(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  .......................20 Anniversary Nirvana 'Nevermind'................20 years later still rule.......  
 
วันนี้ อยากจะมา พูดถึง อัลบั้มๆ หนึ่ง ที่ ถ้าพูด แบบ เท่ๆ แล้ว ก็คืออัลบั้ม ที่เปลี่ยนชีวิต และทัศนะคติ ทางดนตรี ของผมไป ตลอดชีวิต

20 ปี ที่แล้ว ผู้ชายร่างผอมแห้ง คนหนึ่ง อายุ แค่ 22 ปี จาก เมือง Aberdeen เมืองเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เค้าแต่งตัวสุดโทรม ผมยาวแต่ไม่สระ หน้าตาดูอ่อนกว่าวัย รวมตัวกับเพื่อนๆ อีกสองคน ทำงานเพลง ที่พวกเค้าไม่ได้หวัง อะไร มากมาย แค่ อยากทำ ก็เท่านั่น

เค้าเขียนเพลง เกี่ยวกับชีวิตตัวเอง โดยไม่สนว่า ใครอยากจะมารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเค้า หรือไม่ แต่ไอ้เรื่องราวเหล่านั่น มันกลับกลายเป็นเรื่องราว ที่เป็นจริงของ เด็กๆ ในวัยเดียวกับเขา อีกหลายล้าน คน

เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมา โดยใช้ชื่อว่า 'Nevermind' ที่ชื่อก็บ่งบอกว่า อย่ามาไปใส่ใจกับมัน หรืออะไร ทั้งสิ้น, ชั่งหัวมัน แต่เรื่องราว แบบ 'ชั่งหัวมัน' กลับกลายมาเป็น กระบอกเสียง แห่งยุคสมัย

ที่ผ่านมา กว่า 20ปี แล้ว กระบอกชิ้นนี้ ก็ยังคงเปล่งเสียงของมัน อยู่อย่างต่อเนื่อง

ณ เวลานั่น ผมยังอายุแค่ 8 ขวบ ได้ยิน Nevermind ครั้งแรก จาก เทปอัด ที่เพื่อนอัดมาให้ฟัง


sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:08:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 1  
 
Nirvana...กีตาร์แตกละเอียด...

   nu3000      29 ก.ย. 54   เวลา 13:13:00    IP = 58.137.211.138
 


  คำตอบที่ 2  
 
ในปี 1989 ใครจะไปรู้ว่า วงดนตรีเล็กๆ จาก Aberdeen วงหนึ่งในสังกัดเล็กๆ อย่าง Sub Pop จะประสบความสำเร็จ อย่างเกินที่พวกเขาคาดหมายไว้ วงเล็กๆ ที่ตระเวนทัว เล่นดนตรี ในรถตู้ เก่าๆ และกลายมาเป็น ทัว ยุโรป ที่พวกเขา ไม่เคยคิด มาก่อน

Nirvana ตอนนั่นยัง เป็นวงรุ่นน้อง ในแวดวง Punk ฝั่ง west coast ที่ยังตามรุ่นอย่าง Tad ,Melvins อยู่ แต่การที่พวกเขาได้ ไปทัว ยุโรป ที่ถือว่า ยังไม่มี punk band จาก USA วงไหน หาญกล้าไป เล่นเย้ย เมืองหลวงแห่ง punk ใน London ได้

ผลพวงครั้งนั่น พวกเขาได้ถูกจับตามมอง จากสังกัดใหญ่ๆ ที่กำลังต้องการ วงดนตรี punk จากใต้ดิน หนึ่งในนั่นคือ David Geffen ผู้ก่อตั้ง Geffen record ในคลือ DGC

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:21:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 3  
 




ได้กลิ่น Come as you are ครับ










สวัสดีครับ น้อง ณัฐ



   สมาชิกแบบพิเศษ      SG Tower      29 ก.ย. 54   เวลา 13:22:00    IP = 58.11.71.253
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 4  
 
หลังจาก จบทัวที่ยุโรป และชื่อ Nirvana ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว พวกเค้ากลับมาเพื่อเตรียมตัว ทำอัลบั้มชุดใหม่ โดยได้รับการทาบทามจาก David Geffen ให้มาเซ็นสัญญา กับ Geffen record แม้ว่า Kurt จะยัง ค่อนอยากจะเข้าร่วนในสังกัด ใหญ่ๆ เท่าใดนัก แต่สุดท้าย ทางวงก็ได้ ร่วมเซ็นต์สัญญากับทาง Geffen เพื่อปูทาง สู่ ก้าวต่อไปของวง

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:29:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 5  
 
แต่ในวันหนึ่ง Kurt ได้บอกกับ Krist ว่า พวกเราน่าจะ ได้มือกลองคนใหม่นะ เนื่องจาก Chad Channing ไม่สามารถ ที่จะเข้ากับ Nirvana ได้ดีพอ และ ความรู้สึกต่อดนตรี ที่หลังๆ มาออกจะเข้ากันไม่ค่อนได้ ในต้นปี 1990 Chad จึงได้ออกจากวงไป แต่ความเป็นเพื่อน ยังคงมีอยู่

ทาง Nirvana เริ่มมองหา มือกลองคนใหม่

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:34:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 6  
 
โอ้ พึ่งสอย Nevermind Deluxe Edition ที่พึ่งออกมาจาก HMV มาเมื่อสองวันที่แล้ว

บังเอิญเข้ากับกระทู้นี้พอดีเลยครับ

   Armakusa Gin      29 ก.ย. 54   เวลา 13:38:00    IP = 202.42.147.194
 


  คำตอบที่ 7  
 
ณ เวลานั่น ต้นปี 1990 แฟนเพลงของ Nirvana คนหนึ่ง เขาเป็นมือกลอง ที่ตีกลองให้กับวง Hardcore-Punk นามว่า Scream แต่เมื่อ Scream ไปไม่รอด และรู้ว่า Nirvana กำลังมองหามือกลองใหม่อยู่

แฟนเพลงผู้นี้ ไม่รีรอ ที่จะโทรไปหา krist Novoselic เพื่อ ขอโอกาสให้เขาได้ audition กับทาง Nirvana และ ต่อมา แฟนเพลงคนนี้ ก้กลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Nirvana ในที่สุด เขาคนนั่นชื่อว่า Dave Grohl

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:43:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 8  
 
Dave เดินทางมาถึง Seattle เพื่อเริ่มต้นกับการเป็นมือกลองให้กับ Nirvana แต่.............งานเพลง และวัตถุดิบหลายๆ อย่างกับ ไม่ได้มีความคืบหน้า เพราะ Kurt เพิ่งอกหัก จากแฟนสาวมา Kurt มกตัวอยู่ในห้องตลอดทั้งวัน ไม่พุดไม่จา กับใคร ไม่สนใจกับงานบันทึกเสียงที่กำลังจะเริ่มขึ้น

Dave ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับ Kurt โดยที่ Kurt ไม่แม้แต่จะพูดจาใดๆ ด้วย ตลอดสองสัปดาห์ในห้วงแห่งอาการอกหัก วันๆ Dave สังเกตุเห็นแต่ Kurt นั่งเหม่อลอย กับจดบันทึกอยู่คนเดียว

จนมาเช้าวันหนึ่ง หลังจากที่ซึมเศร้ามา สอง สัปดาห์เต็มๆ Kurt เดินมาบอกกับ Dave ว่า 'มึงรู้มั้ย กูก็เป็นแบบนี้บ่อยๆว่ะ' จากนั่นทั้งสอง จึงเดินทางไปพบ Krist และเริ่มซ้อมกับบทเพลงใหม่ๆ ที่กำลังจะเริ่มบันทึกเสียง

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 13:53:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 9  
 
ในที่สุด Kurt กลับมามีชีวิต ชีวาอีกครั้ง วัตถุดิบในการบันทึกเสียงก็เพิ่ม Nirvana กำลังจะก้าวเดินไปข้างหน้า อีกก้าว และเป็นก้าวที่ใหญ่ มากๆ ด้วย

Dave ใช้เวลา ร่วมเล่น concert กับ Nirvana ในช่วง สามเดือน เพื่อปรับตัว ให้เข้ากับเพลงของ Nirvana ที่ต่อมา พวกเขาก็ได้รู้ว่า พวกเขาได้มือกลองที่ สุดวิเศษ ที่มาเติมเต็มให้พวกเขาแล้ว และ Dave ก็มี ความสามารถ ในการร้องเพลงอยู่ด้วย ที่สามารถร้อง backup ให้ Kurt ได้

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:00:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 10  
 
show แรก ของ Dave Grohls กับทาง Nirvana ในปี 1990

Track : Love Buzz

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:04:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 11  
 
ทางวง Nirvana ได้ถูกแนะนำให้รู้จักกับ Butch Vig Producer ผู้ที่ฝากข้องาน produce ให้กับวง Punk/Alternative หลายวง รวมทั้ง Gish อัลบั้มชุดแรกของ The Smashing Pumpkins

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:13:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 12  
 
เมื่อทุกอย่างพร้อม Nirvana จึงมุ่งหน้าสู่ Sound City Studio ในเมือง Los Angeles เพื่อทำการเริ่มต้นบันทึกเสียงอัลบั้มชุดใหม่

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:20:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 13  
 
ในอัลบั้มแรก Bleach ใช้งบประมาณในการบันทึกเสียง $600

แต่ในอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะเริ่มบันทึกเสียงนั่น ทางวงได้ งบประมาณมา $65,000 บางที มันมากจน ทางวงก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรมั่ง

ในภาพ : Dave Grohl และ Butch Vig กำลังช่วยกัน set กลองชุด ที่จะนำมาใช้ในการบันทึกเสียง



   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:27:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 14  
 
Track แรกในอัลบั้ม Smells Like Teen Spirit จริงๆ Kurt เกือบจะเขี่ยเพลงนี้ออกจาก อัลบั้ม แล้ว เพราะ ความไม่ลงตัวของ ทำนอง และเนื้อร้อง ที่เมื่อ Kurt เริ่มเล่นเพลงนี้ ครั้งไหน มันก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ และ หาทางจบไม่ได้

Kurt เขียนเพลงนี้ ขึ้นมาไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มบันทึกเสียงด้วยซ้ำ เพราะ ทีแรก In Bloom คือ single ของทางวง

เมื่อ Kurt เริ่มเล่น riff ของ smells like teen spirit ในช่วงพักของการบันทึกเสียง Butch Vig ได้ยินแล้วถึงกลับ บอกว่า '' เฮ้ย!!! เพลงนี้เจ๋งว่ะ พวก, ทำไมนายไม่ลองเล่นให้จบ ล่ะ '' จากนั่น ทั้ง Kurt ,Krist และ Dave ก็ช่วยกัน เรียบเรียง ในส่วนของท่อนต่างๆ Kurt จัดการเรื่องของเนื้อร้องใหม่ จนเสร็จสมบูรณ์

smells like teen spirit เป็นเพลงแรกที่ สมาชิกทั้งสาม มี credit ในการแต่งและเรียบเรียง

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:41:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 15  
 
อ่านตาม ยิ่งคิดถึง

   d-a-d-g-a-d      29 ก.ย. 54   เวลา 14:43:00    IP = 110.171.10.200
 


  คำตอบที่ 16  
 
ที่มาของ smells like teen spirit คงมาจากเธอคนนี้ Kathleen Hanna นักร้องนำแห่งวง Bikini Kill เธอคือเพื่อนสนิทของ Kurt

ในปี 1990 เธอได้ไปร่วมปาร์ตี้กับ Kurt และช่วงที่กำลังเมาๆนั่นเอง เธอหยิบ สีสเปรย์ ขึ้นมาพ่นลงบนกำแพง ว่า "Kurt smells like teen spirit"

ความหมายมันมีแค่เพียง Kurt ใช้น้ำยาดับกลิ่นตัว ยี่ห้อ Teen Spirit

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:48:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 17  
 
น้ำยาดับกลิ่นตัว ''Teen Spirit''

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:50:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 18  
 
smells like teen spirit : 1991



   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:52:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 19  
 
^.........................^

   bbling      29 ก.ย. 54   เวลา 14:54:00    IP = 203.155.54.251
 


  คำตอบที่ 20  
 
บรรยากาศในการบันทึกเสียง

Butch Vig กล่าวไว้ว่า การทำงานกับ Nirvana ค่อนข้างเรียบง่าย มันเรียบง่ายกว่า ทำงานกับ The Smashing Pumpkins ซะด้วย แต่ในความเรียบง่ายนั่น มันเต็มไปด้วยความยากเย็น อย่างสุดขั้ว

เพลงใหม่ๆ ของ Nirvana เกิดขึ้นมาสดๆ จากการแจม กันเล่นๆ หลายเพลง Kurt ซ้อมไลน์กีตาร์ของเขากับ กีตาร์โปร่ง 12 สาย ที่เหลือสายเพียง 5 สาย และเขาไม่เคยตั้งสายเลยสักครั้ง

เมื่อเหนื่อยจากการซ้อม และบันทึกเสียง พวกเขาจะ relax ด้วยการเล่น cover วงโปรดของพวกเขาเอง

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 14:59:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 21  
 
สุดยอดคับ ต่อเลยคับ เพลินดีจังเลย วงสากลวงแรก ๆ ที่เริ่มฟังอย่างจริงจังเลยคับ ขอบคุณนะคับ ^.^

   guitarnut  29 ก.ย. 54   เวลา 15:11:00    IP = 125.25.144.142
 


  คำตอบที่ 22  
 
In Bloom เพลงนี้ Kurt เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1990 ในครั้งแรกมันเป็นเพลงเร็ว ติดกลิ่น punk สุดขั้ว แต่ Krist แย้งว่า มัน sound ใกล้เคียง Bad Brains เกินไป Kurt จึงเปลี่ยนมาเป็นเพลงที่ช้าลง และใส่ท้วงทำนอง ที่ pop มากขึ้น

ในทีแรก Butch Vig ได้ฟัง demo เพลงนี้ที่บันทึกในปี 1990 เขาถึงกับโยนมันทิ้งทันที และ กล่าวว่า เพลงนี้ ต้องเรียบเรียงใหม่ซะ หรือไม่ก็ตัดมันทิ้งเสีย

Kurt ปฏิเสธ ที่จะทำการบันทึกเสียงแบบ overdub และการร้องประสานเสียง ที่ Butch Vig แนะนำ ฉนั่น สิ่งที่ Butch Vig จะทำได้คือ คอยแอบบันทึกเสียง เวลา พวกเขาซ้อมกัน แล้วเอามาเลือกเอา track ที่ดีที่สุด ส่วนเสียงประสานของ Dave Grohl ในเพลงนี้นั่น แอบให้ Dave ช่วย โดยไม่ให้ Kurt รู้ และเมื่อเพลงนี้ บันทึกเสียงเสร็จ Kurt ได้ยิน เสียงของเขา ที่มีเสียงร้องประสานอยู่ ข้างหลัง เขาจึงถาม Butch Vig ว่า ''นี้เสียงของใคร'' Butch Vig จึงบอกกับ Kurt ว่า มันคือเสียงของ John Lennon

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:13:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 23  
 
In Bloom : Argentina 1992

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:17:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 24  
 
Kurt Cobain เหนื่อยๆ จากการบันทึกเสียง ก็ออกมา พบปะ พูดคุย กับแฟนเพลง

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:20:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 25  
 
โอย....น้ำตาจะไหลครับ ขอบคุรท่านsickboyมากๆครับ

แรงบันดาลใจของผมในการเล่นดนตรีก็คือชาวคณะNirvanaนี่แหละครับ

คิดถึงพวกเค้า(ในนามNirvana)ครับ ^_^

   LocalHero      29 ก.ย. 54   เวลา 15:27:00    IP = 125.24.98.72
 


  คำตอบที่ 26  
 
เบื่อๆ หน่อยก้ party

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:30:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 27  
 
party เสร็จ เมาแล้วก็ นอน........

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:31:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 28  
 
kurt เกิดพร้อม nirvana ...

   syrup guitar      29 ก.ย. 54   เวลา 15:37:00    IP = 58.10.124.147
 


  คำตอบที่ 29  
 
เนื้อหาดีมากครับพี่ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านกัน ^^

   สมาชิกแบบพิเศษ      sukkavadee      29 ก.ย. 54   เวลา 15:42:00    IP = 203.148.220.206
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 30  
 
Lithium..............เพลงนี้ Kurt ไม่ได้แต่งขึ้นมาเพื่อ สิ่งใดเป็นพิเศษ แต่มันเกิดมาจาก การที่ Kurt ชอบแต่งบทกวี เมื่อกวีของเขา หลายๆ บทมารวมกัน มันจึงเกิดเป็นเนื้อเพลงๆ หนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า Lithium

มันคือหนึ่งใน เพลง ที่ใช้เวลาในการบันทึกเสียง มาก Kurt ทอลอง ใช้ Big Muff ในเสียงกีตาร์ของเพลงนี้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหา ของเพลงนี้คือ timing ที่ไม่ว่าจะเล่นกี่ครั้งๆ พวกเขาก็เล่น ช้าลงๆ

Butch Vig ให้ทางวงบันทึก เพลงนี้หลายครั้งมาก เนื่องจาก ยังไม่มี track ไหน ที่โดน จริงๆ สักที Kurt หัวเสียกับเพลงนี้ พอสมควร แต่มันก็สำเร็จในที่สุด

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:46:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 31  
 
Lithium : Denmark 1992

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 15:50:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 32  
 
ปี91 นี่มีอัลบั้มขึ้นหิ้งออกมาหลายชุดเหมือนกัน

Metallica ปกดำก็ใช่

ตอนนั้น มีเงินพอแค่ซื้อเทปพีค็อกจากร้าน โดเรมี อยู่เลย แหะๆ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ms05b      29 ก.ย. 54   เวลา 16:00:00    IP = 223.24.23.213
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 33  
 
เป็นวงที่สร้างทัศนคติต่อดนตรีด้านใหม่ให้ผมเลยครับ ^^

   ford_bw      29 ก.ย. 54   เวลา 16:03:00    IP = 125.27.218.186
 


  คำตอบที่ 34  
 
ขอพัก ดูดบุหรี่ ก่อน แปป

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 16:09:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 35  
 
สุดยอดจริงๆครับวงนี้

   สมาชิกแบบพิเศษ      จ่าขม      29 ก.ย. 54   เวลา 16:17:00    IP = 125.25.246.135
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 36  
 
Come As You Are เพลงนี้ เป็นเพลงหนึ่งที่ เรียบง่าย การบันทึกเสียงไม่มีปัญหาใดๆ จะมีสะดุด ตรงหลังจาก solo ในช่วงท้ายของเพลง Kurt ดันร้องผิดท่อน "And I don't have a gun" ก่อนที่จะถึงท่อนร้อง จริงๆ ในช่วงท่อนที่เขาร้องว่า "memoria" Kurt เลือกที่จะเก็บ ท่อนที่ผิดพลาดนี้ไว้ โดยไม่แก้ไข ใดๆ

Come As You Are มันคงไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย ในสิ่งที่ Kurt ต้องการสื่อ ถึง ตัวตนที่แท้จริง ของตัวคุณ คุณควรจะเป็นในสิ่งที่คุรควรจะเป็น ทำในสิ่งที่ควรจะทำ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกิน ไป

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 16:21:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 37  
 
Come As You Are : 1991

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 16:27:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 38  
 
ผมอยากให้ Sound ชุด Nevermind ดิบขึ้นอีกนิด

แต่มันก็เจ๋งที่สุดอยู่ดี

^_^

   Djam      29 ก.ย. 54   เวลา 16:27:00    IP = 125.27.69.211
 


  คำตอบที่ 39  
 
Kurt กับ Krist ที่ป้ายทางเข้าเมือง Aberdeen ในปี 1988

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 16:46:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 40  
 
ป้ายทางเข้าเมือง Aberdeen ในปัจจุบัน

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 16:47:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 41  
 
Polly เพลง ที่บอกเล่าเรื่องราวที่แสนเศร้า Kurt เขียนเพลงนี้ขึ้นมาในปี 1987 หลังจาก เขียนเพลง About a Girl เสร็จ

เพลงนี้เดิมที ใช้ชื่อว่า 'Hitchhiker' ผู้โดยสารร่วมทาง ที่อาศัยยการโบกรถริมทาง ต่อมาใช้ชื่อว่า "Cracker" และสุดท้าย มาลงที่นามสมมติ ''Polly''

เพลงนี้บันทึกเสียงครั้งแรกแบบ เต็มวง ซึ่งใน ทีแรก Butch Vig ก็เห็นด้วย กับการที่จะบันทึกเพลงนี้แบบเต็มวง กีตารื เบส กลอง แต่ วันหนึ่ง Kurt หยิบ กีตาร์โปร่ง 5 สาย ตัวเดิมขึ้นมา และเล่น Polly เค้าเลล่น คนเดียวซ้ำไป ซ้ำมา Butch Vig ได้ยิน ที่ Kurt เล่น เขาจึงเอาเครื่องบันทึกเสียงไปวาง ไว้ใกล้ๆ Kurt และปล่อยให้ Kurt ไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้ว Butch Vig เห็นว่า Polly ควรจะเป็นเพลง acoustic มากกว่า และ Kurt ก็เห็นด้วย

เนื้อหาหลักๆ ของ Polly ที่ Kurt เขียนขึ้นจากข่าว ที่มีเด้กผู้หญิงคนหนึ่ง ถุกจี้ และลักพาตัว เธอถุกข่มขืน และกักขัง อย่างทรมาน

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:03:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 42  
 
ขอบคุณมากเลยครับสำหรับข้อมูล เเก้คิดถึงก่อนการไปซื้อเจ้าชุด 20 Anniversary ได้เลยทีเดียวครับ

บอกตามตรงเลยว่าในช่วงยุคของดนตรีที่ผมเกิดมายังไม่เจอวงไหนที่ทำให้วงการเพลงกระเทือนได้เบบ
Nirvana เลยครับ

พอยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพบความเจ๋งของเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ...

   unn08  29 ก.ย. 54   เวลา 17:05:00    IP = 110.77.180.168
 


  คำตอบที่ 43  
 
กีตาร์โปร่ง Stella 12 สาย ที่เหลือเพียง 5 สาย ที่ Kurt ใช้บันทึกเสียง Polly

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:08:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 44  
 
Polly : 1991

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:11:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 45  
 
Krist Novoselic

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:13:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 46  
 
Something in The Way อีกเพลงหนึ่ง ที่น่าสนใจ ในการบันทึกเสียงใน Nevermind

เชื่อมั้ยว่า เพลงที่มีเพียง 2 คอร์ด เพลงนี้ เป็นเพลงที่บันทึกเสียงยากที่สุดในอัลบั้ม

จากเดิมที เพลงจะบันทึกเสียงแบบเต็มวง แต่ก็ยังหาข้อสรุปในการวาง สัดส่วน และการเล่น ได้สักที ในการบันทึก ไลนืกีตาร์ ของเพลงนี้ Kurt ถึงกับ ฟาดกีตาร์ทิ้ง ไปหนึ่งตัว เนื่องจาก เสียงและจังหวะที่ออกมา มันไม่ตรงกับที่เขาตั้งใจเอาไว้

Butch Vig กล่าวว่า เพลงนี้ ใช้ หลาย take มากๆ เขาให้ Nirvana เริ่มเล่น และสั่งหยุด เป็นหลายสิบครั้ง แต่ก็ยัง ไม่ได้ track ที่ใช้ได้ สักที

ถึงแม้จะซ้อมกันหลายสิบรอบ แต่ผลที่ออกมามันก็ ยังไม่น่าพอใจนัก Butch Vig ปล่อยให้ ทาง วง relax สักพัก Kurt เลือกที่จะฟังเพลงโปรดของตัวเอง เงียบๆ Krist หลบมุมสูบกัญชา Dave เมากับไวน์ ทั้งวัน ทั้งคืน

จนมาถึงวันหนึ่ง Kurt เดินมาหา Butch Vig เขาหยิบ กีตาร์ stella 12 สาย ที่เหลือเพียง 5 สาย ขึ้นมา โดยที่กีตาร์ตัวนี้ สายเพี้ยนมาก แต่ Kurt ก้ไม่คิดจะตั้งสายมัน จากนั่น Kurt บรรจงเล่น something in the way ขึ้นมา กับกีตาร์สายเพี้ยนตัวนั่น

Kurt ร้อง คลอเบาๆ จนแทบจะไม่ได้ยินเสียง Butch Vig รีบไปหยิบ เสียงบันทึกเสียง และสั่งปิดตาย studio ทุกทาง เพื่อให้ได้ยินเสียง ที่ Kurt เล่นอย่างชัดเจนที่สุด เพราะนี้อาจจะ เป็นโอกาสเดียว เท่านั่น ในการบันทึกเสียงเพลงนี้

เมื่อ Kurt เล่นจบ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Butch Vig ได้บันทึกเสียงที่เขาเล่นเมื่อกี้ไว้หมดแล้ว และนี้ กลายมาเป็น สิ่งที่ใช้ที่สุดสำหรับเพลง something in the way เสียงกีตาร์โปร่งสายเพี้ยน กับเสียงร้องที่แผ่วเบา มันบ่งบอกถึงอารมร์ที่แสน เศร้า หดหู่ ของเนื้อในเพลงได้ ชัดเจน

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:31:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 47  
 
something in the way เพลงที่ Kurt เขียนขึ้น ถึงช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ต้องเป็นคนไร้บ้าน ระหกระเหิน ไปอาศัยอยู่ใต้สะพาน ข้ามแม่น้ำ wishkah

เขาต้องประทังชีวิตด้วยกับจับปลาในแม่น้ำ มากิน นอนทนกับอากาศที่หนาวเหน็บ ไร้บ้าน ไร้คนมาสนใจ

แต่โชคดีเหลือเกิน ที่ แม่เลี้ยงใหม่ ที่มาแต่งงานกับ พ่อเขานั่น ได้ นำ ปืน หลายกระบอก มาทิ้งลงที่แม่น้ำแห่งนี้ Kurt ได้งมเอาปืนทั้งหมด ขึ้นมา และนำไปขาย เงินที่ได้มา มันมากพอที่จะให้เขาไปหาห้องเช่าถูกๆได้ และกีตาร์ Univox ตัวแรกในชีวิต

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:38:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 48  
 
something in the way

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:41:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 49  
 
Kurt Cobain

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:45:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 50  
 
Krist Novoselic

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:46:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 51  
 
Dave Grohl

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:47:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 52  
 
25 กันยายน 1991 Nirvana ก็วางแผงออกจัดจำหน่ายวันแรก

ภายใน สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย Nevermind ทำยอดขายได้ 250,000 copies ซึ่งมากเกินกว่าที่ทาง Geffen rocord คาดหวังไว้

และยอดจำหน่ายก็ ขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนแรก ยอดจำหน่ายได้ถึง 5 ล้าน copies และปีต่อมา 1992 ยอดจำหน่ายทะลุ 10 ล้าน copies และ เพิ่มเป็น 30 ล้าน copies

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:55:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 53  
 
ในช่วงต้นปี 1992 ทาง DGC ต้นสังกัด จัดงานฉลองยอดจำหน่าย 10 ล้าน copies ให้กับทางวง

ในวันนั้น ทั้ง Kurt ,Krist และ Dave ต่างเมาปลิ้น ได้ที่ พวกเขาให้ DJ เปิดเพลง Disco ยุค 80 แทนที่จะเปิดเพลงของ ทางวง และ พวกเขาเริ่มเอา อาหารมาขว้างใส่กัน จน ผู้จัดงานต้องใน รปภ. มาลากทั้งสาม ออกจากงาน

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 17:59:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 54  
 
Nevermind สำหรับผมแล้ว มันคือประตูบานใหญ่ ที่เปิดให้ผม ได้ สัมผัสกับ attitude อีกแบบหนึ่งของ คำว่า ดนตรี พวกเค้ามอบ ทัศนะคติ ใหม่ๆ ให้ผมได้รู้จักความสุขของ ดนตรีในอีกแบบ หนึ่ง มันไม่จำเป็นต้อง ซับซ้อน หรือมีทฤษฎีอะไรมากมาย มันใช้ แค่ หัวใจ สิ่งเดียว เท่านั่น ที่สามารถสัมผัสมัน ได้ อย่างเต็มที่ .....

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 18:11:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 55  
 
ขอขอบ คุณ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะครับ

คืนนี้ ดึกแล้ว ขอตัวไปนอน ก่อนครับ

ขอขอบคุณ ทุกๆ ท่านอีกครั้ง ครับ

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 18:13:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 56  
 
...............cheers......................

   sickboy      29 ก.ย. 54   เวลา 18:15:00    IP = 75.4.30.61
 


  คำตอบที่ 57  
 
สุดยอด ขอบคุณครับ

   Foxgear      29 ก.ย. 54   เวลา 18:54:00    IP = 223.204.164.199
 


  คำตอบที่ 58  
 
ผมว่าการเลือก Andy Wallace มาเป็นคนมิกซ์อัลบัมนี้ มีส่วนกับการประสบความสำเร็จในวงกว้างเหมือนกัน

ความเนี๊ยบของโปรดัคชั่นบวกกับความหนักแน่นตามสไตล์ของ Andy Wallace ทำให้งานฟังง่าย

แต่ก็สูญเสียความดิบแบบพังค์ๆไป

ตอนหลัง Kurt Cobain เลยไม่ชอบการมิกซ์ของ Andy Wallace มาใช้บริการ Steve Albini แทน

   Armakusa Gin      29 ก.ย. 54   เวลา 18:56:00    IP = 202.42.147.194
 


  คำตอบที่ 59  
 
รูปเด็กทารกที่ดำน้ำตามแบ๊งค์บนปกชุด never mind ตอนนี้โตแล้วนะครับ
เค้าชื่อ สเปนเซอร์ เคนเน็ธ รอยซ์ เอลเดน

   bigton      29 ก.ย. 54   เวลา 19:39:00    IP = 171.4.97.208
 


  คำตอบที่ 60  
 
สรุปว่ามันเป็นอัลบัมแอบอัดใช่มั้ยครับเนี่ย ^^

โปรดิวเซอร์คงเหนื่อยมาก เท่าที่อ่านมา คงหัวเสียพิลึก ถ้าเป็นผมคงลาออกไปนานแล้ว 555

   9tawan      29 ก.ย. 54   เวลา 20:22:00    IP = 202.176.88.129
 


  คำตอบที่ 61  
 
สวัสดีครับพี่ ความรู้แน่นๆเลยครับ...^^

   nazeerock      29 ก.ย. 54   เวลา 21:05:00    IP = 110.168.182.118
 


  คำตอบที่ 62  
 
ขอบคุณจริง ๆ ครับผม ^^

   Rivera29      29 ก.ย. 54   เวลา 21:38:00    IP = 223.205.6.187
 


  คำตอบที่ 63  
 
ขอบคุณคับ...

   Dr.sin      29 ก.ย. 54   เวลา 22:26:00    IP = 101.51.233.21
 


  คำตอบที่ 64  
 
ชอบกระทู้นี้มากๆ ขอบคุณครับ ได้รู้เรื่องราวเยอะแยะเลย
ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบ Nirvana แต่ไม่เคยกังขาในดนตรีของพวกเขา
นึกย้อนไปถึงปีที่ Kurt ตาย ตอนนั้นงานปีใหม่ที่โรงเรียนผม
ทุกวงพร้อมใจกันเล่น Nirvana โดยไม่ได้นัดหมายเลย

   Krisadaa      29 ก.ย. 54   เวลา 22:46:00    IP = 110.168.99.156
 


  คำตอบที่ 65  
 
ขอบคุณครับ สาระ จริงๆ

   sOnR4m      29 ก.ย. 54   เวลา 23:07:00    IP = 171.97.7.71
 


  คำตอบที่ 66  
 
ขอบคุณครับ ^^

   CG11      29 ก.ย. 54   เวลา 23:15:00    IP = 115.31.167.168
 


  คำตอบที่ 67  
 
ชอบมากๆครับพี่ ขอบคุณมากครับ ^_^...

   TooM_TaaM      30 ก.ย. 54   เวลา 3:40:00    IP = 110.168.59.190
 


  คำตอบที่ 68  
 
เข้ามา ขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านอีกครั้งครับ ที่เข้ามาติดตามกัน

อาจจะ ทักทาย เอ่ยนาม ได้ไม่ทั่วถึง ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ

จริงๆ ยังมีเรื่องราว ที่ผมอยากจะเอามาเขียน อีก เยอะครับ กับอีกหลาย tracks ใน Nevermind ที่น่าสนใจ กับเรื่องราว มันส์ๆ ในการทัว nevermind ที่ผมจะหยิบ มาเขียนลงในคราวหลัง ครับ



   sickboy      30 ก.ย. 54   เวลา 4:00:00    IP = 75.4.212.38
 


  คำตอบที่ 69  
 
Sub Pop เป็นค่ายเพลงที่ผมชอบมากที่สุดครับ

   ELTKLSR      30 ก.ย. 54   เวลา 4:41:00    IP = 203.144.144.165
 


  คำตอบที่ 70  
 
ขอบคุณมากๆครับ สนุกสนานมากครับ

   breakfast101      30 ก.ย. 54   เวลา 10:26:00    IP = 58.8.30.142
 


  คำตอบที่ 71  
 
ยอดเยี่ยมมากๆครับ ยังไงฝากไปถึงIn Uteroอีกสักชุดนะครับ ^_^

   LocalHero      30 ก.ย. 54   เวลา 11:07:00    IP = 183.89.114.135
 


  คำตอบที่ 72  
 
yes!

   sodear      3 ต.ค. 54   เวลา 21:54:00    IP = 223.206.28.177
 


  คำตอบที่ 73  
 
เปนวงเดียวที่ทำ ให้ผมเล่นกีตาร์เปน ^^

   thebest99      7 ธ.ค. 54   เวลา 13:03:00    IP = 61.90.18.243
 


  คำตอบที่ 74  
 
...

   gibsoncustomman      30 พ.ค. 55   เวลา 3:01:00    IP = 223.205.8.241
 


  คำตอบที่ 75  
 
...

   PETCHPOM      23 ม.ค. 56   เวลา 17:33:00    IP = 101.109.139.1
 


  คำตอบที่ 76  
 
สำหรับผม วงนี้คือตำนาน และไม่มีใครมาเทียบวงนี้ได้
ผมชอบที่เค้าบอกว่าในช่วงยุค1990 เพลง Smell like teen spirit คือเพลงชาติของอเมริกา

ส่วนตัวผมKurt คือพระเจ้าทางดนตรีครับ

   ชีโต๊ส      29 ม.ค. 56   เวลา 22:09:00    IP = 124.122.206.249
 


  คำตอบที่ 77  
 
สาวก ครับ

   kkcoke      30 ม.ค. 56   เวลา 14:13:00    IP = 180.183.133.87
 


  คำตอบที่ 78  
 
ขอบคุณมากๆครับ ถึงจะนานแล้วแต่ผมก็ได้มาอ่าน

   สมาชิกแบบพิเศษ      Baracuda      12 ธ.ค. 56   เวลา 17:08:00    IP = 124.122.20.225
สมาชิกแบบพิเศษ  
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket