|
|
|
|
|
10 อันดับ สุดยอดผู้นำจอมเผด็จการ แห่งศตวรรษที่ 20 ถึง 21 |
|
|
|
|
|
|
10. คิม จ็อง-อิล
มีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า ยูริ อีร์เซโนวิช คิม อดีตผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) เขาเป็นเลขาธิการพรรคกรรมกรเกาหลี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลตั้งแต่ ค.ศ. 1948, ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศแห่งเกาหลีเหนือ และผู้บัญชาการกองทัพประชาชนเกาหลีสูงสุด ซึ่งเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสี่ของโลก ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกาหลีเหนือโดยเรียกเขาว่าเป็น "ผู้นำสูงสุด" โดยปริยาย เขายังถูกเรียกว่า "บิดาที่รัก", "บิดาของเรา" "นายพล" และ "จอมทัพ" บุตรชาย คิม จองอึนได้รับเลื่อนเป็นตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรและถูกวางตัวเป็นทายาท ใน ค.ศ. 2010 เขาถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 31 ของบุคคลทรงอำนาจที่สุดของโลก รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของเขาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2011
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 8:59:00
พิมพ์
แจ้งลบ IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 1
|
|
|
|
9. นัสซิงเบ เอยาเดมา
เป็นอดีตประธานาธิบดีของประเทศโตโก ดำรงอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 38 ปี (พ.ศ. 2510-พ.ศ. 2548) ซึ่งนับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่นานที่สุดในทวีปแอฟริกา ถึงแก่อสัญกรรมด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ระหว่างการเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศฝรั่งเศส เอยาเดมาได้รับความนิยมมากในช่วงแรกที่รับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ด้วยความเป็นเผด็จการและสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทำให้ความนิยมนั้นตกลงอย่างรวดเร็ว เขาโดนลอบสังหารหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง เมื่อกระแสต่อต้านรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เอยาเดมาก็ยอมให้มีการเลือกตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2536 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าเอยาเดมาชนะไปด้วยคะแนน 96.42% เพราะไม่มีคู่แข่งที่น่าเชื่อถือ เขาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี พ.ศ. 2541 และเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย แม้จะมีเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เอยาเดมาสัญญาว่าจะยอมลงจากตำแหน่งเมื่อหมดวาระในปีพ.ศ. 2546 แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญา เขายอมที่จะ "เสียสละอีกครั้ง" เพื่อความสงบและความมั่นคงของประเทศด้วยการเป็นประธานาธิบดีต่อไป
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 8:59:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 2
|
|
|
|
8. โมบูตู เซเซ เซโก
ได้สถาปนาการปกครองระบอบเผด็จการภายใต้ชื่อสาธารณรัฐคองโกที่ 2 โมบูตู เซเซ เซโก้ประธานาธิบดีของประเทศซาเอียร์ (หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปัจจุบัน) ได้ร่วมกันกับ อีดี้ อามิน เปลี่ยนชื่อทะเลสาบอัลเบิร์ตกับทะเลสาบเอ็ดเวิร์ดเป็นทะเลสาบโมบูตู เซเซ เซโก้กับทะเลสาบอีดี้ อามิน ดาด้าตามลำดับ แถมเขายังติดอันดับผู้นำที่นักยอกเงินมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ยักยอกเงินไปทั้งสิ้น 5 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2508-2540
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:00:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 3
|
|
|
|
7. Enver Hoxha
เป็นผู้นำคอมมิวนิสต์แห่งแอลเบเนีย จากปี 1944 จนกระทั่งเขาตายในปี 1985 ตลอดระยะเวลา 40 ปีของการปกครอง Hoxha เขาได้กำจัดคู่แข่งทางการเมืองไปแล้วมากมาย ทั้งฆ่า และ จำคุก
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:01:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 4
|
|
|
|
6. ฟรองซัวส์ ดูวาลิเยร์
ฟรองซัวส์ ดูวาลิเยร์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเฮติ เจ้าของฉายา "ปาป้า ด็อค" (Papa Doc) เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ที่สาธารณรัฐเฮติ เมื่อโตเป็นหนุ่ม เขาเลือกศึกษาวิชาการแพทย์ ต่อมาได้เปลี่ยนใจลงเล่นการเมือง โดยมีอุดมการณ์อย่างหนักแน่นที่จะเป็นปากเป็นเสียงแก่ประชาชนผิวสีที่ยากไร้และด้อยโอกาสที่มีเป็นจำนวนมากในเฮติ และเพื่อการสนับสนุนและพัฒนาระบอบประชาธิปไตย เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จนเมื่อเขาลงเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) เขาจึงได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีแห่งเฮติ แต่เมื่อเขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแห่งเฮติ เขากลับพยายามจะกอบโกยทรัพย์สินและอำนาจไว้แต่ผู้เดียว เขาหนุนหลังให้รัฐบาลของเขากระทำการฉ้อราษฎร์บังหลวง และ ติดสินบนมากมาย เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ดังนั้นเมื่อการกระทำเหล่านี้รั่วไหลออกไป ประชาชนต่างสิ้นศรัทธาในดูวาลิเยร์ เมื่อประชนเริ่มรังเกียจเขา เขาจึงได้จัดตั้งหน่วยตำรวจพิเศษขึ้นลับๆ โดยหน่วยตำรวจลับนี้มีอำนาจจับกุม ทรมาน สังหารใคร และอย่างไรก็ได้ ตามบัญชาของดูวาลิเยร์ ดังนั้นเมื่อหน่วยตำรวจลับนี้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ประชาชนจึงนิยมเรียกหน่วยตำรวจนี้ว่า ตอง ตอง มากูเตอ (Tonton Macoute) ซึ่งแปลว่า มนุษย์ปีศาจ ในเฮติ ประชาชนส่วนใหญ่ยังนับถือไสยศาสตร์วูดู หรือการนับถือผีและวิญญาณชั่วร้าย ดูวาลิเยร์ก็รู้ว่างมงายเกินไป แต่แทนที่จะให้การศึกษาที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อให้เชื่อแต่พอสมควร กลับประกาศตนเป็นผู้นำวูดู และทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้ประชาชนจมอยู่ในความหวาดกลัวยิ่งขึ้น ต่อมา เมื่อเขาใกล้จะสิ้นสุดวาระลง เขากลับใช้อำนาจที่มียกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเก่าเสีย แล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้น แต่งตั้งตนเป็นประธานาธิบดีเฮติตลอดชีพ ด้วยเหตุนี้เฮติจึงล่มจมลงเรื่อยๆ โชคดีที่สหรัฐอเมริกายังให้ความช่วยเหลือแก่เฮติในด้านต่างๆมาอย่างดีตั้งแต่เฮติได้รับเอกราชจากชาติมหาอำนาจตะวันตก ที่จะ แต่ด้วยสหรัฐอเมริกาเห็นว่า การกระทำของดูวาลิเยร์นั้นไม่เหมาะสม ไม่ควรให้ความช่วยเหลือแก่เฮติอีกต่อไป สหรัฐฯจึงตัดสินใจตัดความช่วยเหลือทั้งหมดที่เคยให้เฮติ เศรษฐกิจของไฮติจึงย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม ฟรองซัวส์ เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) และได้แต่งตั้งฌอง-คล็อด ดูวาลิเยร์ ลูกชายของเขาเองเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:01:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 5
|
|
|
|
5. เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส
เป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 10 ของฟิลิปปินส์ เคยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965-ค.ศ. 1986 เป็นเวลา 31 ปี พ้นจากตำแหน่งโดยการหลบหนีออกนอกประเทศ หลังการลุกฮือของประชาชน ในปี ค.ศ. 1986 ซึ่งนำโดยนางคอราซอน อากีโน ภริยาหม้ายของนายเบนิโญ อากีโน อดีตนักการเมืองฝ่ายค้าน เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เสียชีวิตที่โฮโนลูลู ฮาวาย ขณะลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก่อนเสียชีวิตกำลังถูกทางการฟิลิปปินส์ ยื่นเรื่องขออายัดทรัพย์สิน และดำเนินคดีในข้อหาใช้อิทธิพลคอรัปชั่น ในระหว่างดำรงตำแหน่งทางการเมือง
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:02:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 6
|
|
|
|
4. นายพล เน วิน
ผู้นำเผด็จการของรัฐบาลทหารของพม่า ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพม่าอย่างยาวนานถึง 26 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ถึง พ.ศ. 2531 ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของพม่าภายหลังการรัฐประหารรัฐบาลของนายอู นุ (สมัยที่ 3) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 นายพล เน วิน ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 หลังการรัฐประหารที่นำโดยพลเอกอาวุโส ซอ หม่อง ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2545 อายุ 92 ปี
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:02:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 7
|
|
|
|
3. อีดี้ อามิน
อีดี้ อามิน(1925_2003) จอมเผด็จการอูกันดา เขาก่อการปฏิวัติด้วยทหารของเขากว่า 9000 นาย และในปี 1975 เขาประกาศตัวว่าเป็น ประธานาธิบดีเจ้าชีวิต(President for life) จากนั้นก็งดโฆษณาและสื่อทั้งหมด และบังคับให้ประชาชนสวมชุดขาวไปเมืองหลวงในขณะที่เขานั่งบนบัลลังก์ เขาจับตัว นายพลจัตวา สุไลมาน ฮุสเซน ผู้บังคับการกองทัพบกแห่ง อูกานดา อย่างอุกอาจและฆ่าและตัดศีรษะจากนั้นก็เก็บไว้ใน ช่องฟิสต์ในตู้เย็นที่บ้านและนำออกมาให้คนภายนอกเห็นเป็นบางครั้งบางคราว เขายังบังคับประชาชนให้ท่องคำสาบานจงรักภักดี และคุกเข่า นอกจากนี้เขายังเผยแพร่ถ่ายทอดสดการตัดศีรษะของนักโทษการเมืองให้ประชาชนในประเทศได้ดูกันสดๆ พร้อมกันนี้เขายังเอาเลือดที่ไหลจากคอใส่แก้วและนำมาดื่มสดๆ อย่างกระหาย อีดี อามิน ปกครองอูกันดา ตลอด 8 ปีที่เขาปกครองได้เข่นฆ่าประชาชนราว 100000- 500000 คน และเขาปกครองแบบกดขี่ประชาชนตลอดที่เขามีอำนาจมา 8 ปี ในปี 1972 อีดี อามิน จัดการขับไล่ชาวภาษาปากีสถาน และชาวอินเดียจากประเทศกว่า 40,000 ถึง 80,000 โดยให้เหตุผลว่า เขาได้รับข่าวสารจากพระเจ้าแห่งอูกานดา ในวันที่ 16 สิงหาคม 2003 อีดี อามิน ก็จบชีวิตลงในกรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย(โดนขับไล่ออกจากประเทศ) จากโรคอวัยวะภายในล้มเหลว แม้รัฐบาลอูกานดาจะประกาศว่า ร่างของ อามินควรจะ ได้รับการฝังในอูกานดา แต่ว่าร่างของเขา กลับถูกฝังในซาอุดิอาระเบีย โดยทันที เขาเป็นผู้กระทำผิด ที่ ไม่เคย ได้รับการลงโทษเลย.
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:05:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 8
|
|
|
|
2. ฌ็อง-เบแดล บอกาซา
เป็นอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแอฟริกากลาง ซึ่งคือสาธารณรัฐแอฟริกากลางในปัจจุบัน พระราชสมภพเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1921 ในแอฟริกากลางซึ่งกำลังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ดังนั้น เมื่อพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น จึงทรงเข้าร่วมกับกองทัพแอฟริกากลางเพื่อต่อต้านและเรียกร้องเอกราชจากฝรั่งเศส พระองค์ทรงเป็นแนวหน้าสู้รบอย่างกล้าหาญ จนทรงได้เหรียญกล้าหาญมาได้ จนในที่สุดแอฟริกากลางก็ได้รับเอกราช แต่บอกาซาก็ทรงฉวยโอกาสตอนที่บ้านเมืองยังอ่อนปวกเปียกตอนเพิ่งได้รับเอกราชใหม่ ๆ ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลสาธารณรัฐแอฟริกากลางในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1966 และทรงบริหารประเทศในฐานะผู้นำประเทศ จนกระทั่งในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1976 พระองค์ทรงปราบดาภิเษกตนเองขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิบอกาซาที่ 1 แห่งจักรวรรดิแอฟริกากลาง พระองค์ทรงใช้จ่ายบนสิทธิกษัตริย์อย่างฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ทรงฉลองพระองค์และฉลองพระบาทประดับมุก สร้างพระราชบัลลังก์ให้พระองค์เองเป็นสุวรรณราชบัลลังก์ขนาดยักษ์รูปนกอินทรี ทรงสร้างพระราชวังให้พระองค์เองเป็นพระราชวังหินอ่อน ประดับโคมไฟระย้าสุดวิจิตร สูบเงินประเทศชาติจนแทบล่มจม นอกจากนี้ยังมีการลงพระราชอาญาศัตรูและนักโทษในประเทศอย่างโหดร้าย ตั้งแต่พระราชอาญาที่ไม่ถึงตาย เช่น การตัดใบหู จนถึงพระราชอาญาถึงตาย เช่น การทุบตีจนตายอย่างทรมาน โยนเข้าไปในกรงสิงโต โยนลงบ่อจระเข้ จนถึงการส่งตัวให้แก่ชนเผ่ากินคน แต่วิธีการลงพระราชอาญาทั้งหมดเป็นความลับซึ่งมีแต่คนในเท่านั้นที่จะรู้ ส่วนความฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายไม่ใช่ความลับ เพราะบอกาซาทรงเห็นว่าปกปิดไม่ได้ ประชาชนคนนอกจึงรู้ดี ทำให้ประชาชนเริ่มหงุดหงิด เริ่มโมโห และเดือดดาล จนกระทั่งในที่สุด ประชาชนก็รวมตัวกันโค่นพระราชอำนาจจักรพรรดิบอกาซาที่ 1 ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 1979 แต่บอกาซาก็ทรงหลบหนีอออกนอกประเทศไป และความลับเรื่องวิธีการลงพระราชอาญาของพระองค์ก็ถูกเปิดเผย ดังนั้น ในเวลาต่อมา ศาลของสาธารณรัฐแอฟริกากลางจึงตัดสินโทษบอกาซาให้สำเร็จโทษ แต่ตอนนั้นบอกาซายังไม่เสด็จกลับเข้าประเทศ จึงต้องรอบอกาซาเสด็จกลับมา ทางด้านบอกาซาแม้จะทรงรู้ว่าเสด็จกลับประเทศแล้วจะต้องทรงเจอโทษอะไร แต่ก็ยังจะเสด็จกลับสาธารณรัฐแอฟริกากลางในค.ศ. 1987 เพราะพระองค์ยังทรงคิดว่าพระองค์ทรงเป็นวีรบุรุษของชาติ ดังนั้นพระองค์จึงถูกจับพระองค์ขึ้นศาล แต่ศาลของรัฐบาลใหม่ได้แสดงความเมตตาโดยการลดโทษเหลือจำคุกตลอดพระชนม์ชีพ บอกาซาเสด็จอบายคตเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1996
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:06:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 9
|
|
|
|
1. ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ
เป็นประธานาธิบดีของเติร์กเมนิสถาน เป็นประธานาธิบดีแบบเผด็จการและได้เปลี่ยนประเทศเติร์กเมนิสถานเป็นประเทศที่ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน โดยตั้งตนเองเป็น "ประธานาธิบดีตลอดชีพ" เริ่มจากควบทั้งเก้าอี้นายกฯ แม่ทัพ ผู้นำพรรคการเมืองพรรคเดียวของประเทศ ไม่ยอมให้มีฝ่ายค้าน ให้ประชาชนเรียกเขาว่า "เกรท เติร์กเมนบาชิ" (บิดาแห่งชาวเติร์กเมนทั้งมวล) เขาเปลี่ยนชื่ออากาศยานของประเทศ มาเป็น "Turkmenbashi" และแทนที่ชื่อเมืองใหญ่เป็น "Krasnovodsk to Turkmenbashi" ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเปลี่ยนชื่อโรงเรียนและถนนมากมายมาเป็น "Turkmenbashi" ขนาดลูกอุกาบาตรตกในประเทศเขายังตั้งชื่อมันว่า "Turkmenbashi" เลยคิดดู และเชื่อหรือไม่ เขาเปลี่ยนชื่อเดือนมกราคมไปเป็น "Turkmenbashi" (สงสัยเขาจะชอบชื่อตนเองมากๆ นะนั้น) คือชื่อยังไม่พอนะคราวนี้รูปร่างหน้าตาเขาบ้าง เขาออกคำสั่งให้สถานีโทรทัศน์,ขวดว็อดก้า,นาฬิกาในประเทศทั้งหมดต้องติดมีโลโกใบหน้าของเขา และให้ติดตั้งรูปภาพและรูปปั้นของตนไว้เคารพบูชาทั่วประเทศ!! นอกจากนี้ซาปาร์มูรัตมีพระราชวังน้ำแข็งตรงกลางของประเทศ ทั้งๆ ที่ประเทศนั้นร้อนตับจะแลบ... แถมภายในราชวังยังมีสวนสัตว์ที่รวมสัตว์แปลกๆ เยอะแยะมากมายรวมถึงเพนกวินด้วย......... ส่วนการบริหารประเทศเขาก็ยังออกกฎแปลกๆ เช่นห้ามมีอุปรากรหรือบัลเล่ต์, จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนและสื่อฯ ทุก รูปแบบ ห้ามเคลือบฟันทอง ห้ามเยาวชนไว้ผมยาวและหนวด ฯลฯ ในปี 2004 ซาปาร์มูรัต ได้มีการกำหนดวันหยุดแห่งชาติคือ วันแตงไทยแห่งชาติ(National Melon Day) เป็นวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม ให้กับพลเมืองเติร์กเมนิสถานนึกถึงความสำคัญของแตงไทย....(สำคัญตรงไหนนั้น) ซาปาร์มูรัตเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเมื่อเดือนธันวาคม 2006 ด้วยอายุ 66 ปี
เครดิต Toptenthailand.com
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:07:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 10
|
|
|
ไม่มีของไทยเหรอครับ ตอนนี้ต้องพำนักไม่เป็นหลักแหล่ง
zatanic
28 เม.ย. 56
เวลา 9:21:00 IP = 171.96.37.85
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 11
|
|
|
|
zatanic สวัสดีครับ ของไทยขอละไว้ก่อนครับเดี๋ยวโดนแบน แต่ผมฮาวันแตงไทยแห่งชาติจริงๆคิดได้ไง อิอิ
top2513
28 เม.ย. 56
เวลา 9:32:00 IP = 125.26.21.252
สมาชิกแบบพิเศษ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 12
|
|
|
|
ผมนึกว่า เกาหลีเหนือจะได้อันดับต้นๆนะเนี่ย ได้ที่ 10 ซะงั้น แต่ก็นะ คนอื่น เฮีย กว่าจริงๆ
MentalDisease
28 เม.ย. 56
เวลา 10:18:00 IP = 14.207.174.15
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 15
|
|
|
อามิน นี่เคยดูหนังประวัติแกมาเหมือนกัน เหมือนจะใจดี แต่โคตรโหดเลย---กีต้าร์ยามาฮ่าตัวนี้แหละที่สีแหล่มมากเลยน้า
iron maiden85
28 เม.ย. 56
เวลา 13:08:00 IP = 203.148.160.50
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คำตอบที่ 17
|
|
|
อันดับ 2 นี่โหดจังอ่ะ
X X X
29 เม.ย. 56
เวลา 11:39:00 IP = 203.155.220.236
|
|
|
|
|
|
|