|
 |
|
 |
|
เมื่อไม่มีมา ไม่มีไป ย่อมไม่มีเกิด และไม่มีดับ & clip กลุ่มผู้กล้าช่วยคนติดใต้ท้องรถที่ไฟไหม้ |
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 1
|
|
|
 |
เมื่อไม่มีมา ไม่มีไป ย่อมไม่มีเกิด และไม่มีดับ
ภาพประจำตัวสมาชิก ออฟไลน์ refreshtam สมาชิก ระดับ 1 สมาชิก ระดับ 1 ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 02:57 โพสต์: 21
โฮมเพจ: http://buddhadham.zzl.org แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4 ชื่อเล่น: บูม อายุ: 18
{ GIVEN }: { THANKS } { RECEIVED }: { THANKS }
ข้อมูลส่วนตัว www
เมื่อไม่มีมา ไม่มีไป ย่อมไม่มีเกิด และไม่มีดับ พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงชักชวนภิกษุ ทั้งหลาย ด้วยธัมมิกถาอันเนื่องเฉพาะด้วยนิพพาน, ได้ทรงเห็นว่าภิกษุทั้งหลายสนใจฟังอย่างยิ่ง จึงได้ ตรัสพระพุทธอุทานนี้ขึ้น ในเวลานั้น ว่า :- ความหวั่นไหว ย่อมมีแก่บุคคลผู้อันตัณหา และทิฏฐิอาศัยแล้ว (นิสฺสิตสฺส จลิตํ) ความหวั่นไหว ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้อันตัณหา และทิฏฐิไม่อาศัยแล้ว (อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ) เมื่อความหวั่นไหวไม่มี, ปัสสัทธิ (ความสงบจากกิเลส) ย่อมมี (จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ) เมื่อปัสสัทธิมี, นติ (ความน้อมไป) ย่อมไม่มี (ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ) เมื่อนติไม่มี, อาคติคติ (การมาและการไป) ย่อมไม่มี (นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ) เมื่ออาคติคติไม่มี, จุตูปปาตะ (การเคลื่อนและการเกิดขึ้น) ย่อมไม่มี (อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ) เมื่อจุตูปปาตะไม่มี, อะไรๆ ก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างแห่งโลกทั้งสอง (จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเร) นั่นแหละ คือที่สุดแห่งทุกข์ละ. (เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส)
Credit http://buddhadham.zzl.org รวมธรรมะแก่นแท้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39367
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 2:54:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 2
|
|
|
 |
ปล. ขออภัยครับ พอดีตอน copy ดันไป copy โดนข้อความข้างล่างเเล้วเราดันไม่เห็น ขออภัยด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก ออฟไลน์ refreshtam สมาชิก ระดับ 1 สมาชิก ระดับ 1 ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2010, 02:57 โพสต์: 21
โฮมเพจ: http://buddhadham.zzl.org แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4 ชื่อเล่น: บูม อายุ: 18
{ GIVEN }: { THANKS } { RECEIVED }: { THANKS }
ข้อมูลส่วนตัว www
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:06:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 3
|
|
|
 |
วิธีทำบุญ (พระสมชาย ฐานวุฑโฒ)
วิธีทำบุญ
การทำความดีทุกอย่าง ล้วนได้ผลออกมาเป็นบุญทั้งสิ้น แต่เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ และนำไปปฏิบัติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งวิธีทำบุญออกเป็น 10 ประการ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ได้แก่
1. ทาน คือ การบริจาคทรัพย์สิ่งของแก่ผู้ที่ควรให้ 2. ศีล คือ การสำรวมกาย วาจาให้สงบ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนและผู้อื่น 3. ภาวนา คือ การสวดมนต์ ทำสมาธิ ฯลฯ 4. อปจายนะ คือ การมีความเคารพอ่อนน้อมแด่ผู้มีคุณธรรม 5. เวยยาวัจจะ คือ การขวนขวายช่วยเหลือในกิจที่ชอบ 6. ปัตติทานะ คือ การอุทิศส่วนบุญแก่ผู้อื่น 7. ปัตตานุโมทนา คือ การอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นทำ 8. ธัมมัสสวนะ คือ การฟังธรรม 9. ธัมมเทสนา คือ การแสดงธรรม 10. ทิฎฐุชุกัมม์ คือ การปรับปรุงความเห็นของตนให้ถูกต้อง
ความดีทุกอย่างที่เราทำไว้ แม้จะไม่ให้ผลในปัจจุบันทันตา แต่ก็ไม่สูญเปล่า ความดีเหล่านั้นจะรวมกันเข้า ปรุงแต่งจิตใจให้ดีขึ้น เราจึงควรเร่งสร้างความดีเสียแต่บัดนี้ โดยหมั่นศึกษาวิชาการ ฝึกฝนตนเอง ทั้งทางด้านการปรับปรุงคำพูด ความขยันขันแข็ง ทำการงานให้ดีขึ้น และพยายามฝึกใจให้ผ่องใส ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ให้สม่ำเสมอเช่นนี้ จึงเรียกว่า มีบุญวาสนาที่แท้จริง
จากหนังสือมงคลชีวิต โดย พระสมชาย ฐานวุฑโฒ
..................................................... [สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย] [ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=18846
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:09:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 4
|
|
|
 |
ธรรมโอวาท 1 (หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ)
จะเอาโลกหรือเอาธรรม
บ่อยครั้งที่มีผู้มาถามปัญหากับหลวงพ่อ โดยมักจะนำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน สามี ภรรยา ลูกเต้า ญาติ มิตร หรือคนอื่นๆ มาปรารภให้หลวงพ่อฟังอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งท่านได้ให้คติเตือนใจผู้เขียนว่า "โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม " ซึ่งต่อมาท่านได้ให้ความหมายว่า "เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้วต้องกลับเข้ามาหาตัวเอง ถ้าเป็นโลกแล้วจะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดจากในตัวของเรานี้ทั้งนั้น "
เคยมีผู้ปฏิบัติกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า
" หลวงพ่อครับ ขอธรรมะสั้นๆ ในเรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อให้กิเลส 3 ตัว คือ โกรธ โลภ หลง หมดไปจากใจเรา จะทำได้อย่างไรครับ "
หลวงพ่อตอบเสียงดังฟังชัด จนพวกเราในที่นั้นได้ยินกันทุกคนว่า
"สติ"
ที่มา คนเมืองบัว
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11171
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:12:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 7
|
|
|
 |
ธรรมโอวาท.....หลวงปู่สิม พุทธาจาโร...//
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
ธรรมโอวาท จาก พระธรรมเทศนา พุทธาจารานุสรณ์ และ ธรรมลิขิต
14. การภาวนาละกิเลสให้หมดไปจริงๆ นั้น ต้องปฏิบัติดังนี้ เมื่อกำหนดรูปร่างกายของเรา บริกรรมกำหนดลมหายใจจนจิตตั้งมั่นดีแล้ว ต้องกำหนดรูปร่างของเราเอง นับตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ไปตลอดหมดในร่างกายนี้ ให้เห็นตามความเป็นจริง ที่มันตั้งอยู่และมันเสื่อมไป ด้วยความเจ็บไข้ได้ป่วยมีทวารทั้ง 9 เป็นสถานที่ไหลออกไหลเข้าซึ่งของไม่งาม
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10458
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:18:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 8
|
|
|
 |
30 วิธีทำบุญ เพื่อสุขภาพใจและสุขภาพสังคม (พระไพศาล วิสาโล)
สละทรัพย์อย่างฉลาด
สิ่งหนึ่งในเมืองที่เด็กในเมืองต้องการมากก็คือสนามเด็กเล่น ช่วยกันสละเงิน คนละนิดละหน่อย เพื่อให้มีสนามเด็กเล่น เป็นการช่วยสร้างคนดี ให้แก่สังคมในระยะยาว
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9980
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:20:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 9
|
|
|
 |
...สาระจากเรือนธรรม...
สาระจากเรือนธรรม
อะไรที่มันผิดพลาดไปแล้วก็แล้วไป ช่างมัน ตั้งหน้าตั้งตาทำใหม่ ทำสิ่งที่ดีๆ ใหม่ สิ่งใหม่ก็จะเกิดขึ้นในชีวิตของเรา ก็จะเป็นคุณประโยชน์แก่ชีวิตของเราอย่างมากเลย ทำให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบสุข มีความอดทนต่อภาระหน้าที่ที่ต้องทำ เราสามารถปฏิบัติงานไปได้อย่างมีคุณภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมีความพากเพียรพยายาม เหนียวแน่นมั่นคง
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15553
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:22:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 10
|
|
|
 |
คำ ค ม จ า ก 3 ก๊ ก
อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า ธรรมดาเกิดมาเป็นชาย แม้จะแสวงหาเจ้านายซึ่งจะเป็นที่พึ่งนั้น ก็ให้พิเคราะห์ดูน้ำใจเจ้านายซึ่งโอบอ้อมอารีเป็นสัตย์เป็นธรรม จึงให้เข้าอยู่ด้วย แล้วให้ตั้งใจทำราชการโดยสัตย์ซื่อสุจริต ให้เห็นฝีมือเป็นบำเหน็จไว้จึงจะได้ความสุขสืบไป ประการหนึ่งให้มีน้ำใจทำไมตรีแก่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเก่าแก่ไว้อย่าให้ขาด แม้มาตรว่าจะมีภัยสิ่งใดมาถึงตัว ก็จะเผอิญให้มีผู้ช่วยแก้ไขพ้นจากอันตรายได้ ถ้าจะคิดการใดเล่าก็จะสำเร็จ
(ตอนที่40:จิวยี่ว่าแก่เจียวก้าน)
http://picpost.mthai.com/view/14504
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:24:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 11
|
|
|
 |
ชีวิตคนเราทุกคนเหมือนเรือเดินสมุทร...(อ.วศิน อินทสระ)
"... ชีวิตคนเราทุกคนเหมือนเรือเดินสมุทร ซึ่งจะต้องเดินทางฝ่าคลื่นลมและมรสุม แต่ชีวิตเดินทางนานกว่าเรือเดินสมุทร เพราะฉะนั้นขอให้รักษาลำเรือ คือ สุขภาพกาย และเครื่องยนต์ คือ สมอง ตลอดถึงผู้บังคับการเรือคือจิตใจไว้ให้ดี เพื่อฝ่ามรสุมชีวิตไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ..."
จาก "ธรรมและชีวิต" อ.วศิน อินทสระ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=18800
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:28:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 12
|
|
|
 |
ชีวิตกับความรัก (อาจารย์วศิน อินทสระ)
เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะต้องการพัฒนาสังคม ต้องพัฒนาที่ครอบครัวก่อน คือ ให้ครอบครัวดีพัฒนาสังคม ถ้าจะพัฒนาครอบครัวมัน ก็ต้องพัฒนาคนก่อน ถ้าถามว่าพัฒนาคนเราพัฒนาที่ไหนก่อน เราก็ต้องพัฒนาที่นิสัยของคนก่อน เพราะว่าอุปนิสัยนี่เหมือนกับดิน เราจะปลูกพืชก็ต้องเตรียมดินก่อน ถ้าดินไม่ดีละก็เอาพืชอะไรมาปลูก มันก็ขึ้นไม่ดีไม่งาม ถ้าดินดีพืชที่จะเอามาปลูกมันก็ขึ้นงามดี เพราะฉะนั้น ถ้าจะพัฒนาคนก็ต้องพัฒนาที่อุปนิสัยของเขาก่อน คือ ให้คนมีอุปนิสัยที่ดี
คำว่าอุปนิสัยดีนั้นคือ อะไร อุปนิสัยดี ก็คือ ความเลอเลิศทางคุณธรรมนั่นแลเป็นอุปนิสัยดี คุณธรรมคืออะไร คุณธรรม คือ ความเลอเลิศของอุปนิสัย พูดกลับกันก็ได้ คราวนี้การพัฒนาคนต้องพัฒนาให้เขามีคุณธรรม ถึงเขาจะมีความรู้สักเท่าไหร่ มีความสามารถสักเท่าไหร่ เก่งสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีคุณธรรมก็เหลว คือ ทำคนอื่นหรือคนใกล้ตัวเดือดร้อน เพราะไม่มีคุณธรรม และก็เป็นที่พึ่งแก่ตัวเองก็ไม่ได้ เมื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองไม่ได้แล้ว จะเป็นที่พึ่งแก่ใครได้
คัดย่อจาก หนังสือ "ชีวิตกับความรัก" ของท่าน อาจารย์ วศิน อินทสระ
คัดลอกโดย...คุณกิ่งไม้ไทย
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kingmaithai&date=16-06-2005&group=4&blog=1
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10743
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:31:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 15
|
|
|
 |
กลุ่มผู้กล้าช่วยคนติดใต้ท้องรถที่ไฟไหม้
Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว ผู้คนกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปช่วย หนุ่มโชคร้ายซึ่งร่างติดอยู่ใต้รถยนต์ที่กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้ ที่รัฐยูท่าห์ ของสหรัฐ ซึ่งพวกเขาได้ช่วยกันยกรถยนต์น้ำหนัก 1.8 ตัน และดึงตัวหนุ่มโชคร้ายออกมาได้อย่างปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งว่า หนุ่มโชคร้ายรายนี้คือ นาย แบรนดอน ไรท์ วัย 21 ปี ขณะที่เขาขี่จักรยานยนต์อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยยูท่าห์สเตท ในเมืองโลแกน เพื่อจะเข้าเรียน เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำ ที่กำลังถอยออกมาจากลานจอดรถ ซึ่งจากร่องรอยบนถนนและยางรถยนต์ ได้ชี้ชัดว่า ไรท์ได้ล้มรถและไถลไปกับถนน ก่อนจะชนกับรถยนต์ และจักรยนต์ได้ชนเข้ากับฝาครอบกระโปรงรถยนต์ ก่อนจะเด้งตกไปอยู่ที่พื้น ส่วนไรท์ซึ่ง ไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ได้ลื่นไถลเข้าไปใต้ท้องรถยนต์ ก่อนที่รถยนต์และจักรยานยนต์จะเกิดไฟลุกท่วม โดยที่ไรท์ยังคงติดอยู่ใต้ท้องรถ
หลังจากนั้น มีตำรวจ 2 นายและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์จะช่วยปฐมพยาบาลไรท์ และแม้จะไม่ได้สวมหมวกกันน็อค แต่ไรท์ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแต่อย่างใด แต่ปรากฎว่า ขาของเขาหักทั้งสองข้าง กระดูกเชิงกรานหักเท้าซ้ายถูกไฟลวก และมีรอยแผลที่หน้าผาก
ทั้งนี้ เหตุระทึกดังกล่าวถูกบันทึกเป็นวีดิโอจากคนที่อยู่บนตึกเรียนของมหาวิทยาลัย
ปล. clip vdo นี้อยู่ข้างล่างครับ
http://news.mthai.com/world-news/130835.html
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:38:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 16
|
|
|
|
Crowd Rescuing a Biker Trapped under a Burning Car
ปล. ขออนุโมทนกับทุกคนที่ร่วมกันช่วยเหลือด้วยครับ
rockonyou
17 ก.ย. 54
เวลา 3:39:00 IP = 72.229.112.145
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 19
|
|
|
 |
ขอบคุณครับ.....
gula101
17 ก.ย. 54
เวลา 5:42:00 IP = 125.26.224.39
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 21
|
|
|
สาธุครับ ชอบมากครับ
teelamyai
17 ก.ย. 54
เวลา 10:57:00 IP = 12.181.217.194
|
|
|
 |
|
 |
 |
|
 |
|
คำตอบที่ 23
|
|
|
ขอบคุณครับผม...แวะมาดูเรื่อยๆครับ สาระดีๆ...
ball_ozone
17 ก.ย. 54
เวลา 20:03:00 IP = 14.207.233.144
|
|
|
 |
|
 |
|