเล่นอะ"

ถ้าถามว่าทำไมเราถึงไม่ได้คำตอบซักที มันก็เพราะ(ตามที่คุณพายุลูกเห็บว่า)..ไม่เจอจังหวะที่คนรู้จริงมาเห็น หรือ..คนรู้จริง หวงภูมิ กั้กไว้(ซึ่งบางทีอาจหมายถึงเขาเหน็ดเหนื่อยกับการงานในชีวิตประจำวันจนไม่อยากมานั่งตอบคำถาม หรือบางคนอาจรู้สึกธุระไม่ใช่ หรือหลายๆ คนก็พยายามตอบอย่างดีที่สุดเท่าที่ความรู้เขาจะมีแบบไม่กั๊ก แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับคุณ)

ดังนั้นบางทีเราคงจะคาดหวังไม่ได้ 100% หรอกครับว่าเราจะได้คำตอบทุกอย่างที่ต้องการ เพราะบางคนก็แวะเข้ามาพักผ่อนเฉยๆ ติดตามข่าวสาร และอาจไม่ได้มีอารมณ์อยากจะตอบอะไรยาวๆ

หวังว่าคำตอบที่ผมให้น่าจะพอช่วยลดความกระหายในความรู้ของคุณพายุลูกเห็บได้บ้างนะครับ ^_^
การใฝ่เรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีครับ เพียงแต่เราต้องอย่าลืมว่าในขณะที่เรามีความรู้สึก ผู้อื่นก็มีความรู้สึกเหมือนกัน และ "กีตาร์ไทย ไม่ใช่พระเจ้าที่จะเสกสรรค์ทุกอย่างให้เราได้ครับ" อย่าคาดหวังเกินจริง

นอกจากกีตาร์ไทยแล้ว ในอินเทอร์เน็ตยังมีคลังความรู้อีกมากมายเลยนะครับ อย่างผมเซิชเจออันนี้ก็น่าสนใจดีครับ http://www.kruoil.com/media/majorscale.swf
เว็บเมืองนอกก็ยังมีอีกครับ

อีกประการที่ผมเห็นถึงความน่ารักของพี่น้องกีตาร์ไทยคือ การที่ทุกคนพยายามเข้ามาช่วย เข้ามามีส่วนร่วม ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองรู้ก็เถอะ แต่ทุกคน "มาด้วยใจ" ครับ

หวังว่าข้อมูลจะมีประโยชน์ครับ

   imfkung      7 เม.ย. 58   เวลา 1:52:00    IP = 171.100.126.197
 


  คำตอบที่ 71  
 
เพิ่มเติมคำตอบสำหรับ Bdim7 นะครับ คือตอนผมเรียนอาจารย์ไม่ได้พูดถึงเรื่อง dim7 แต่หากให้ผมตีความและคาดเดาโดยอ้างอิงจาก เททราคอร์ดที่ผมโพสต์อธิบายข้างต้น
- ^ - ^
B D F = Bdim
- ^ - ^ - ^
B D F Ab = Bdim7 (เป็นการใส่เสียง minor เข้าไปอีกชุดนึง เพื่อให้เข้าคอนเส็ปต์ minor+minor กลายเป็น minor + minor + minor)

แล้วลองนึกต่อจาก Ab ไปอีกนะครับ มองให้มันวนไปถึง B ตัวแรก ระยะห่างระหว่าง Ab ไปถึง B มันก็จะเป็น - ^ (หนึ่งเสียงครึ่ง minor) อีกชุดนึง ดังนั้นมันก็จะเข้าสูตร minor + minor + minor + minor เป็นงูกินหางที่ไม่มีจุดจบ

เราจะมองว่าเป็นการใส่ G# ไม่ได้ครับ แต่มันต้องมองเป็น Ab เพราะตามหลักแล้ว คอร์ด7 ก็คือการใส่โน๊ตตัวที่ 7 แบบติด flat มันเป็นเรื่องของ tension / ในขณะที่คอร์ด maj7 คือการใส่ตัวที่7 นับจากตัว root ที่มองเป็น maj

   imfkung      7 เม.ย. 58   เวลา 2:04:00    IP = 171.100.126.197
 


  คำตอบที่ 72  
 
สุดท้ายอีกครับ หากเราเน้นฟังเสียงเป็นหลักนะครับ
...ลองฟังอารมณ์ความรู้สึกของคอร์ด Maj ทั้งหลาย
...ลองฟังอารมณ์ความรู้สึกของคอร์ด minor ทั้งหลาย

แล้วลองจับคอร์ด dim แล้วฟังอารมณ์ความรู้สึกของมันครับ แล้วเราจะรู้สึกได้ชัดเลยว่า อารมณ์ความรู้สึกของมันไม่เข้าพวกทั้งกับ Maj และ minor เพราะสิ่งที่มันกำลังสื่อสารกับเราคือ "dim" ครับ

   imfkung      7 เม.ย. 58   เวลา 2:20:00    IP = 171.100.126.197
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket