(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ขอระบายครับ เรื่องของมนุษย์เงินเดือน กับความน้อยใจ  
 
สวัสดียามบ่ายช่วงใกล้เลิกงานครับ

ขอระบายเรื่องงาน + เงินเดือนหน่อยครับ

ผมทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น เป็นงานเกี่ยวกับ นำเข้าอะไหล่โรงงานจากญี่ปุ่นมาขายลูกค้าในไทยครับ

พอดีวันนี้นั่งทำงานอยู่ งานค่อยข้างเยอะ คนในออฟฟิต วิ่งถ่ายเอกสารงานกันเป็นว่าเล่น
ประจวบเหมาะกับผมที่ปริ้นงาน พร้อมกับฝ่ายบัญชี เอกสารมันเลยผสมปนเปกับครับ
จึงต้องนำมาแยกว่าของใครเป็นของใคร

ซึ่งผมดันไปเห็นเอกสารฐานเงินเดือนของพนักงานทั้งหมดในบริษัท (ประมาณ 10 คน)
ผมมีสายตาที่ค่อนข้างไวครับ เพียงไม่กี่วินาที ผมเห็นเงินเดือนของทุกคนครบ และจำได้แม่นเลย


ผมเป็นพนักงานใหม่ เพิ่งจบ ไร้ประสบการณ์ ตอนนี้ทำงานมาได้ 6 เดือนครับ เงินเดือนตอนนี้ 15000 บาท
เริ่มงาน ตุลาคม 55 เริ่มที่ 13000 พอปีใหม่ก็เปลี่ยนเป็น 15000 น่าจะเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาล

เงินเดือนของพี่ๆคนอื่น ผมไม่มีอะไรคับข้องใจครับ
แต่ในบริษัทมีพนักงานรุ่นเดียวกัน 3 คนนี่สิครับ ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้

1.ผมเอง หน้าที่ sale coordinator & Logistics เงินเดือน 15000 อายุงาน 6 เดือน
2.เพื่อน1 หน้าที่ sale coordinator เงินเดือน 16000 อายุงาน 4เดือน (เพิ่งจบเหมือนผม) งานที่แรกเหมือนกัน
3.เพื่อน2 หน้าที่ sale เลยครับ วิ่งหาลูกค้า เงินเดือน 20000 มีประสบการณ์ที่เก่า 8 เดือน

ตามนั้นครับ ความรู้สึกน้อยใจพลันแล่นขึ้นมาทันที
ผมพักอยู่ไกลที่สุดด้วยครับ ค่าใช้จ่ายมากกว่าคนอื่น เงินเดือนน้อยสุด อยากจะร้องไห้ ไม่อยากทำงานทันทีเลย
ความรู้สึกนี้ อยากกลับบ้านหาแม่เลยครับ ท้อแท้ในทันทีทันใด

อาจเป็นเพราะผมเรียกเงินเดือนน้อยไปตอนสมัครด้วยมั้งครับ ผมเรียกไป 13000
สาเหตุเพราะกลัวเอกชนไม่จ้าง ไม่น่าดูถูกตัวเองเลย
ทั้งๆที่ก็จบมหาวิยาลัยของรัฐ คณะบริหาร ภาคอินเตอร์ด้วย เกรด 3.1 แต่ก็ไม่ได้เก่งอังกฤษมากมายครับ ขยันมากกว่า
ส่วนเพื่อนอีก 2 คน เรียนรัฐเหมือนกันครับ แต่ภาคไทย เกรด 2.5 ทั้งคู่ (แอบเห็นใบสมัครเพราะพวกเค้าเข้ามาทีหลัง)

เวลามีงานเร่งด่วน หรืองานที่ต้องใช้ภาษาที่เป็นทางการ ทั้งออฟฟิตก็จะเรียกผมให้เข้าไปช่วยครับ
คือความรู้สึกผมนั้น ผมมีความรู้สึกว่า ทำงานหนักกว่าเพื่อนๆอีก 2 คนครับ

เวลานายญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องงาน อย่างเช่น
สินค้าจากญี่ปุ่นส่งมาผิด ต้องส่งคืน เรียกผม
จะนัดหมายติดต่อธุรกิจกับอีกบริษัทนึง เรียกผม
เวลารถบริษัทไม่ว่าง จะหาแท๊กซี่ เรียกผม
เวลามีแขกมาที่บริษัท เค้าจะเรียกผมเพียงคนเดียวให้เข้าไปพบแล้วแลกนามบัตร
(ผมกับเพื่อนคนที่ 1 จะทำงานขึ้นตรงกับนายญี่ปุ่น 1 ครับ ส่วนเพื่อน2 จะขึ้นกับนายญี่ปุ่นอีกคน)

ทำงานเป็น เลขาบางครั้ง พนักงาน มีทิ้งขยะวันศุกร์ด้วยเอ้า!!!

เจอแบบนี้มันเจ็บจุงเบยครับ

ความคิดที่ว่า กะรอเอาโบนัสสิ้นปีแล้วเผ่นขึ้นมาในหัวทันที ถ้าเงินเดือนขึ้นไม่ดีผมเผ่นแน่ครับ
อยากเอาเงินให้แม่เยอะๆ อยากซื้อของให้แม่บ้าง แม่แก่แล้ว อยากหาเงินให้แกใช้บ้าง
แกหาให้ผมใช้อย่างเดียวเลย พอและจะร้องไห้

ขอบคุณพื้นที่เล็กๆนี้ที่ให้ผมระบายครับ


BBZ      7 พ.ค. 56   เวลา 15:24:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 119.46.132.74
 


  คำตอบที่ 1  
 
ให้กำลังใจครับ

   p15      7 พ.ค. 56   เวลา 15:32:00    IP = 58.11.42.249
 


  คำตอบที่ 2  
 
เป็นกฎของมนุษย์เงินเดือนเลยครับ

เราจะมีความสุขที่สุดถ้าเราไม่ต้องรู้รายได้ของคนอื่นครับ

ถ้าไม่ชอบก็ออก ไปอัพเงินเดือนครับ แต่ถ้าลืมๆ มันได้ เราประหยัด ก็เหลือเงินเยอะกว่าคนอื่นได้ครับ

   jom2224      7 พ.ค. 56   เวลา 15:37:00    IP = 110.77.136.250
 


  คำตอบที่ 3  
 
สู้ๆครับ

   bbling      7 พ.ค. 56   เวลา 15:50:00    IP = 203.155.54.251
 


  คำตอบที่ 4  
 
เป็นกฏข้อห้ามข้อหนึ่งว่า ห้ามให้พนักงานรู้อัตราเงินเดือนคนอื่นครับ นี่คือบริษัทเอกชน

แต่กฏมีข้อคิดอีกข้อว่า การขึ้นเงินเดือนที่เร็วที่สุดคือการย้ายบริษัทครับ

   Golf917      7 พ.ค. 56   เวลา 15:55:00    IP = 1.2.138.252
 


  คำตอบที่ 5  
 
พี่ว่าจริงๆถ้าพูดกันแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างที่น้องเจอแหละครับ สำหรับพี่ ถ้าใครจะได้เงินเดือนมากกว่าก็แล้วแต่เค้า เรามองแค่ตัวเราว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไหมกับเงินเดือนที่ได้ ถ้าเราอยู่ได้ก็โอเค ถ้าอยู่ไม่ได้ก็หางานใหม่ ถ้าเราไม่พอใจก็หางานใหม่ที่ให้เงินเดือนที่เราอยากได้ แต่ไม่ว่าจะได้เงินเดือนเท่าไหร่เราก็ยังควรทำงานให้เต็มความสามารถไม่ใช่ว่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันจะหาความสุขไม่ได้ครับ เชื่อพี่เถอะ

   tanatosan  7 พ.ค. 56   เวลา 16:04:00    IP = 203.143.159.19
 


  คำตอบที่ 6  
 
ทำงานที่แรก ผมก็เรียกเงินเดือนน้อยไปเหมือนกันครับ

แล้วก็น้อยใจแบบนี้ เพราะดันไปรู้เงินเดือนคนอื่นได้มากกว่านิดนึง เป็นแบบนี้เลย

แล้วผมก็ลาออก ทั้งที่ประสบการณ์ในการทำงานยังไม่แน่น งานก็ไม่ได้หาเตรียมไว้ก่อน ผลคือตกงานอยู่หลายเดือน ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องจริงๆ

อย่าไปคิดมากครับ ความสำเร็จไม่ใช่วัดกันที่เส้นสตาร์ทหรอก(ต่างกันพันนึงเอง) ชีวิตการทำงานยังอีกไกลครับ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แล้วผลมันจะออกมาดีเองครับ

นายใช้คุณบ่อย ก็แสดงว่าเขาไว้ใจ และมองเห็นศักยภาพในตัวคุณนะครับ

----------------------------------------------------------------------------
ปล.ไอ่คนได้สองหมื่น อย่าเอามาคิดครับ งานคนละหน้าที่ วิ่งหาลูกค้า คชจ.มันเยอะกว่า เสียพลังงานเยอะกว่าด้วย ยอดไม่ถึง ก็ตกงานได้ง่ายๆเลย

   811      7 พ.ค. 56   เวลา 16:10:00    IP = 58.11.137.46
 


  คำตอบที่ 7  
 
ต้องอดทนครับ..ห้ามถอย

   aveo      7 พ.ค. 56   เวลา 16:11:00    IP = 182.52.169.64
 


  คำตอบที่ 8  
 
ตามคำแนะนำของพี่ๆครับ

ผมทำงานแบบถวายหัวเลย
นายญี่ปุ่นท่านยังชมเลยว่า very nice
พี่ฝ่ายบัญชีก็ชมครับ ภูมิใจมากที่ได้ผมมาทำงาน

แต่ผมรักบริษัทนี้นะครับ นายผมใจดีมาก

แต่นั่นแหละครับ เกิดปมจนได้


   BBZ      7 พ.ค. 56   เวลา 16:14:00    IP = 119.46.132.74
 


  คำตอบที่ 9  
 
โห...เงินเดือนเยอะจัง TT

   The_guitar      7 พ.ค. 56   เวลา 16:20:00    IP = 210.118.108.254
 


  คำตอบที่ 10  
 
ถ้าเราพอใจกับเงินกับงานที่เขาให้ เราอย่าไปสนใจรายรับของคนอื่นเลยครับ


   The_guitar      7 พ.ค. 56   เวลา 16:21:00    IP = 210.118.108.254
 


  คำตอบที่ 11  
 
สมัยจบ ป
โทใหม่ๆ ไม่มีงานทำ ไปอยู่ร้านหนังสือ ที่ขายหนังสือให้ฝรั่ง ผมเรียกเงินเดือนหมื่นเดียวเอง...

ทำได้ไม่ถึงเดือน. ออก....มาเอาเงินเดือนไม่ถึงหมื่นที่นครสวรรค์...


เรื่องเงินเดือนอย่าน้อยใจเลย. ถือซะว่าซวยครับ

บังคับรายจ้างขึ้นเงินเดือนพรวดพราด ไม่มีการค่อยๆปรับตามขั้นบันไดฃ

นายจ้างก็แบกภาระ ปรับฐานทั้งบริษัทไม่ไหว

ก็คงมีคนย้ายที่ทำงานเอาฐานเงินเดือนใหม่กันเยอะหละ....แต่คิดดีๆว่า นายจ้างจะไหวได้อีกนานมั้ย

ปรับฐานเงินเดือนให้สอดคล้องกะค่าครองชีพมันก็ควรทำหละนะ. แต่มันต้องมีอะไรมากกว่าแค่เอาเงินมาเพิ่ม....

อย่าคิดมากครับ ของแบบนี้เรากำหนดเองไม่ได้ คิดไปก็ท้องผูกเปล่าๆ....ถ้ามันไม่ไหวก็เปลี่ยนงาน


อยู่กรุงเทพ ค่าเดินทางแม่งจะเท่าค่าหออยู่และ. อยู่ใกล้เมืองหอแพง อยู่ไกลหอถูกแต่บวกค่าเดินทาง...

   เงอะ      7 พ.ค. 56   เวลา 16:22:00    IP = 115.67.199.216
 


  คำตอบที่ 12  
 
เวลานายญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องงาน อย่างเช่น
สินค้าจากญี่ปุ่นส่งมาผิด ต้องส่งคืน เรียกผม
จะนัดหมายติดต่อธุรกิจกับอีกบริษัทนึง เรียกผม
เวลารถบริษัทไม่ว่าง จะหาแท๊กซี่ เรียกผม
เวลามีแขกมาที่บริษัท เค้าจะเรียกผมเพียงคนเดียวให้เข้าไปพบแล้วแลกนามบัตร
------------------------------------------------------------------------------------------
บอกได้คำเดียวครับ อนาคตคุณโตแน่นอนครับ อดทนครับ
แล้วงานจะเปลี่ยนหน้าที่คุณครับ
"ตีกอล์ฟ รับแขก ทานเหล้า เข้าประชุม"
อีกนิดครับ อย่าเอาเงินเดือนคนอื่นมาเปรียบเทียบกับของเรา(เพราะมันไม่ใช่เงินเราที่ให้เขา)

   AM13A      7 พ.ค. 56   เวลา 16:42:00    IP = 110.170.119.32
 


  คำตอบที่ 13  
 
ใช่คับ

เพื่อนๆที่ทำงาน อยู่บ้าน ผมอยู่หอ ไกลครับ แต่ค่าหอถูกได้ห้องแอร์
เวลาร้อนปางตายก็ได้แอร์ช่วยชีวิตไว้

ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าหอ ค่าของใช้จิปาถะ สาหัสครับ
ดีนะผมไม่สำอางเท่าไหร่ พวกครีมไม่มี อาบน้ำใช้สบู่ไม่กี่บาท ตรงนี้เลยไม่ค่อยมีรายจ่าย

ถ้ามีขึ้นมานี่ไม่ต้องส่งเงินให้แม่กินแน่ๆครับ

   BBZ      7 พ.ค. 56   เวลา 16:42:00    IP = 119.46.132.74
 


  คำตอบที่ 14  
 
เอาใจช่วยครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      มัจจุราชหูเหล็ก      7 พ.ค. 56   เวลา 17:11:00    IP = 110.171.195.109
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
ถ้าทำงานเเล้วไม่พอใจเงินเดือน ก็อาจจะลาออกได้ครับ เเต่งานการมันก็หายากอยู่
เงินเดือน 15000 ก็ไม่ใช่ว่าน้่อยนะครับในเศรฐกิจเเบบนี้
ผมเข้าใจดี บางทีมันก็เซ้งนะ จบมาด้วยกัน เงินเดือนไม่เท่ากัน เเต่เด่วนี้ไม่สนใจเเล้ว
เงินเดือนเเปดหมื่นกับเเสนสอง ยังไงมันก็พอใช้ทั้งคู่นันเเหละ อันนี้ความคิดผม หลังจากทำงานมานานพอสมควร
อ่อ ผมฝากสักอย่างก็เเล้วกัน หลายอย่างบางคนเขาก็พูดได้ตรงกับสิ่งที่ผมอยากบอก
ผมจะโพสในสิ่งที่ไม่มีใครโพสเเล้วกัน มีน้อยใช้น้อย ก็พอมีใช้ครับ ซึ่งก็อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เซ็งๆมากก็อาจจะต่อปใโทปเอก ช่วยได้เยอะครับ สำหรับไทยเเลนด์ของเรา

   alot       7 พ.ค. 56   เวลา 17:18:00    IP = 125.24.36.71
 


  คำตอบที่ 16  
 
ถ้าเราทํางานดีกว่าจริงๆ
เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ เขา ปรับให้ทีหลัง เพราะตอนเเรกยังไม่รู้
ใครเป็นไง
ถ้าเจ้านายมันโง่ไม่เห็นสักที ก็ อย่าเสียเวลานานครับ

   crusher      7 พ.ค. 56   เวลา 17:19:00    IP = 27.55.13.159
 


  คำตอบที่ 17  
 
คงต้องพยายามทำใจหน่อยครับ เป็นแบบนี้ทุกที่แหละครับ ถ้าเรียกเงินเดือนน้อยแล้วเค้ารับเราถึงจะปรับเงินเดือนขึ้นยังไง ก็คงจะเท่าคนที่เรียกสูงกว่าเรายากครับ ยกเว้นผลงานเข้าตาจริง ๆ เอาเป็นว่า ถ้าไม่สบายใจ ก็หางานใหม่ครับ โดยคุณก็จะมีประสบการณ์ที่เก่าเป็น back up ให้ ก็น่าจะพอเรียกเงินเดือนได้อยู่ แต่ตอนลาออกเค้าต้องถามแน่ครับว่าเพราะเหตุใด ก็อาจจะบอกไปว่า เงินเดือนน้อยทำแล้วไม่ค่อยเหลือครับ ค่าใช้จ่ายสูง เดินทางไกล แต่อย่าบอกนะครับว่ารู้ว่าคนอื่นเงินเดือนมากกว่า ในขณะที่ทำงานน้อยกว่า เพราะโดยปกติแทบทุกบริษัทฯ เค้าจะไม่ให้รู้เงินเดือนกันก็เพราะสาเหตุนี้แหละครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ ๆ ชีวิตต้องเดินต่อไปครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังครับ

   หงส์พลัดถิ่น      7 พ.ค. 56   เวลา 17:38:00    IP = 58.9.121.224
 


  คำตอบที่ 18  
 
บอกไปตรงๆ ขอขึ้นเงินเดือนเพราะเห็นเงินเดือนคนอื่น แล้วอยากได้เพิ่ม บ้านไกลสุด ทำงานหนัก


   eventide  7 พ.ค. 56   เวลา 17:38:00    IP = 1.20.0.190
 


  คำตอบที่ 19  
 
ใจเย็นๆ น้องเอ๊ย...ผมจบปริญาตรี เมื่อก่อนเข้าทำงานในหน่วยงานรัฐอัตราเงินเดือนตาม กพ.กำหนดได้เงินเดือน 3,700 บาท เองน้องนั่นมันกี่สิบชาติมาแล้ว มันห่างกันขนาดไหนคิดดู
ทำงานจนเก็บความรู้ได้ครบคราวนี้ได้เวลาบิน เดินเข้าเดินออกบริษัทเงินทุนสนุกสนานอัพเงินเดือนมันเข้าไปแล้ว เป็นไงตอนนี้บริษัทมันเจ๊งเป็นแถบๆสมัยฟองสบู่แตก
1.การเรียกเงินเดือนเป็นความสามารถเฉพาะตัวในการเจรจาต่อรอง เราคิดว่าควรจะได้เท่าไรใส่เข้าไปถ้าเขาตกลงก็ตามนั้น คุณได้น้อยกว่าไม๊ ไม่ใช่เขาให้คุณตามนั้นตอนที่คุยกัน ตอนกรอกใบสมัคร คุณเดินเข้าไปหางาน เขาไม่ได้เอาใบสมัครมาให้คุณกรอก ไม่ได้มาเชิญคุณที่บ้าน เอาละได้งานก็โอเค ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะคุณยังอาจไม่เคยเจอคนที่เดินมาทำงานบริษัทสบายๆได้เงินเยอะ เพราะเขามีเส้นสายแล้วคุณจะมีความรู้สึกอีกแบบ
2.เพิ่งทำงานใหม่ๆหลังจากเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์มากนักมันยังวัดอะไรกันไม่ได้ว่าเขาจะดีกว่า เพราะได้เงินมากกว่าแค่พันเดียว ต้องดูกันอีกนาน มีน้ำอดน้ำทนแค่ไหน เรื่องของงานแล้วผู้ร่วมงานอีก ทำงานเข้าตากรรมการหรือเปล่า ถ้าถูกเรียกใช้บ่อยๆนี่ถือว่าโชคดีได้มีโอกาสแสดงฝีมือต้องไปดูตอนที่อายุ 35 หรือ 40 ปีจะเริ่มเห็นชัดถึงความแตกต่างซึ่งตอนนั้นคุณคงไม่ได้อยู่ที่บริษัทนี่แล้ว นอกเสียจากจะมีไอเดียบรรเจิดออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วรวยเป็นร้อยล้านแบบเถ้าแก่น้อยขายสาหร่าย ประสบความสำเร็จอายุยังน้อยๆ แต่นั่นมันเรื่องทำส่วนตัวนะไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน
3.การได้งานทำถือว่าโชคดี ได้มีโอกาสนำความรู้มาใช้ขณะเดียวกันก็ต้องใช้โอกาสฝึกฝน พัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสารถมากขึ้นเพราะการทำงานย่อมมีอุปสรรค การแก้ไขปัญหาให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทำงานร่วมกับคนอื่นต่างคนต่างความคิด จะต้องใช้วิทยายุทธแม้กระทั่งคำพูดคำจา มันต่างกันมากไม่เหมือนการใช้ชีวิตในมหาลัย ถ้าแน่ใจว่าอาคมแก่กล้าแล้วตอนนั้นว่ากันอีกที ประสบการณ์ในการทำงาน อายุการผ่านงานจะเป็นเครื่องการันตีให้ได้เอามาต่อรองงานใหม่ได้ แต่ตอนนี้ยังก่อน....
4.ไม่ต้องรีบรวยมีเงินเยอะๆ การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เป็นสิ่งที่ดีขออนุโมทนา ตอนนี้เราทำได้แค่นี้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป อายุยังน้อยมีเวลาอีกเยอะ ทำงานไปหาทางขยับขยายไปก็ได้
นี่คือภาพรวมมนุษย์เงินเดือน

   naipaun  7 พ.ค. 56   เวลา 17:40:00    IP = 58.11.188.190
 


  คำตอบที่ 20  
 
มีทิ้งขยะด้วย สู้ๆน่ะค่ะ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาเลยคะท่าน สู้ๆๆ
เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมค่ะ สู้ๆๆค่ะ

   Tu Rock      7 พ.ค. 56   เวลา 18:02:00    IP = 49.49.154.51
 


  คำตอบที่ 21  
 
คงเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงานครับ
นี่แหละเหตุทีว่า ทำไมเรื่องเงินเดือนจึงต้องให้ปกปิดเป็นความลับกัน ไม่ควรเปิดเผยจริงๆครับผม
บางทีรู้ มันจะเกิดการเปรียบเทียบ สู้ไม่ให้รู้ดีกว่า


   GminorBb      7 พ.ค. 56   เวลา 18:37:00    IP = 171.7.26.95
 


  คำตอบที่ 22  
 
มันถึงเป็นความลับไงครับ

ผมมีเพื่อนคนนึงเข้างานพร้อมๆกันนี่แหละ มันถามตลอดได้เงินเดือนเท่าไหร่

เริ่มเข้า บริษัทให้เท่ากันหมด

แต่ไปซักพักเริ่มผ่านโปร มันก็ถามผม ผมก็บอก สรุปเท่ากัน

หลังปีใหม่โบนัสออก ทีนี้ผมก็แกล้งบอกให้น้อยกว่ามันตลอด เพื่อให้เพื่อนสบายใจ

หลังทำไป1ปี มันก็ถามอีกว่าเงินขึ้นมั้ย ผมก็บอกขึ้นมา 200 เอง บอกให้น้อยกว่ามัน เพื่อความสบายใจของเพื่อน


แล้วงานที่ จขกท. ทำนั้นทำแล้วมีความสุขมั้ยครับ

   nutthapon9      7 พ.ค. 56   เวลา 18:44:00    IP = 223.206.216.18
 


  คำตอบที่ 23  
 
สู้ๆครับ เงินเดือนเยอะกว่าผมอีกครับ ^^

   ตัว R      7 พ.ค. 56   เวลา 18:56:00    IP = 58.9.232.143
 


  คำตอบที่ 24  
 
เป็นกำลังใจให้ครับ

   nerolives  7 พ.ค. 56   เวลา 19:15:00    IP = 124.122.52.138
 


  คำตอบที่ 25  
 
ผมว่าคำตอบที่8 ของท่านเจ้าของกระทู้ชัดเจนสุดแล้วคับ อะไรที่ทำให้สิ่งที่เรารักนั้นเป็นเรื่องที่เกิดความสุขนะคับ เป็นความสุขแล้วมาตีเป็นเงินแล้วเล็กน้อยคับ
อย่าไปใส่ใจมากคับพันเดียว ขอกันกินมากกว่านี้คับและมีอีกอย่างที่ผมได้รับคำสอนจากลูกพี่เก่า ยังใช้มาตลอด " เฮ้ย ได้เงินมากนะไม่เท่าไรหรอก วัตน์(ชื่อผม)แต่เมิงเหลือเท่าไร(เงิน) นี่แหละสำคัญโว้ย" เป็นกำลังใจให้คับ

   wattapong      7 พ.ค. 56   เวลา 19:52:00    IP = 58.9.84.156
 


  คำตอบที่ 26  
 
กระผมจบป.โทแต่เป็นลูกน้องคนจบป.ตรีฝ่ายบุคคลของสาขาผมเลือกคนที่รู้จักมักคุ้นและหน้าตาดีเข้าทำงาน...........จบ....

   สมาชิกแบบพิเศษ      slipknot-seven      7 พ.ค. 56   เวลา 20:41:00    IP = 171.5.27.165
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 27  
 
เป็นกำลังใจให้ครับ แรกๆผมก็เป็นนะ งานโปรเจคผมเป็นทีมเล็กๆ ผมดูเรื่องเงินๆทองๆทุกอย่างตั้งแต่จัดการงบยันรายรับยันรายจ่าย ใครได้เท่าไหร่ ใครทำกำไรให้บริษัทเท่าไหร่ ใครใช้เท่าไหร่ผมรู้หมด ทีแรกก็น้อยใจเหมือนคุณนี่แหละ

หลังๆมาเรียนรู้ว่าเงินเดือนเราต้องไม่ไปเทียบกับคนอื่น แต่เทียบกับประสิทธิภาพของเราเอง บางสายงานมันเป็นฟังชั่นสำคัญของมันก็ได้มากกว่าเป็นธรรมดา เรื่องสำคัญคือต้องคงความเป็นมืออาชีพไว้ ข้อมูลละเอียดอ่อนไม่ควรบอกใคร

ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วคุณก็ขอขึ้นเงินเดือน แต่อย่าไปอ้างอิงถึงเงินเดือนคนอื่น แต่ให้อ้างอิงถึงสิ่งที่คุณเคยทำในหน้าที่ของคุณ เมื่อได้ไมล์สโตนอะไรสักอย่างให้จดเอาไว้ให้หมด หาสมุดมาหนึ่งเล่มไว้เขียนเจอร์นอลทุกๆวันตอนเย็น ว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้าง มีอะไรสำคัญเกิดขึ้นบ้าง ทำอะไรสำเร็จบ้าง พยายามทำสิ่งที่มีความสำคัญมากก่อน สำเร็จแล้วก็จดเอาไว้ จัดสรรเวลาให้ดี คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง ทิ้งขยะน่ะไม่ต้องทำก็ได้ครับ

ครบหนึ่งเดือนให้หยิบมาอ่านดู ถ้าเจอนอลผมเดือนไหนไม่มีอะไรสำคัญเกิดขึ้น หรือหมดไฟรู้สึกเบื่อทำอะไรซ้ำๆมาก ผมก็ออกไปเที่ยวรีเซ็ทสมองใหม่ เริ่มใหม่เดือนหน้า

ถึงเวลารีแอสเซส ก็เอาไปให้นายคุณดู คนเป็นนายจำไม่ได้ทุกอย่างหรอก ว่าอะไรผ่านมาบ้างใครมีส่วนช่วยทำอะไรสำเร็จบ้าง ยิ่งเรื่องเล็กๆน้อยๆยิ่งจำไม่ได้ คุณก็เอาสรุปไปให้เค้าดูว่าคุณทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้างในเวลาที่ผ่านมาภายใน1หน้ากระดาษ คุณจะรู้ตัวเองด้วยว่าคุณอยากก้าวไปทางไหน อะไรทำให้คุณสนุกไปกับมัน คุยกับเค้าว่าคุณอยากก้าวไปทางนั้นมีทางเตรียมไว้ให้ไหม บริษัททำอะไรให้คุณได้บ้าง คุณไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายทำให้บริษัทอย่างเดียว

ข้อดีของสรุปอย่างนี้ที่ผมพบก็คือมันทำให้นายคุณเหมือนได้ดูเรซูเม่คุณใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่คุณทำที่เกิดขึ้นในบริษัทเค้าเอง

สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออย่าทำตัวให้สำคัญจนทีมขาดคุณไม่ได้ ทำสิ่งที่สำคัญแต่คุณต้องจัดการระบบให้ดี ต้องแสดงให้เห็นได้ว่าวันหนึ่งคุณจะส่งผ่านหน้าที่คุณนี้ให้คนอื่นได้ ออกแบบโพรเสสขึ้นมาแล้วทำตาม พยายามอุดช่องโหว่ให้หมด จนใครก็ได้ที่มีความสามารถเท่ากับคุณมารับช่วงต่อไปเมื่อไหร่ก็ได้

คนที่สำคัญมากจนทีมขาดไปไม่ได้นั้น ไม่มีวันได้เลื่อนไปไหนต่อไหน เพราะเค้าเก็บข้อมูลในสมองมากเกินไป จนส่งให้คนอื่นไม่ได้ ขาดไม่ได้ ลาไม่ได้ เลื่อนตำแหน่งไม่ได้

มันเป็นการกระทำของคนคิดย้อนหลัง คือคิดแต่ว่ากลัวโดนปลดออก จนต้องทำตัวเองให้สำคัญจนเค้าปลดไม่ได้ อย่าตกในบ่วงความคิดนี้เป็นอันขาด แต่ให้คุณคิดไปข้างหน้า เก็บประสบการณ์และความสำเร็จที่เกิดขึ้นในหน้าที่คุณ ทำอะไรใหม่ๆ ออกไปเที่ยวบ้าง ไม่ต้องกลัวโดนปลด

เพราะเมื่อคุณทำอะไรสำคัญสำเร็จให้บริษัท และนำเสนอให้นายคุณรู้ คุณไม่โดนปลดหรอก แต่คุณจะออกเองเมื่อถึงเวลาที่บริษัทไม่มีอะไรท้าทายให้คุณทำอีกต่อไป

   Bottomsup      7 พ.ค. 56   เวลา 20:46:00    IP = 208.69.242.75
 


  คำตอบที่ 28  
 
เข้ามาตอบกันเยอะจัง

ขอบคุณทุกๆคำแนะนำ คำอวยพร และกำลังใจครับ

ขอให้สิ่งเหล่านั้นสะท้อนกลับไปให้ถึงพวกท่านๆด้วยนะครับ :)

   BBZ      7 พ.ค. 56   เวลา 20:53:00    IP = 110.49.240.66
 


  คำตอบที่ 29  
 
ผมขอให้กำลังนะครับ ^ ^ สู็ๆครับ


   สมาชิกแบบพิเศษ      boyguitar1      7 พ.ค. 56   เวลา 21:10:00    IP = 27.55.161.216
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 30  
 
สู้เถอะครับ อดทนหาประสบการณ์ ทำงานให้ดีที่สุด เรื่องหางานใหม่สามารถทำได้ครับแต่ต้องมาจากรอบคอบไม่ใช่ชั่ววูบนะครับ วางแผนชีวิตด้วยจะดีมากนะครับ ดูแลแม่ให้ดี.....เรื่องเงินมีเยอะก็ดีนะครับ แต่หลายๆคนมีแล้วใช้ไม่เป็นเสียดายแทน บางคนรายได้เดือนละหลายแสนยังไม่พอใช้เลยครับ
....

   thomas_worship      7 พ.ค. 56   เวลา 22:06:00    IP = 124.120.9.83
 


  คำตอบที่ 31  
 
ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำ + กำลังใจครับ
ชาวกีตาร์ไทยนี่ใจดีจริงๆ

   BBZ      7 พ.ค. 56   เวลา 22:41:00    IP = 110.49.240.66
 


  คำตอบที่ 32  
 
เจ็บจุงเบย แต่ก้อดทนนะครับทำดีต่อไป. พยายามเข้างานดีเงินเดือนก้ดีอยู่นะ. ขอใหได้ 20,000 หรือมากกว่าไวๆนะ. ลองดูช่องทางจะไปเป็น. Sale. ตรงๆเลยของบริษัท. ได้ไหมน่าจะดีกว่านะ

   sweepgod      7 พ.ค. 56   เวลา 22:45:00    IP = 27.55.147.41
 


  คำตอบที่ 33  
 
พรุ่งนี้ก็วันใหม่แล้ว ครับ

   limpbik      7 พ.ค. 56   เวลา 22:59:00    IP = 115.87.107.189
 


  คำตอบที่ 34  
 
ขยันทำงานซิครับมัวแต่นั่งน้อยใจ งานไม่รุ่ง แถมหัวล้านอีก เจ้านายเขาไม่โง่หรอกครับ ถ้าคุณทำงานดีเดี๋ยวเขาก้ขึ้นเงินเดือนให้เอง ถ้าเก่งจริง ตำแหน่งคุณก็จะแซง
เพื่อน อย่าไปดูเรื่องเงินครับ แค่เล็กน้อย ไม่งั้นคงได้เปลี่ยนบริษัทไปเรื่อยๆ

   poo3605      7 พ.ค. 56   เวลา 23:12:00    IP = 171.99.177.18
 


  คำตอบที่ 35  
 
สู้ ๆ ครับท่าน แต่อยากให้มองคนอื่นบ้าง แย่กว่าเรายังมีอีกมากมายครับท่าน

   peck ferder      7 พ.ค. 56   เวลา 23:33:00    IP = 1.2.197.43
 


  คำตอบที่ 36  
 
ผมว่าคุณโชคดีนะ ได้ทำงานในส่วนที่คนอื่นรุ่นคุณไม่ได้ทำ
โชคดีโครตๆๆๆ จริงๆ อดทนครับ ต่อไปดีขึ้นแน่

   tele_thinline      7 พ.ค. 56   เวลา 23:40:00    IP = 58.11.250.96
 


  คำตอบที่ 37  
 
งานสำคัญๆ ก็เรียกใช้แต่คุณ เป็สิ่งที่ดีแล้วครับ

คิดให้ดี คุณมีโอกาสที่ดีกว่าเพื่อนคุณ ที่มีโอกาสเก็บเกี่ยว

ประสพการณ์ การทำงานมากกว่า ใช้โอกาสนี้เรียนรู้งานให่ลึกซึัง เชี่ยวชาญ

แล้วค่อยก้าวกระโดด โดยหางานใหม่ คนมีความสามารถ ที่ไหนก็ต้องการทั้งนั้น

ถึงเวลานั้นแล้ว เราเรียกค่าตัวได้ ตามความเหมาะสมครับ อย่าใช้เวลานานเกินไป

ในแต่ละที่ เพราะเงินเดือนขึ้น ส่วนใหญ่ ไม่เกิน 10% ครับ ...


   สมาชิกแบบพิเศษ      ผักหวาน      8 พ.ค. 56   เวลา 1:01:00    IP = 110.168.70.129
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 38  
 
ผมจะไม่ให้กำลังใจนะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลเสมอ อาจเรียกเงินเดือนน้อยไป หรือจริงๆ
ความสามารถคุณอาจไม่เท่าคนอื่นก็ได้

ผมเคยมีลูกน้องคล้ายๆแบบนี้แหละ คือเจ้านายชม ผู้ใหญ่ชมทำงานได้ดี แต่ไม่เท่าอีกคน
และก็ไม่รู้ว่าอีกคนนึงว่าเขามีจุดที่เหนือกว่าเล็กๆน้อยๆอยู่ เขามีค่าความสามารถพิเศษภาษาอยู่
และฯลฯ

อ้างบ้านไกลนี่ส่วนตัวผมเป็นเจ้านายผมก็คงไม่ให้ขึ้นหรอกครับ ตอนสมัครยังอุตส่าห์เดินทางมาได้เลย

ทัศนคติแบบนี้ถ้าไม่เปลี่ยนมันอันตรายกับตัวเองครับ

   mervinman      8 พ.ค. 56   เวลา 7:46:00    IP = 49.231.118.5
 


  คำตอบที่ 39  
 
คำตอบ 38 น่าคิดครับ

ถ้าผมเป็นเจ้านายผมก็คงคิดแบบคุณนั่นแหละ

   BBZ      8 พ.ค. 56   เวลา 8:15:00    IP = 119.46.132.74
 


  คำตอบที่ 40  
 
ทำงานใหม่ มุ่งหาประสบการณ์ไปก่อนครับ เก็บรายละเอียดให้ได้เยอะที่สุด แล้วรอโอกาสที่จะมาถึง
แล้วแย็นวันนี้ไปหาหนังสือ พ่อรวยสอนลูกมาอ่านนะครับ อยากให้คุณเข้าใจเรื่องเงินสี่ด้าน ที่จะทำให้คุณไปถึงความมั่งคั่งได้ เคล็ดลับมีนิดเดียว แต่เสียดายที่เรียนมายี่สิบกว่าปี ไม่มีที่ไหนสอนเลย ถ้าคุณ
เข้าใจกลไกของมัน คุณจะรู้วิธีในการให้เงินทำงาน และทำตัวเองให้เป็นเช่นธนาคารได้ โดยไม่ต้อง
ไปเป็นลูกจ้างของธนาคาร เฮ้อ.... ผมพล่ามอะไรเนี่ย หวังดีนะครับ

   Mr.Bug  8 พ.ค. 56   เวลา 10:29:00    IP = 202.28.24.130
 


  คำตอบที่ 41  
 
ก็อย่างว่าน่ะเขาถึงต้องให้ปิดเรื่องเงินเดือนเป็นความลับ..............
==========================================
ผมทำงานกับเพื่อนดูแลระบบ สารสนเทศขององค์กรหนึ่ง
ทุกคนเงินเดือนมากกว่าผมหมด แถมเงินเดือนมากกว่าผม 2 เท่า
อย่างสมมุติว่าผมได้ 1.5 หมื่น เพื่อนผมก็ได้ 3 หมื่น แถมให้ช่วยงานอะไรก็ไม่ช่วย
งานผมก็มากกว่า ส่วนเขาว่างเขาก็ดูการ์ตูน งานก็น้อย
ตอนแรกผมก็ทำใจไม่ได้หรอก แต่ถ้ามัวแต่น้อยใจก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น
ก็เลยแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง แล้วแสดงความสามารถออกไปเพื่อนให้หัวหน้าเห็น
แต่ถ้าอยู่ตรงนี้แล้วไม่เข้าตา ผมก็ต้องหาที่ใหม่ เพราะบางครั้งการเปลี่ยนทัศนคติคน(ผู้ประเมิน)ก็อยากกว่าการเริ่มใหม่เพื่อที่จะก้าวต่อไป ผมเข้าดีเลยหล่ะเรื่องพวกนี้

   eakibanez      8 พ.ค. 56   เวลา 10:47:00    IP = 61.90.13.49
 


  คำตอบที่ 42  
 
eakibanez ตามที่ท่านพูดมันก็ถูกส่วนหนึ่งนะครับ
ผมจบ ปวส มาทุกวันนี้เงินเดือนยังไม่ถึงหมื่นเลย ผมก็อยากเปลี่ยนงานใหม่ด้วย
แต่ทางเลือกที่ช่วยได้คือเก็บเงิน แล้หาลงทุนหรือทำอาชีพเสริมครับ
ตกงานช่วยได้แน่นอน ผมอยูสาย IT ลำบากมากเลย จ้างผมก็ถูก ทำก็หนัก
ต้องมานั่งค้นหาความรู้อีก เบื่อมากเลย แต่ก็ต้องทำใจ

   หมูบิน PiggyFlyFire       8 พ.ค. 56   เวลา 12:04:00    IP = 171.6.163.140
 


  คำตอบที่ 43  
 
@ หมูบิน PiggyFlyFire :: ก็ถูกอย่างที่ท่านกล่าวมา ทางออกมีหลายทางครับ ของผมก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น แชร์ๆกันไว้เป็นอีกทางเลือกแล้วกัน

   eakibanez      8 พ.ค. 56   เวลา 13:12:00    IP = 61.90.13.49
 


  คำตอบที่ 44  
 
ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ มีไหมจ้า ถ้าไม่มี หางานใหม่ ^ ^

ส่วนมากเซล์จะเงินเดือนไม่สูงอยู่แล้วนี่ แต่ +++ ค่าอินเทนซีฟ ค่าคอม เยอะอยู่นะ

   metal_fire      8 มิ.ย. 56   เวลา 10:38:00    IP = 119.160.218.90
 


  คำตอบที่ 45  
 
คือตอนแรกครับ จริงครับที่ตอนเขียนจดหมายเรียกเงินเดือนควรเรียกให้สมกับศักยภาพของตัวเองครับ ของผมเขียนไป 20000ครับ
ผมอายุ21 ครับ
เป็นนักวิจัย
21000 บาท สตาร์ทนะครับ

คือการทำงานหน่ะครับจะบอกว่าเหนื่อยมาก จันถึงเสาร์ ผมบอกตรงๆเลยว่า เงินแค่ 21000ไม่พอใช้ครับ ถ้าเป็นคนทั่วๆไป ค่าที่พัก อาหาร ให้พ่อแม่ บางคนผ่อนบ้าน ผ่อนรถอีก เยอะแยะมากมาย จะบอกว่าผมน่ะหลังจากนั้นลองได้อ่านหนังสือหลายๆเล่ม เกี่ยวกับการทำงานเสริมหรือธุรกิจอื่นๆ ผมทำธุรกิจเสริมด้านการตลาดครับ ในรูปแบบระบบเฟรนชาย รายได้ทำ1ปีอยู่ที่ 40000-80000บาทเลยทีเดียว ซึ่งรวมกับเงินเดือนงานประจำแล้วน่าจะใกล้ๆ100000เลยทีเดียว แล้วอีกอย่าง ผมไม่กลัวถูกไล่ออกครับ เพราะผมมีงานที่รองรับไว้ได้แล้ว อีกไม่นานธุรกิจผมเติมโตอีกนิด ผมคงออกจากงานประจำในอายุไม่เกิน25ปีแน่นอนครับ ผมตั้งเป้าไว้ว่าเดือนนึงผมต้องได้ 300000บาทขึ้นไป ไครที่อยู่กทมสนใจอยากแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผมได้นะครับ ยินดีแนะนำแนวคิดครับ เผื่อจะทำให้ชีวิตทุกท่านดีขึ้นเป็นการให้โอกาสครับ สามารถติดต่อผมทางอีเมลล์ tan_za_2@hotmail.com หรือไลน์ Heart Tan เฟสก็ได้นะครับลองคุยๆมาถ้าอยู่กทมผมอาจจะสามารถบอกแนวคิดอื่นได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษาครับผม^^

   tanmodlove  7 ก.ย. 56   เวลา 3:06:00    IP = 1.10.212.237
 


  คำตอบที่ 46  
 
สู้ๆครับ

   ฺิbombbomb  25 ก.ย. 58   เวลา 11:46:00    IP = 180.183.15.157
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket