Home | Login | คอร์ด/เนื้อเพลง | Webboard | Classifieds | Music Jobs (หางาน) | TV / Video









(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ข้อคิดดีมาก ๆ ( กระทู้รูป )  
 
ข้อคิดดีมาก ๆ ( กระทู้รูป )

อ่านจบแล้ว..... ได้อะไร




rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 2:49:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 1  
 
222222

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 2:51:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 2  
 
3333333333

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 2:52:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 3  
 
444444444

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:00:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 4  
 
555555555555

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:01:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 5  
 
66666666

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:02:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 6  
 
7777777777

http://board.palungjit.com/f6/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B9%86-268488.html

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:05:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 7  
 
อานุภาพ...แห่งความดี
อานุภาพ...แห่งความดี
โดย...พระไพศาล วิสาโล


การทำความดี หมั่นสร้างบุญกุศล ไม่เพียงช่วยให้มีชีวิตทีผาสุกเท่านั้น หากยังอำนวยให้มีความสุขในเวลาละโลกนี้ไป ดังพระพุทธองค์ตรัสว่า “บุญย่อมทำให้เกิดสุขในเวลาสิ้นชีวิต”
คน เป็นอันมากกลัวตายก็เพราะไม่แน่ใจว่าเมื่อตายแล้วจะไปไหนจะไปทุคติหรือไม่ แต่ความกลัวเช่นนี้จะไม่เกิดกับผู้ที่มั่นใจในความดีที่ทำมาทั้งชีวิต เพราะรู้ดีว่าบุญกุศลที่ได้ทำนั้นย่อมส่งผลให้ไปสู่สุคติ
ใน ชาดกตอนหนึ่ง พระโพธิสัตว์ได้กล่าวอย่างองอาจว่า “ข้าพเจ้าไม่มีความชั่วซึ่งทำไว้ ณ ที่ไหนๆ เลย ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นเกรงความตายที่จะมาถึง”

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมั่นใจในความดีของตนถึงขนาดนั้นเห็นจะมีไม่มาก คนส่วนใหญ่ย่อมมีบ้างที่พลั้งเผลอทำความชั่วหรือทำสิ่งที่ไม่สมควร และหากเป็นคนไกลวัด ใจไม่แนบแน่นกับธรรมะ ก็ย่อมหวั่นไหวเมื่อความตายใกล้เข้ามา ส่วนหนึ่งกลัวว่าจะไปอบาย แต่มีจำนวนไม่น้อยที่กลัวว่าจะต้องพลัดพรากจากทุกอย่างที่รักและหวงแหน รวมทั้งชีวิตนี้

ความกลัวดังกล่าวทำให้ผู้คนเป็นอันมากไม่สามารถตายอย่างสงบได้ มิพักต้องเอ่ยถึงความเจ็บปวดทางกายและความทุกข์ทางใจที่รุมเร้าในยามใกล้ตาย ทำให้จิตใจกระสับกระส่ายและทุรนทุรายจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ในยามนี้สิ่งหนึ่งที่จะช่วยน้อมใจให้สงบจนสิ้นลมก็คือ การระลึกถึงสิ่งดีงามอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ สำหรับชาวพุทธ ได้แก่ พระรัตนตรัย หรือ พระโพธิสัตว์ เป็นต้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งเหล่านี้ หากผู้ใดศรัทธานับถืออยู่ก่อนแล้ว เมื่อระลึกถึงคราใดย่อมเกิดความอบอุ่นใจและมั่นใจ ว่าจะได้รับการปกป้องคุ้มครองจนปลอดภัย ความอบอุ่นและมั่นใจดังกล่าวเป็นโอสถอย่างดีที่เยียวยาจิตใจให้หายทุกข์ บรรเทาความกระสับกระส่ายให้คลายไป

ส่วนผู้ไกลวัด ไม่รู้สึกแนบแน่นกับพระรัตนตรัย ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสพบกับความสงบใจในวาระสุดท้าย เพราะอย่างน้อยยังมีสิ่งดีงามอีกอย่างหนึ่งที่ควรแก่การระลึกนึกถึง นั่นคือ ความดีที่ตนได้ทำ มนุษย์ทุกคนย่อมเคยกระทำความดีมาแล้วไม่มากก็น้อย ความดีเหล่านี้ไม่เคยสูญเปล่า ทั้งยังสามารถช่วยเหลือเราได้ในยามใกล้ตาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวาระสุดท้ายใกล้มาถึง ปุถุชนมักถูกบีบคั้นด้วยทุกขเวทนา อีกทั้งถูกครอบงำด้วยความกลัวเพราะอารมณ์อกุศลต่างๆ จนไม่มีสติมากพอที่จะนึกถึงความดีที่ตนเคยทำ จึงจำเป็นที่ญาติมิตรจะช่วยน้อมใจเข้าให้ระลึกถึงความดีงามเหล่านี้ การกระทำดังกล่าวสำคัญไม่น้อยไปกว่าการบรรเทาความเจ็บปวดทางกายหรือการรักษาด้วยยา

ชายชราผู้หนึ่งป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ในช่วงท้ายของชีวิตเขามีอาการทรุดลงบ่อยครั้ง ทุกครั้งลูกหลานต้องรีบพาไปโรงพยาบาลเมื่ออาการทุเลาจึงพากลับบ้าน สถานการณ์เป็นเช่นนี้อยู่หลายเดือน ทั้งผู้ป่วยและลูกหลานมีความทุกข์ถ้วนหน้า กระทั่งเดือนสุดท้ายมีหลานคนหนึ่งได้ไปเฝ้าไข้ผู้ป่วยแทบทุกวัน หลานได้ชวนผู้ป่วยคุยเรื่องชีวิตในอดีต เขาจึงเล่าเรื่องความภาคภูมิใจในวัยหนุ่ม อาทิ การได้ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๑ และการรับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

หลานสังเกตว่า ตลอดเวลาที่คุยเรื่องเหล่านี้ ผู้ป่วยมีแววตาเป็นประกาย สีหน้าเบิกบาน และดูสงบมากขึ้น ยิ่งเมื่อได้คุยกันเรื่องแก่นธรรมะของพุทธศาสนาในตอนท้ายๆ ผู้ป่วยก็ปล่อยวางได้มากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ป่วยก็เรียกลูกหลานมาสั่งเสีย และจากไปอย่างสงบด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มน้อยๆ

ที่น่าแปลกก็คือ ตลอดหนึ่งเดือนเต็มที่หลานมานั่งคุยกับผู้ป่วย เขาไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การ เตือนใจให้ผู้ป่วยนึกถึงความดีของตนนั้น สามารถทำได้แม้ในยามที่ผู้ป่วยอยู่ในภาวะโคม่าหรือไม่รู้สึกตัว หญิงชราผู้หนึ่งใกล้จะสิ้นลมแล้ว ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ลูกๆอยากให้แม่ถวายสังฆทานเป็นครั้งสุดท้าย จึงไปนิมนต์พระรูปหนึ่ง ซึ่งบังเอิญมาอุปัฏฐากครูบาอาจารย์ของท่านที่อาพาธในห้องใกล้ๆ กัน เมื่อท่านรับสังฆทานเสร็จก็สังเกตว่าผู้ป่วยมีอาการกระตุกไม่หยุด สัญญาณชีพบนจอมอนิเตอร์พุ่งขึ้นลงเร็วมาก ท่านอยากช่วยให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบ ดังนั้นเมื่อทราบจากลูกหลานว่าผู้ป่วยชอบใส่บาตรวันพระ และไปกราบพระประธานที่ วัดไตรมิตรฯ ท่านจึงบอกผู้ป่วยว่า โยม วันนี้เป็นวันพระ ให้คดข้าวใส่ขัน เตรียมดอกไม้ธูปเทียนให้พร้อม จะไปใส่บาตรกัน พร้อมแล้วก็ให้ไปที่หน้าบ้าน ทีนี้ท่านถามผู้ป่วยว่า ซ้ายมือมีพระไหมปรากฏว่าผู้ป่วยส่ายหน้าท่านถามต่อว่า ขวามือมีพระไหม ทีนี้ผู้ป่วยพยักหน้าพร้อมกับพนมมือ แล้วท่านก็พูดนำผู้ป่วยให้ใส่บาตรพระทีละรูป จนครบ ๙ รูป ถึงตอนนี้ผู้ป่วยมีอาการสงบอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นท่านก็พูดนำผู้ป่วย ให้ไปกราบหลวงพ่อทอง ที่วัดไตรมิตรฯ พร้อมกับนั่งภาวนาหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ

ระหว่างที่พระนำจิต หญิงชราไม่มีอาการกระตุกอีกเลย ส่วนสัญญาณชีพก็ค่อยๆ ลดลง ในที่สุดก็แบนราบ ลูกๆ ดีใจมากที่แม่จากไปอย่างสงบ

ความดีหรือบุญกุศลนั้น นอกจากจะนำความแช่มชื่นเบิกบานมาสู่จิตใจในขณะกระทำแล้ว ยังอำนวยให้เกิดความอิ่มเอิบปลาบปลื้มใจเมื่อระลึกนึกถึง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในยามใกล้ตาย...

...ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่านค่ะ...

ที่มา www.kallayanatham.com


http://board.palungjit.com/f8/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5-271431.html

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:10:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 8  
 
รวบรวมคติธรรมดีๆมาให้อ่านกัน...


http://board.palungjit.com/f10/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%86-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-178960-40.html

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:11:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 9  
 
"100 วิธี.......ดับทุกข์ "


101. ความรู้ชัดในการรักษาจิตให้สงบและสะอาดอยู่เสมอ นี่แหละคือสติปัญญาความรู้แจ้งธรรมตามความเป็นจริง ความทุกข์จะเกิดขึ้นในใจของท่านไม่ได้เลย

102. เมื่อถึงเวลาพักผ่อน จงเข้าสู่สมาธิตามสมควรแก่เวลาที่จะเอื้ออำนวย กำหนดจิตให้ตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจ นับ 1-2 ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ต้องสนใจสิ่งอื่น ไม่ต้องปรารถนาจะเห็นหรือจะได้จะเป็นอะไรจากการทำสมาธิ

103. เมื่อจิตสงบเย็นแล้วจึงเพ่งพิจารณาชีวิตสิ่งแวดล้อม และปัญหาที่ตัวเองกำลังประสบอยู่ แล้วสรุปว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นไม่ควรยึดมั่นถือมั่นเลย

104. จงทำกับปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด ใช้ปัญญาแก้ไขมัน ไม่ต้องวิตกกังวลกับมัน ถึงเวลาแล้วจงเข้าสู่สมาธิได้เวลาแล้วจงออกมาสู้กับปัญหา อย่างนี้เรื่อยไป

105. จงปฏิบัติเช่นนี้ทุกวันแล้วจิตของท่านก็จะบรรลุถึงความสะอาดบริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์สูงสุด ในสักวันหนึ่งซึ่งไม่นานนัก

ทั้งหมดนี้คือ แนวทางที่ถูกต้องที่สุดในการที่จะเอาชนะความทุกข์ในชีวิตของท่าน ซึ่งแนวทางนี้เรียกว่า “การปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น” อันเป็นเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ทรงพระประสงค์ที่จะให้ทุกคนเข้าถึง เพื่อความหมดทุกข์ทางใจในที่สุด.

---------------------------------------------------------------------------------
-หลวงปู่พุทธะอิสระ-

http://www.onoi.org/


http://board.palungjit.com/f14/100-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%8C-76573.html


   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:14:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 10  
 
โคลงกลอน-สอนใจ

การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน
แม้องค์ปฎิมายังราคิน มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทาฯ.

"สุนทรภู่"

http://www.baanjomyut.com/10000sword/thaipoem/khon/page5.html

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:16:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 11  
 
จงเตือนตนไว้เสมอ...หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


จงอย่าคิดว่าคนอื่นจะต้องมาลงโทษเรา
ก่อนที่คนอื่นจะลงโทษ
กรรมที่เราทำความชั่ว
มันก็ทำความเร่าร้อนให้เกิดขึ้นแก่เรา
ใครเขาพูดความชั่วคราวใด
เราก็สะดุ้งเพราะเรามันเลว

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
อัตตนา โจทยัตตานัง
จงเตือนตนไว้เสมอ และจงโจทตน
กล่าวโทษตนไว้เป็นปกติ
หาความชั่วของตัว
อย่าไปหาความชั่วของบุคคลอื่น

ถ้าเลวมากเมื่อไหร่
เราก็เพ่งเล็งความเลวของบุคคลอื่นมากเท่านั้น
ถ้าเราดีมากเท่าไหร่
เราก็ไม่มองเห็นความเลวของบุคคลอื่น
เพราะยอมรับนับถือกฎของกรรม

ที่เรายังไปหาความเลวของบุคคลอื่น
เสียดสีเขาบ้าง พูดกระทบกระเทียบเขาบ้าง
ทำลายความสุขใจเขาบ้างนั่น
แสดงว่า เรามันเลวที่สุดของความเลว
คือความเลวมันไม่ได้ ขังอยู่ เฉพาะในใจ
มันไหลออกมาทางกายไหลออกมา
ทางวาจา เพราะมันล้น เลวจนล้น
นี่ขอทุกท่านจงจำไว้
อย่าไปมองดูความเลวของคนอื่น
มองดูความเลวของตน
ไม่ต้องไปปรับปรุงบุคคลอื่น
ปรับปรุงเราเองให้มันดีที่สุด



ที่มา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5367


http://board.palungjit.com/f23/%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A4%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B3-144539.html

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 3:19:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 12  
 
ปัจฉิมโอวาท วันรับแขกวันสุดท้ายของหลวงพ่อ ๒๘ ต.ค.๓๕

ด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระราชพรหมยานอย่างสูงสุด


http://board.palungjit.com/f23/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B9%92%E0%B9%98-%E0%B8%95-%E0%B8%84-%E0%B9%93%E0%B9%95-154754.html


   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 4:01:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 13  
 
KonKonKon 30Nov10 1/3 ยายยิ้ม ยิ้มเย้ยยาก

ปล. คุณยายน่ารักดีครับ อยู่อย่างพอเพียงจริงๆ ขอให้คุณยายเเข็งเเรง ยิ้มง่ายอย่างนี้ตลอดไปครับ อนุโมทนาครับ

   rockonyou      17 ธ.ค. 53   เวลา 4:30:00    IP = 24.90.219.121
 


  คำตอบที่ 14  
 
ขอบพระคุณครับ

คำสอนของหลวงพ่อ อ่านเมื่อไหร่ก็กินใจได้เสมอ

   สมาชิกแบบพิเศษ      YUNEGuitar      17 ธ.ค. 53   เวลา 9:21:00    IP = 110.49.186.236
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
++++ ชอบมากมาย

   nuaom  17 ธ.ค. 53   เวลา 13:26:00    IP = 125.27.174.132
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket