|
|
|
|
|
ใครรู้ รายละเอียดหรือทิศทางของ สพฐ เรื่อง ลดการบ้านบ้างครับ มาคุยกัน |
|
|
|
|
|
เห็นว่าในนี้ครูเยอะ
ผมอ่านแต่ข่าว แต่ก็งงๆ ที่เหตุผลคือไม่อยากให้เด็กเครียด
แต่ผมสงสัยว่า การจัดการเรียนการสอน ภาระงานจะเปลี่ยนไปรึเปล่่
ถ้าครูตรวจงานน้อยลงก็มีเวลาไปค้นคว้า ทำตำแหน่งวิชาการ อ่านหนังสือมากขึ้นด้วย
ไม่ รู้ว่า ครูในการศึกษาพื้นฐานจะมีระบบประเมินเหมือน อาจารย์มหาลัยรึเปล่าที่ว่า ต้องทำผลงานวิชาการด้วย ไม่ใช่สอนอย่างเดียว
เรื่องนี้น่าสนใจนะว่า ถ้าให้เวลาครูมากขึ้น ครูไทยจะเป็นยังไง....
เงอะ
30 ม.ค. 56
เวลา 14:17:00
พิมพ์
แจ้งลบ IP = 182.53.171.98
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 1
|
|
|
เปลี่ยนเหมือนกันนะ ผมก็จะเริ่มเปลี่ยนล่ะ ปรับอะไรกันอีกเยอะ
bbling
30 ม.ค. 56
เวลา 14:21:00 IP = 203.155.54.251
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 2
|
|
|
ขอแบบ ยาวๆครับพี่เอก อยากรู้ว่าจะออกมาเป็นไง
ตามอ่านข่าวกี่ที่ก็เจอแต่เรื่องห่วงเด็ก
ผมสนใจเรื่องภาระงานของครูมากกว่า
อย่างอาจารย์มหาลัย ภาระงานสอนก็ส่วนนึง แต่ก็เริ่มมีข้อบังคับแล้วว่า ต้องมีผลงานวิชาการ วิจัย บทความ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังอ่านหนังสือยังค้นคว้าอยู่ ไม่ใช่วันๆสอยอย่างเดียว
เรื่องนี้อาจารย์มหาลัยก็มีทัเงบ่นและไม่บ่น
ผมก็เห็นว่าดีนะ อาจารย์สอนเช้าชามเย็นชามได้ลดลง มันก็จะส่งผลดีกับเด็ก
ทีนี้เรื่องการบ้าน มันก็มีประอเภทสั่งเอามัน เด็หไปลอกเน็ทมาส่งก็ไม่ตรวจ ไม่ว่า
สั่งการบ้านแบบนี้ ผลักภาระให้เด็กแต่ตัวเแงไม่ตรวจ
แบบนี้ก็น่าจะถูกบอกให้เลิก
แต่ถ้าให้มองเรื่องครู ถ้าไม่สั่งการบ้าน ก็ต้องเปลี่ยนวิธีประเมิน สอบบ่อยขึ้น ก็เป็นวิธีนึงมั้ง
เพราะเรื่องวัดผลยังไงก็สำคัญ
เงอะ
30 ม.ค. 56
เวลา 14:29:00 IP = 182.53.171.98
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 3
|
|
|
ผมว่านักเรียนไทยถูกสอนแต่ความรู้ในตำราเยอะมากเกินไป เรียนไป ในชีวิตจริงก็ไม่ได้ใช้ไรมากเท่าไรเลยครับ
เรื่องความรู้รอบตัวของนักเรียนไทยมีน้อยมากๆ ซึ่งการเรียนการสอนของไทยมองข้ามจุดนี้ไป และไปเน้นกับวิชาการเสียเยอะ ทั้งๆที่มันจำเป็นในการใช้ชีวิตมากกว่าความรู้ในตำราครับ
ที่สำคัญครูต้องเป็นครูครับ ครูไทยไม่ค่อยมีจรรยาบรรณเท่าไร สอนตามหน้าที่ไปวันๆ
kkcoke
30 ม.ค. 56
เวลา 14:35:00 IP = 125.24.249.72
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 4
|
|
|
ผมว่าผมมองสองส่วน หนึ่งคือครู สองคือเด็ก มามองครูกันก่อน - ข้อดีของส่วนนี้คือ การที่ครูมีภาระน้อยลง ทำให้มีเวลาเตรียมตัวสอนมากขึ้น หาอะไรนอกตำราให้ดกได้รู้มากขึ้น อันนี้คาดเดาได้ง่ายๆ - ข้อเสีย ตราบใดที่ยังมีการประเมินคุณภาพครูและต้องมีการทำผลงาน ก้จะมีครุส่วนนึงที่มุ่งแต่ทำผลงาน เพื่อขั้นและเงินเดือน ครับ ส่วนนี้ก็อย่าได้หาคุณภาพการสอนในส่วนนี้
มองรวมๆในส่วนของครูมันมีได้อย่างเสียอย่างจริงๆครับ จะให้ยกเลิกการระเมินและการทำผลงานออกไป ... ก็คงทำไมได้
ส่วนของเด็ก - ข้อดี ผมว่าเด็กมีเวลาเยอะขึ้น อาจจะว่างไปเตะบอลมากขึ้น เข้าร้านเกมมากขึ้น ทำกิจกรรมอื่นๆได้มากขึ้นในส่วนที่ควรจะเป็น - ข้อเสีย ... มีเวลาเอาไปลงเรียนพิเศษมากขึ้น หรือเมื่อไม่มีการบ้าน เด็กยังไงก็คือเด็กครับ ขี้เกียจเป็นประจำ(ขึ้นอยู่กับการสั่งสอน) การบ้านช่วยให้เด็กทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมา เอามา "ลับสมอง"
ปล. แค่เหตุผลส่วนตัวครับ ผมยังมองอะไรไม่กว้าง หวังว่าจะได้ความคิดเห็นดีๆจากกระทู้นี้ :)
plugnaja
30 ม.ค. 56
เวลา 14:36:00 IP = 202.176.88.45
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 5
|
|
|
ฟังข่าวจำไม่ได้เหมือนกัน แต่ลักษณะน่าจะให้เด็กได้ปฏิบัติมากขึ้นล่ะมั้ง แต่เวลาเปิดปิดเรียนเนี่ยน่าจะให้เหมือนๆกะชาติอื่นๆในอาเซียนที่มหาลัยผมกำลังเริ่มๆทยอยทำทีละสาขาอะ
bbling
30 ม.ค. 56
เวลา 15:20:00 IP = 203.155.54.251
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 6
|
|
|
kkcoke .................. เข้าใจประเด็นที่จะบอกครับ แต่ขอเปลี่ยน สอนตามตำรา
เป็นสอนตามคู่มือการสอนจะดีกว่า.......ผมโตมากับการอ่านตำราและรอดจากระบบการศึกษามาได้เพราะอ่านตำรานี่แหละ
คือ.....ผมเข้าใจนะว่าเหมาครูทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็มีครูประเภทที่รู่เท่ากับคู่มือที่ตัวเองสอน สอนตามคู่มือเป๊ะๆ สั่งงานตามคู่มือ
ไม่ค้นคว้าเพิ่ม ไม่เห็นว่าเนื้อหาในตำราเอาไปต่อยอดออกดอกออกผลได้
อย่างคณิตศาสตร์ เวลาสอนเรื่องต่างๆไม่เคยเห็นเลยว่ามันเกี่ยวกับการคำนวณยังไง อย่างสูตรยากๆ ให้ทำแบบฝึกหัดแล้วก็จบ...
ผมเิ่งมารู้ที่หลังว่า อัลกอรึทึ่ม มีบทบาทสำคัญมากๆกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ตารางค่าความจริง ตรรกศาสตร์ มีรากฐานมาจากการใช้เหตุผลในชีวิตประจำวัน....
...........เยอะครับ นักเรียนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมีประโยชน์ เพราะครู(จำนวนหนึ่ง) ท่องแบบการสอนให้เด็กฟัง
"""""""""""""ส่วนเรื่องความรู้รอบตัว อันนี้สอนกันในโรงเรียนอย่างเดียวไม่ได้ครับ
มันอยู่ที่ความสนใจของใครของมัน แต่ครูกระตุ้นได้ว่าจะพัฒนาความสนใจไปทางไหน
..................อย่างเรื่องเพลงที่ฟังๆอยู่นี่ ผมหาอ่านเอาเองหมด เพราะระบบการศึกษามันไม่มีสอน....
........
plugnaja ..............มุมมองน่าสนใจครับ เพราะว่าเรื่องเพิ่มเงินเดือนให้ตัวเองมันมาพร้อมๆกะการจ้างทำผลงาน.............นี่ก็อีกปัญหานึง
............
เรื่อองหลักสูตรสัมพันธ์กะประเทศอื่นน่าสนใจครับพี่เอก มีอะไรคืบหน้ามาอัพเดทบ้างนะครับ
..............
ได้ยินข่าวแล้วผมก็แค่มีหวังขึ้นมาว่า ครูจะได้ห่วงเรื่องตรวจการบ้านน้อยลง แล้วเอาเวลาไปสนใจเนื้อหาหรือ ค้นคว้ามากขึ้นน่ะแหละครับ
แต่เท่าที่อ่านข่าว ยังไม่มีอะไรเป็นรูปร่างเค้าว่าจะเร่งให้ทันช่วงเมษา
แต่ที่งงที่สุดคือมุ่งเป้าไปที่เด็กกลัวเด็กเครียดนี่แหละ
นักเรียนมันมีทั้งพวกเครียด บ้าเรียเพราะกลัวสอบตก พวกเรื่อยเปื่อยเรียนก็ได้ไม่เรียนก็ได้
แล้วก็พวกที่ยังไงก็ไม่เรียน ลดการบ้านแก้ปัญหาสุขภาพจิตนักเรียนไม่ได้หรอก
เงอะ
30 ม.ค. 56
เวลา 16:09:00 IP = 182.53.171.98
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 7
|
|
|
ให้การบ้านอย่าเอยะ แต่ต้องให้ อาจารย์วัยรุ่นๆส่วนใหญ่(ส่วนใหญ่นะ) ชอมสั่งการบ้านแบบเอามัน สั่งเยอะมากๆ เด็กก็ขี้เกียจทำ ครูที่สั่งก็ไม่ยอมตรวจ เอาแต่ติ๊กถูก แค่นั้น แล้วพองานเยอะเด็กก็ต้องลอกกัน แต่ถ้างานน้อยลง ก็ทำให้เด็กรู้สึกดีมากขึ้น เด็กอาจจะทำเองบ้าง แต่ผมว่า การบ้านให้แค่พอทบทวนสิ่งที่ทำไปในวันนี้ก็ได้ ผมว่าเน้นสอบย่อยๆๆๆแบบเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยดีกว่า
thenonfy
30 ม.ค. 56
เวลา 17:27:00 IP = 58.8.13.211
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 8
|
|
|
แต่อย่าลืมนะว่า "เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า" ควรจะคำนึงกับทุกๆอย่าง ทั้งนักเรียน ทั้งครู อาจารย์ และโรงเรียน เมื่อเปลี่ยนไปอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะมีผลกระทบไปกันหมด
การศึกษาไม่ได้เปลี่ยนให้คนเป็นคนเก่ง หรือ ฉลาดหรอก แต่สิ่งสำคัญของการศึกษาคือ เปลี่ยนให้คน มีความเป็นคนมากขึ้น ทำให้คนเป็นคนดี ทำให้คนสูงกว่าคน
thenonfy
30 ม.ค. 56
เวลา 17:36:00 IP = 58.8.13.211
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 9
|
|
|
ผมอยากให้ลดเวลาเรียนวิชาหลักต่อสัปดาห์ให้น้อยลงด้วยซ้ำ แล้วไปเพิ่มวิชาเลือก วิชาที่เด็กชอบเรียนเป็นการส่วนตัวให้มากขึ้น อยากให้เด็กออกจากชั้น ม ปลาย แล้วรู้จักตัวเองมากที่สุด รู้ว่าจะเรียนอะไรต่อ เรียนจบแล้วจะไปทำอะไร หรือถ้าต้องเปลี่ยนชีวิตไม่ได้ทำสิ่งที่ตนเองเรียนมาจะเริ่มอย่างไร ......เด็ก จบ ปตรี ที่มาสัมภาท์งานกับผม เยอะเลย ที่ ภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง ให้คำนวน ความยาวเส้นรอบวงกลม ยังทำไม่ได้ เทียบบัญญัติไตรยางไม่เป็น ....เห็นแล้วเซ็งเลย จบ ม 6 แล้วต่อ ป ตรี มาได้ยังไง..... ทุกวันนี้ผมว่าเราสอนเด็กให้จบมาเป็นเป็ด มากกว่าเป็น นก เป็นปลา ซะอีก........
anthonyjason
30 ม.ค. 56
เวลา 18:03:00 IP = 124.121.226.226
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 10
|
|
|
ไม่กล้าออกความเห็น เพราะลอกเพื่อนมาตลอด ตั้งแต่มัธยม ยันมหาลัย
ผึ้งอ้วน
30 ม.ค. 56
เวลา 19:07:00 IP = 171.99.21.46
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 11
|
|
|
มากไปก็ไม่ดีอะครับ น้อย ๆ พองามครับ สมัยเรียนบางที ทำการบ้าน ไหนจะรายงาน บางทีเสร็จ ตี 1 ตี 2 อะครับ บางวัน 5 ถึง 6 วิชา มีการบ้านหมดเลยอะ เซ็งเป็ด..............................ตึกๆโป๊ะ
peck ferder
30 ม.ค. 56
เวลา 21:45:00 IP = 125.25.95.21
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 12
|
|
|
เออ มันน่าจะมีวิชาเลือกเรียนนะ
thenonfy
30 ม.ค. 56
เวลา 22:34:00 IP = 58.8.13.211
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 13
|
|
|
,ม.ปลาย สายวิทย์/คณิตการบ้านเยอะ ลูกเครียดและเหนื่อยมาก
Solitare 30 ม.ค. 56
เวลา 23:59:00 IP = 124.121.188.241
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 14
|
|
|
ครูให้การบ้านเยอะ แต่ไม่ตรวจ ก้เท่านั้น. เด็กก้ลอกๆกันไปส่ง จากต้นฉบับเดียวกัน. รายงานอีก ให้ทำซะเยอะแต่สาระไม่มี. เด็กๆก้เขี่ยๆลายมือมาส่งกัน. ไม่ก้จ้างพิมพ์. ขอแบบรายงานอันเดียวแต่ถ้าทำมาไม่ดี ไม่แตกต่าง. หรือลอกกันมาก้ไม่ให้ผ่านเอากลับไปแก้ไขให้ดีขึ้นจะดีกว่าคับ. เด็กจะได้รูจักพัฒนาตัวเอง. และทุกวิชาไม่จำเป็นต้องมีรายงานกันหมดหรอก. หาวิธีอื่นมาประเมินเด็กบ้างก้ดีคับ เผื่อได้อะไรใหม่ๆ.
sweepgod
31 ม.ค. 56
เวลา 1:14:00 IP = 110.168.78.24
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 15
|
|
|
เรื่องซีเรียสอย่างนี้ขออนุญาติตอบตามที่ผมคิดนะครับ อาจจะไม่ถูกใจใครนะ
ผมมองว่าเรื่องลดการบ้านนี้เป็นก้าวแรกๆในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาโดยมุ่งไปที่ครู ก่อนนี้เราอาจจะโฟกัสที่เด็กมากกว่า ความจริงผมชอบการเปลี่ยนแปลงนี้นะ แต่ครูก็ต้องยอมรับมันและเปลี่ยนแปลงแนวทางตัวเองไปในทางที่ดีด้วย ลดปริมาณการบ้าน แต่เพิ่มคุณภาพ
คุณภาพการบ้านหรือรายงานนี้ผมคิดว่าควรให้เด็กค้นคว้า ข้อมูลเดี๋ยวนี้เข้าถึงง่ายๆ ความรู้ที่เรียนมาที่ผมจำได้นั้น ล้วนแล้วมาจากการค้นคว้าเองอ่านเองตั้งคำถามเองทั้งสิ้น จนวันหนึ่งมันตกผลึกเป็นตะกอนความคิด ความรู้อื่นที่ได้มาจากการจดโน้ตในห้อง การทำการบ้าน ทำข้อสอบ บอกตรงๆว่าผ่านไปเทอมนึงก็ลืมหมดแล้ว
ครูที่ดีต้องส่งเสริมให้เด็กท้าทายตัวครูด้วยองค์ความรู้ ไม่ใช่ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนฟังง่ายเชื่อง่ายเป็นแก้วว่างเปล่าที่คอยรับน้ำที่ครูคอยเติมให้อย่างเดียว อย่างที่มีคำพูดเปรียบเปรยว่าจงทำตัวเป็นแก้วว่างเปล่าอยู่เสมอ เพราะแก้วที่เต็มแล้วไม่สามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีก ผมไม่เคยเห็นด้วยกับความคิดนี้เลย ทำไมเราต้องทำตัวเป็นแก้วว่างเปล่าเพื่อรอใครสักคนเทน้ำใส่ในเมื่อเราออกไปหาน้ำเองได้จากบ่อเป็นล้านๆแห่งทั่วโลก?
ความจริงก็คือแก้วของคนที่กระหายความรู้นั้นไม่มีวันเต็มหรอก ไม่ว่าเค้าจะเติมน้ำใส่ไปมากเท่าไหร่ก็ตาม
บางครั้งผมคิดว่าครูมีสถานะพิเศษในสังคมไทย มันคงเป็นวัฒนธรรมที่เราสร้างสมกันมานานซึ่งคงไม่ได้เปลี่ยนไปง่ายๆ สมัยก่อนการได้รับความรู้จากใครสักคนคงเป็นบุญคุณใหญ่หลวง เนื่องจากเราอาจต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกนานปีกว่าจะพบคำตอบแท้จริงกับคำถามบางอย่าง การที่ครูสอนศิษย์ ครูจึงมีสถานะควรได้รับความเคารพ เป็นบุญเป็นคุณกัน
แต่ผมคิดว่าอาจจะถึงเวลาแล้วที่ครูควรเปลี่ยนจากคนที่เดินนำและลากจูงศิษย์ไปในทางที่ตนเคยเดินมา เป็นคนที่เดินตามผลักดันเด็กไปในทางที่เค้าอยากจะเดินไป
ผมอาจเป็นคนเนรคุณคนหนึ่ง ผมไม่เคยคิดเคารพครูเลย ผมสงสัยเสมอว่าทำไมผมต้องเชื่อฟังครูด้วย ถ้าผมคิดว่าสิ่งที่ครูสอนไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะกับผม แต่ด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ผมก็ไม่เคยแสดงออก ผมกลับไปหาคำตอบด้วยตัวเอง ที่ครูสอนบางทีผมก็ทำลืมๆไป นื่งๆไป เป็นเด็กเรียบร้อยคนหนึ่ง
บางทีเราให้คุณค่ากับองค์ความรู้น้อยไป กลับไปให้กับบุคคลแทน จริงๆมันควรกลับกันใช่ไหม? หากเราเทิดทูนบุคคลเหนือองค์ความรู้ เราจะตั้งคำถามกับองค์ความรู้ได้ไหม? มันจะเป็นการหมื่นเกียรติบุคคลไหม? แล้วความรู้ที่ไม่มีบุคคลมอบให้ เราจะมองมันมีค่ากว่าบุคคลนั้นไหม?
ผมเชื่อว่าไม่ได้มีผมคนเดียวที่คิดแบบนี้ บางทีมันอาจเป็นเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีคนพูดออกมาให้คนอื่นเหม็นขี้หน้าเปล่าๆปลี้ๆ
ตอบออกทะเลเหมือนเดิม ขออภัยครับ
Bottomsup
31 ม.ค. 56
เวลา 1:25:00 IP = 208.69.242.75
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 16
|
|
|
คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่ค่อนข้างสำคัญนะครับ แต่ครูที่สอนเด็กๆ ต้องสอนให้รู้จักวิเคราะห์ และเข้าใจ รากฐานที่มาของสูตรต่างๆ แต่เด็กก็จะไม่ชอบซะอีก...
The_guitar
31 ม.ค. 56
เวลา 9:05:00 IP = 210.118.108.254
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 17
|
|
|
จริงๆแล้วการบ้านไม่ได้เยอะจนเด็กทำไม่ไหวหรอกครับ แต่เด็กเอาเวลาที่ควรทำการบ้านไปเรียนกวดวิชา
สิ่งที่ผมว่าทำให้ระบบการศึกษาไทยเปลี่ยนไป คือค่านิยมในการแข่งขันกันเรียนและการเรียนพิเศษอย่างบ้าคลั่ง ปัจจุบันนักเรียนม.ปลายเรียนสัปดาห์ละ7วัน ตั้งแต่เช้าถึง2ทุ่มบางคนอาจดึกกว่านั้น กลายเป็นนักเรียนมาโทษว่าการบ้านที่โรงเรียนเยอะไป
Smithman
31 ม.ค. 56
เวลา 9:29:00 IP = 182.93.208.209
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 18
|
|
|
ผมขอมองในมุม "ครูบ้านนอก"นะครับ...จะการบ้านเยอะ/การบ้านน้อย เด็กบ้านนอกก็ไม่ค่อยทำ...ไม่ถนัดเรียนภาควิชาการอยู่แล้ว...มีเวลาเสาร์-อาทิตย์ เด็กโตก็หารับจ้างหาเงินใช้...เล็กหน่อยพวกอยู่กับพ่อแม่ ก็พาไปเข้าไร่เข้านา...แต่พวกอยู่กับยายซึ่งพ่อแม่ไปหารับจ้างต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง...กลุ่มนี้ไม่มีต้นแบบทางการศึกษาอยู่แล้ว....หนังสือไม่เคยอ่านการบ้านไม่ต้องพูดถึง....ส่วนใหญ่พวกนี้อ่านหนังสือไม่ออก...พวกเค้าไม่ได้เกิดมากับความพร้อม...ดังนั้นจะให้การบ้านมากหรือน้อย...ไม่มีผลอะไรกับเด็กบ้านนอก... แต่ถ้าจะมองอีกมุมหนึ่ง...ให้การบ้านน้อยๆเพื่อให้เด็กมีเวลาศึกษาด้วยตัวเองนอกห้องเรียนก็เป็นสิงดี...แต่ "เด็กก็คือเด็ก" แต่สุดท้ายก็วัดคุณภาพเด็ก , คุณภาพโรงเรียน , คุณภาพครู ...ด้วยข้อสอบ O-Net เพียงไม่กี่ข้อ...
Ajintai
31 ม.ค. 56
เวลา 14:05:00 IP = 182.93.137.188
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 19
|
|
|
ผมขอมองในมุม "ครูบ้านนอก"นะครับ...จะการบ้านเยอะ/การบ้านน้อย เด็กบ้านนอกก็ไม่ค่อยทำ...ไม่ถนัดเรียนภาควิชาการอยู่แล้ว...มีเวลาเสาร์-อาทิตย์ เด็กโตก็หารับจ้างหาเงินใช้...เล็กหน่อยพวกอยู่กับพ่อแม่ ก็พาไปเข้าไร่เข้านา...แต่พวกอยู่กับยายซึ่งพ่อแม่ไปหารับจ้างต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง...กลุ่มนี้ไม่มีต้นแบบทางการศึกษาอยู่แล้ว....หนังสือไม่เคยอ่านการบ้านไม่ต้องพูดถึง....ส่วนใหญ่พวกนี้อ่านหนังสือไม่ออก...พวกเค้าไม่ได้เกิดมากับความพร้อม...ดังนั้นจะให้การบ้านมากหรือน้อย...ไม่มีผลอะไรกับเด็กบ้านนอก... แต่ถ้าจะมองอีกมุมหนึ่ง...ให้การบ้านน้อยๆเพื่อให้เด็กมีเวลาศึกษาด้วยตัวเองนอกห้องเรียนก็เป็นสิงดี...แต่ "เด็กก็คือเด็ก" แต่สุดท้ายก็วัดคุณภาพเด็ก , คุณภาพโรงเรียน , คุณภาพครู ...ด้วยข้อสอบ O-Net เพียงไม่กี่ข้อ...
Ajintai
31 ม.ค. 56
เวลา 14:07:00 IP = 182.93.137.188
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 20
|
|
|
ผมขอมองในมุม "ครูบ้านนอก"นะครับ...จะการบ้านเยอะ/การบ้านน้อย เด็กบ้านนอกก็ไม่ค่อยทำ...ไม่ถนัดเรียนภาควิชาการอยู่แล้ว...มีเวลาเสาร์-อาทิตย์ เด็กโตก็หารับจ้างหาเงินใช้...เล็กหน่อยพวกอยู่กับพ่อแม่ ก็พาไปเข้าไร่เข้านา...แต่พวกอยู่กับยายซึ่งพ่อแม่ไปหารับจ้างต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง...กลุ่มนี้ไม่มีต้นแบบทางการศึกษาอยู่แล้ว....หนังสือไม่เคยอ่านการบ้านไม่ต้องพูดถึง....ส่วนใหญ่พวกนี้อ่านหนังสือไม่ออก...พวกเค้าไม่ได้เกิดมากับความพร้อม...ดังนั้นจะให้การบ้านมากหรือน้อย...ไม่มีผลอะไรกับเด็กบ้านนอก... แต่ถ้าจะมองอีกมุมหนึ่ง...ให้การบ้านน้อยๆเพื่อให้เด็กมีเวลาศึกษาด้วยตัวเองนอกห้องเรียนก็เป็นสิงดี...แต่ "เด็กก็คือเด็ก" แต่สุดท้ายก็วัดคุณภาพเด็ก , คุณภาพโรงเรียน , คุณภาพครู ...ด้วยข้อสอบ O-Net เพียงไม่กี่ข้อ...
Ajintai
31 ม.ค. 56
เวลา 14:08:00 IP = 182.93.137.188
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 21
|
|
|
วงจร "ครูสพฐ" นะครับ เป็น "ครูผู้ช่วย" 2 ปี ผ่านการประเมินอย่างเข้มข้น ได้เป็นครู คศ.1 ...เป็นครู คศ.1( ตามเกณฑ์วิทยฐานะปัจจุบันนะครับ) ...อีก 6 ปี ประเมินเป็น ครูคศ. 2 หรือ "ครูชำนาญการ" มีเงินวิทยฐานะ 3500 บาทต่อเดือน อีก 1 ปี หลัง คศ.2 ทำวิทยฐานะ ประเมินเป็นครู คศ.3 "ชำนาญการพิเศษ" มีเงินวิยฐานะ 5600 บาทคูณด้วย 2 ก็เป็น 11200 บาท ...อีก 1 ปีก็สามารถทำ คศ.4 "เชี่ยวชาญ" มาถึงขั้นนี้ผมไม่กล้าคิดแล้ว...เอาแค่ คศ.3 ก็พอแล้ว...มีต่อถึง คศ.5" เชี่ยวชาญพิเศษ " ใครๆก็อยากจะมาเป็นครู สพฐ.กันมาครับ....เพราะมีเงินตรงนี้แหละครับ...
Ajintai
31 ม.ค. 56
เวลา 14:16:00 IP = 182.93.137.188
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 22
|
|
|
ตอนผมเรีนยมัธยมเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง
คะแนนสอบ 20-30 คะแนน อีก 70-80 คะแนน เป็นคะแนนเก็บนะคับ
ก็การบ้านมันก็ต้องเยอะ ถ้าเทียบตามอัตราส่วนของคะแนนนะ ไม่งั้นอาจารย์จะไปเอาจุดไหนให้คะแนน
อีกอย่างถ้าเน้นแต่สอบจิงๆ ผมว่าเด็กจะเครียดกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะ นั่งทำการบ้าน อาจจะเยอะหน่อยแต่มันไม่เท่าสอบหรอก
เพราะสอบ เราต้องอ่านและทบทวนตลอดเวลา เด็กก็กลัวตก พอเด็กตกก็เครียดหนัก
ผมว่าถ้าอัดสอบเยอะๆนะ อัดการบ้านเถอะ ถ้าจุดประสงค์จิงๆคือเรื่องลดความเครียดอะนะ
Mr.P๐|
31 ม.ค. 56
เวลา 14:52:00 IP = 124.122.52.105
|
|
|
|
|
|
|