(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  รู้จักกับ อเมซอน...ดินแดนแห่งความลี้ลับ และอันตราย  
 


โลก เรานี้มีป่าดงดิบอยู่หลายแห่ง แต่ไม่มีป่าดงดิบใด จะกว้างใหญ่ไพศาล และคงความบริสุทธิ์ยิ่งไปกว่าป่า อเมซอน (Amazon) แห่งอเมริกาใต้ มีเรื่องราวหลายหลาก ที่ซ่อนเร้นอยู่ในป่าดิบแห่งนี้



ป่า อเมซอนกินเนื้อที่กว้างถึง 2 ใน 5 ของ อเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของบราซิล ที่เหลือนั้นแผ่เข้าไปในอีก 8 ประเทศใกล้เคียง คิดเป็นเนื้อที่ป่าได้ราว 2.5 ล้านตารางไมล์ (6.4 ล้านตารางกิโลเมตร) ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ขนานกับเส้นศูนย์สูตร และสิ่งที่แบ่งป่า ออกเป็นตอนเหนือกับตอนใต้ ก็คือ แม่นํ้าอเมซอน


   สมาชิกแบบพิเศษ   top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:29:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 1  
 
ซึ่ง มีต้นนํ้าอยู่ที่เทือกเขา แอนดีส (Andes) ของเปรู แล้วไหลจากตะวันตกไปตะวันออก เป็นระยะทางถึง 6,400 กิโลเมตร ลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แต่ที่น่าตื่นตะลึงก็คือ ขนาดปริมาตรของมันที่ไม่มีแม่นํ้าใดเทียมทัน ทั้งนี้เพราะมีแควที่ไหลลงมาสู่แม่นํ้านี้ถึง 1,100 สาย และความกว้างของแม่นํ้าอเมซอน ก็มีขนาดใหญ่มาก ประมาณว่าเหนือจากปากอ่าวขึ้นไปในทวีป 1,000 กว่ากิโล ก็ยังกว้างถึง 10 กิโลเมตร ส่วนความกว้างที่ปากอ่าวปาเข้าไป 320 กิโลเมตร!!

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:31:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 2  
 
ดัง นั้น ปริมาณนํ้าที่พุ่งลงสู่มหาสมุทรจึงมีปริมาตรมหาศาล ดันนํ้าเค็มให้ห่างจากฝั่งออกไปได้ถึงเกือบ 200 กิโลเมตร นอกจากนี้แม่นํ้าอเมซอนยังลึกมาก ว่ากันว่า เรือสินค้าสามารถแล่นทวนนํ้าเข้าไปในแผ่นดินบราซิลได้ไกลถึง 3,700 กิโลเมตร ด้วยเหตุนี้การคมนาคมทางนํ้าในดินแดนนี้จึงมีความสำคัญกว่าทางบกหลายเท่า

และ แน่นอน ในแม่นํ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกนี้ก็มีปลาที่ดุร้ายที่สุดของโลกเช่นกัน ซึ่งเรารู้จักกันดีก็คือ ปลาปิรันยา (piranha) ซึ่งมันมีฟันที่คมกริบและกัดเก่ง ว่ากันว่าชาวประมงที่ตกมันได้ และปลดจากเบ็ดโยนไว้ที่ท้องเรือนั้น หลายคนมีนิ้วมือหรือนิ้วเท้าเพียง 9 นิ้ว !!

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:32:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 3  
 
แต่ ถ้าจำเป็นต้องลงไปอยู่ในนํ้า ชาวพื้นเมือง เค้าก็มีเทคนิคเฉพาะตัว ก็คือให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อย่าลอยคอเล่น แล้วท่านจะพ้นภัยจากปิรันยา

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:33:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 4  
 
สัตว์ ในวารีที่น่ากลัวอีกชนิดหนึ่งก็คือ ไคมาน (caiman) จระเข้ขนาดใหญ่ที่สุดของ อเมซอน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ดุเท่าใดนัก และตกเป็นเหยื่อของนักล่าที่ชำแหละหนังของมันไปขายได้ราคางาม จนจำนวนของมันร่อยหรอลง

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:33:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 5  
 
สัตว์ที่น่ากลัวอีกอย่างก็ อนาคอนดา (anaconda) งูยักษ์ มีผู้เคยพบอนาคอนดาที่ยาวถึง 13 เมตร ในป่าอเมซอนนี้

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:34:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 6  
 
สัตว์ บกที่อาศัยหากินอยู่ตามชายตลิ่งแม่นํ้า อเมซอนนั้นมีหลายชนิด อาทิ สมเสร็จ (tapir) หุ่นของมันคล้ายแรดผสมม้า หนังหนาถึง 2 นิ้ว ทำให้มันลอยตัวหากินพืชนํ้าตามตลิ่งได้สบาย

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:34:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 7  
 
คา ปีบารา (capybara) สัตว์ประเภทหนู (rodent) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวขนาดเท่า หมูนั่นแหละครับ โตเต็มที่ยาวถึงเมตรกว่า และหนักเกือบ 80 กิโล ชอบอยู่เป็นฝูงราว 20 ตัว กินหญ้าและพืชนํ้าเป็นอาหาร

หรือ ตัว พะยูน (manatee) ตัวอ้วนกลมไร้ขนดู น่าเกลียดน่าชัง แขนขาของมันเหมือนพายทำให้มุดนํ้าดำว่ายได้คล่องเช่นกัน มันมักชอบว่ายคลอไปข้างๆ เรือ จัดเป็นสัตว์ที่มีความเป็นมิตรที่สุดในโลก

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:35:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 8  
 
อีก ตัวหนึ่งซึ่งชอบนํ้า แต่หากินบนบก คือ ตัวกินมด (anteater) ที่อเมซอนนี่จัดเป็นตัวกินมดขนาดยักษ์ (giant anteater) มันจะขุดคุ้ยหามด และปลวกกินในพื้นที่สูงๆ กรงเล็บเท้าหน้าของมันยาวและทรงพลัง ทลายจอมปลวกได้อย่างง่ายดาย แล้วใช้งวงหรือจมูกอันแข็งแรงคุ้ยหาเหยื่อ ลิ้นอันเหนียวหนึบของมันยาวถึง 10 นิ้ว


   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:35:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 9  
 
ทีนี้มาดูสัตว์ที่หากินบนบกจริงๆ บ้าง

อัน ที่จริงคำว่า "บก" สำหรับป่าอเมซอนนั้นคงใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุที่ว่าพื้นที่แผ่นดินนี้เป็นแอ่งราบลุ่มชุ่มไปด้วยนํ้า อย่างที่บอกแล้วว่ามีแควหรือสาขาแม่นํ้าอยู่มากมาย ดังนั้นจึงเกิดนํ้าท่วมทุกปี หรือพูดอีกอย่างว่าท่วมเกือบตลอดปีก็ว่าได้ และพอนํ้าลงก็จะมีนํ้าขังอยู่เป็นหย่อมๆ ซึ่งชนบราซิลเรียกทะเลสาบนํ้าขังนี้ว่า "วาร์ซีอา (varzea)"

แผ่น ดินที่ชุ่มฉํ่านั้นมีผลต่ออุณหภูมิของป่า คือค่อนข้างคงที่อยู่ระหว่าง 20-32 เซลเซียส ไม่มีฤดูร้อน ฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ผลิ มีก็แต่ฤดูเปียกกับแห้ง (wet and dry seasons)

เมื่อ อุณหภูมิคงที่ ต้นไม้จึงผลัดใบ แตกหน่อแตกตา ผลิดอกออกผล ตลอดเวลาทั้งปี เช่นว่า หลังฝนตกใหญ่ บางทีต้นไม้ก็ชูช่อดอกไสว ราวกับฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้วนั้นเอง พอถึงตอนเที่ยงวันอันอบอ้าว เสียงนกกาเงียบหายไป ใบไม้หุบ กลีบดอกจะร่วงพรูลงดินเหมือนอยู่ในเหมันตฤดู และพอความมืดเข้ามาเยือน อากาศก็เย็นเยียบลงเฉียบพลันจวบจนอรุณรุ่งจึงจะมีความสดชื่นเข้ามาแทนที่อีก ครั้ง ชีวิตในหนึ่งวันเป็นดังเหมือนผ่านฤดูกาลทั้งปี



   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:36:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 10  
 
อเมซอน...ดินแดนแห่งความลี้ลับ และอันตราย



สิ่ง น่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของป่าอเมซอน ก็คือ ความมืด เนื่องจากต้นไม้นับล้านๆ ต้น พากันแก่งแย่งแสงแดด มันจึงเติบโตสูงชลูดสุดกู่ และแผ่กิ่งก้านสาขาราวกับมีร่มสีเขียวมหึมากาง อยู่บนยอด ส่วนลำต้นนั้นมีแต่ความเปลือยเปล่าไร้กิ่งก้าน แสงอาทิตย์สามารถส่องทะลุลงไปถึง พื้นดินได้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แลดูสลัวๆ ดุจอยู่ในโบสถ์ทึมๆ บางต้นไม้ใหญ่จะมีไม้เถาวัลย์ที่เรียกว่า ไลอานา (Liana) ขึ้นเกาะเกี่ยวพันอยู่ราวกับงูตัวยาวเลื้อยขึ้นไปหาแสง สว่างแล้วก็มีไม้พวกรากอากาศคือ อีพิไฟต์ (epi- phyte) เกาะเป็นกลุ่มอยู่บนยอดไม้ใหญ่ อะไรๆ ก็แย่งกันขึ้นไปหาแสงแดด ส่วนล่างนั้น โปร่งเหมือนบ้านใต้ถุนสูงที่มีแต่เสา

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:37:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 11  
 
ความ คงที่ของอุณหภูมิยังทำให้สภาพป่าและพรรณไม้ดำรงอยู่ โดยไม่เปลี่ยนแปลงมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ป่าในยุโรปหรืออเมริกาเหนือนั้นอายุแค่ราว 11,000 ปี แต่ป่าดงดิบอเมซอนมีมากกว่า 100 ล้านปีแล้ว!!

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:38:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 12  
 
เป็น ป่าเดียวที่หลงเหลืออยู่ให้ใครๆ ได้สัมผัสถึงอดีตอันไกลโพ้น และด้วยอายุอันยาวนาน จึงมีสรรพสิ่งถือกำเนิดและวิวัฒนาการมากมายหลาย หลากยิ่งกว่าป่าใดในโลก ยกตัวอย่างเช่น ปลาหลายชนิดเคยเป็นปลาทะเลที่เปลี่ยนมาอยู่ในนํ้าจืด รวมแล้วในแม่นํ้าเครืออเมซอนมีปลาถึงกว่า 3,000 สกุล (species) เทียบกับแม่นํ้ายุโรปที่มีเพียงแค่ 150 สกุล

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:39:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 13  
 
ต่ น่าประหลาดที่สัตว์ใหญ่บนบกกลับหาดูได้ยาก จากความที่พื้นดินไร้แสงแดด จึงมีพืชน้อย สัตว์กินพืชจึงน้อย สัตว์กินเนื้อ (ซึ่งกินสัตว์กินพืช) ก็เลยน้อยไปด้วย

สัตว์ต่างๆ ที่ดำรงชีพในป่าอเมซอนได้นั้นเป็นเพราะมีการปรับตัว ให้เข้ากับสภาพสิ่งแวดล้อมของป่า หลายชนิดปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนยอดไม้สูง หลายชนิดหัดว่ายนํ้าเพื่ออาศัยอยู่ริมตลิ่งอันอุดมด้วยพืชผัก

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:40:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 14  
 
" แม่น้ำอเมซอน (Amazon River)" จัดเป็น 1 ใน 10 แหล่งผจญภัยแดนหฤโหดแห่งอเมริกาใต้



แม่น้ำอเมซอนกำลังเผชิญกับวิกฤติปริมาณน้ำครั้งสำคัญ หลังจากพื้นที่หลายส่วนโดยเฉพาะช่วง"ตอนปลายของแม่น้ำ" ที่อยู่ลึกเข้าไปภายในทวีปอเมริกาใต้ เช่น แถบตะวันออกเฉียงเหนือของเปรูกำลังมีระดับน้ำลดต่ำที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ จนทำให้การสัญจรทางน้ำซึ่งเป็นช่องทางหลักของผู้คนที่อาศัยในพื้นที่ในการติดต่อกับโลกภายนอกต้องถูกตัดขาด ระดับน้ำในแม่น้ำอเมซอน ซึ่งเป็นสายน้ำที่มีความยาวเป็นลำดับที่ 2 ของโลก รองจากแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ ได้ทำสถิติลดต่ำที่สุดในรอบ 40 ปีแล้ว หลังจากฤดูแล้งในอเมริกาใต้ในปีนี้มีระยะเวลายาวนานกว่าปกติ
เมืองอิกิโตส ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตป่าอเมซอนของเปรูที่อยู่ห่างจากปากแม่น้ำในบราซิลมากกว่า 3,000 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากชาวเมืองกำลังประสบภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงจากการที่แม่น้ำอเมซอนมีระดับน้ำลดต่ำลงจนเรือไม่สามารถแล่นเข้า- ออกได้ตามปกติ

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:41:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 15  
 
ข้อมูลทั่วไป
เป็นแม่น้ำในทวีปอเมริกาใต้ มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเปรู และไหลออกมหาสมุทรที่ประเทศบราซิล มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 6,250 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากแม่น้ำไนล์ และยังเป็นแม่น้ำที่มีปากแม่น้ำกว้างที่สุดในโลก ซึ่งอยู่บริเวณทางเหนือของบราซิล แม่น้ำอเมซอนเป็นแม่น้ำสายที่มีปริมาณน้ำมากที่สุด ปริมาณน้ำที่ไหลออกยังมหาสมุทรแอตแลนติกมากถึง 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในฤดูฝน
พื้นที่
อเมซอนมีพื้นที่กว่า 7 ล้านตารางกิโลเมตร อยู่ทางตอนเหนือของภาคกลางของอเมริกาใต้ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศบราซิลแต่ก็ยังข้ามไปชายแดนของประเทศโบลิเวีย โคลอมเบีย เอกวาดอร์ กิอานา (และมีบางส่วนของกิอานาฝรั่งเศส) สุรีนัม และเวนเนซูเอล่า อเมซอนมีพื้นที่ประมาณ 58.5% ของบริเวณที่เป็นผืนดินของบราซิล
ปริมาณน้ำ
แม่น้ำอเมซอนจึงไหลผ่านอาณาบริเวณมากกว่า 6 ล้านตารางกิโลเมตร (2.3 ล้านตารางไมล์) ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในประเทศบราซิล ส่วนที่เหลืออยู่ในประเทศเปรู โบลิเวีย และ เวนเนซูเอล่า คาดว่าแม่น้ำอเมซอนปล่อยน้ำอยู่ที่ระหว่าง 34 และ 121 ล้านลิตร (9 และ 32 ล้านแกลลอน) ของน้ำต่อวินาที และมีการตกตะกอนบริเวณใกล้ปากแม่น้ำโดยเฉลี่ย 3 ล้านตันต่อวัน น้ำที่ไหลออกจากแม่น้ำทุกปีคิดเป็นหนึ่งในห้าของน้ำจืดทั้งหมดที่ไหลลงสู่มหาสมุทรของโลก การไหลออกของน้ำหรือตะกอนมีจำนวนมหาศาลซึ่งความเค็มและสีมหาสมุทรแอตแลนติคจะเปลี่ยนไปเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร (ประมาณ 200 ไมล์) นับจากปากแม่น้ำ
ต้นน้ำของแม่น้ำอเมซอน
ต้นน้ำหลักของอเมซอนคือ แม่น้ำอุคายาลี (Ucayali) และแม่น้ำมารานอน (Maranon) ซึ่งแม่น้ำทั้งสองสายนี้จะมีกำเนิดอยู่ที่ภูเขาแอนเดสซึ่งเป็นภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดปี และไหลขนานไปทางเหนือก่อนที่จะไปบรรจบกันที่เนาต้า ประเทศเปรู
ทิศทางการไหลของแม่น้ำอเมซอน
จากการบรรจบกันของแม่น้ำอุคายาลี (Ucayali) และแม่น้ำมารานอน (Maranon) ทำให้แม่น้ำอเมซอนไหลไปทางทิศตะวันออกลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติค แม่น้ำอเมซอนไหลเข้ามหาสมุทรแอตแลนติคผ่านปากแม่น้ำกว้างที่น้ำจืดและน้ำเค็มมาบรรจบกัน ซึ่งคาดว่ามีกว้างประมาณ 240 กิโลเมตร (ประมาณ 150 ไมล์) ที่นี่มีการตกตะกอนที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเป็นเกาะแก่งที่แยกแม่น้ำออกเป็นสาขาต่าง ๆ ที่ปากแม่น้ำใหญ่กว้างประมาณ 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ซึ่งสาขาที่แยกออกไปนี้เป็นที่รู้จักว่า ปารา (Para) ซึ่งแยกจากสาขาที่เล็กกว่าโดยเกาะ มาราโจ(Marajo Island) ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 36,000 ตารางกิโลเมตร (14,000 ตารางไมล์) ระหว่างช่วงที่มีกระแสน้ำเชี่ยวที่ปากแม่น้ำ หรือคลื่นลมพัดจากมหาสมุทร ก็จะพัดพาเอากระแสน้ำที่ความเร็ว 650 กิโลเมตร (มากกว่า 400 ไมล์) ที่ความเร็วเกินกว่า 65ไมล์ต่อชั่วโมง (40ไมล์ต่อชั่วโมง) ปรากฏการณ์เช่นนี้มักก่อให้เกิดคลื่นที่มีความสูงถึง 5 เมตร (16 ฟุต)
สัตว์ในท้องถิ่นของป่าอเมซอน
ป่าอเมซอนประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางชีววิทยาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีใครทราบว่าจริง ๆ แล้วมีสัตว์กี่สายพันธุ์ในป่าอเมซอน แต่นักวิทยาศาสตร์คาดว่ามีอยู่ระหว่าง 800,000 ชนิดและ 5 ล้านสายพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในป่าอเมซอน ซึ่งคิดเป็น 15 ถึง 30% ของสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งหมดในโลก ตามที่นักอนุรักษ์ธรรมชาติได้จัดทำรายการปลาน้ำจืดพันธ์ใหม่ มีการค้นพบว่า มีปลามากมายประมาณ 3,000 ชนิดในแม่น้ำและทะเลสาบที่อยู่ในอเมซอน ปลาที่พบในบริเวณนี้คือ pirarucu ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นปลาน้ำจืดที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีตัวอย่างวัดได้ยาวกว่า 6.5 ฟุต (2 เมตร) และมีน้ำหนัก 275 ปอนด์ (125 กิโลกรัม) ปลา tambaqui ซึ่งเป็นปลาที่กินผลไม้ในตระกูล characin ซึ่งมีฟันแข็งแรงสามารถกระเทาะเมล็ดที่มีความแข็งได้ เช่น เมล็ดของต้นยาง และต้นปาล์ม jauari และ ปลาปิรันญ่า

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 10:43:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 16  
 
มาดูเรื่องแปลกจากป่า อเมซอนอีกซักเรื่องครับ

หนุ่มมะกันเข้าป่าอเมซอน พบหน้าแม่ชาวป่าเป็นครั้งแรก

เดวิด กู้ด หนุ่มอเมริกันวัย 28 ปี เดินทางมุ่งหน้าเข้าป่าอเมซอน ในเขตพื้นที่ของประเทศเวเนซุเอลา เพื่อตามหาแม่ผู้ให้กำเนิด มารดาผู้เป็นคนจากชนเผ่ากลางป่าที่ห่างไกลความเจริญ ชนเผ่าที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้า และไม่รู้จักแม้กระทั่งการนับเลข

เรื่องราวแปลก ๆ ยังคงมีเกิดขึ้นอยู่ทุก ๆ วันจากทุก ๆ มุมโลก เรื่องของ เดวิด กู้ด ลูกชายเคนเนธ กู้ด นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แสนจะแปลก เขาคือลูกชายของคนเมืองและสาวชาวป่าโดยแท้ เมื่อ ยาริมา แม่ของเขาคือคนของชนเผ่ายาโนมามิที่อาศัยอยู่กลางป่าอเมซอน

เรื่องราวของเดวิด ได้กลายเป็นสารคดีตอนหนึ่งของบีบีซี เมื่อปี 2556 และเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ ก็ได้นำเรื่องราวนี้มาเล่าใหม่อีกครั้ง เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ต้องอยากรู้แน่ ๆ งั้นลองมาติดตามเรื่องราวของ เดวิด กู้ด ลูกครึ่งอเมริกัน-ชนเผ่ากลางป่า กันดู

พ่อและแม่ของเดวิด พบกันครั้งแรกที่กลางป่าอเมเซอนในเขตประเทศเวเนซุเอลา เมื่อปี พ.ศ. 2518 ขณะที่พ่อของเขาเข้าไปทำวิจัยกับทีม เคนเนธ พ่อของเดวิดได้กลับไปที่นั่นอีกหลายครั้งเพื่อเก็บข้อมูล และมักได้พบกับ ยาริมา เด็กหญิงที่มีทีท่าดีใจเสมอเมื่อเขามาหา และในอีก 3 ปีถัดมา หัวหน้าเผ่าก็ได้ยกยาริมาที่อยู่ในวัยเพิ่งแรกรุ่นให้กับเขา ไม่มีใครรู้ว่ายาริมาอายุเท่าไร เพราะคนในเผ่ายาโนมามินับเลขไม่เป็น ทุกจำนวนที่เยอะกว่าหนึ่งก็จะนับเหมาเป็นจำนวนมากไปทั้งสิ้น ในช่วงหลังจากนั้นเคนเนธรักษาความรักระยะไกลกับยาริมา ด้วยการไป ๆ มา ๆ ระหว่างในป่าอเมซอนกับการทำงานในอเมริกา และก็พาเธอออกจากป่าและมาอยู่ด้วยกันที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา ก่อนย้ายมาฟิลาเดเฟีย สหรัฐฯ ในที่สุด ในช่วงนั้นเองที่เธอให้กำเนิดเดวิด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2529

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 11:17:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 17  
 
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองใหญ่สร้างความไม่คุ้นเคยให้กับยาริมา นับตั้งแต่การพยายามโดดจากเตียงคนไข้ไปคลอดเดวิดเองที่มุมห้องในโรงพยาบาล รถราที่วิ่งไปวิ่งมาทำเธอตื่นกลัวราวกับมันเป็นสัตว์ร้าย และความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวในขณะที่เคนเนธต้องไปทำงาน ในที่สุดยาริมาก็ตัดสินใจขอกลับเข้าป่า และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายเท่าที่เดวิดพอจะจำเรื่องราวของแม่ได้ พ่อของเขาก็ไม่เคยพูดถึงอีกเลยว่าแม่เป็นใคร มาจากไหน และทำไมถึงต้องจากไป

ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วที่เมื่อถูกถามถึงแม่ เดวิด ก็จะตอบไปว่าเธอเสียชีวิตแล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อตัดปัญหาถึงคำถามอื่น ๆ ที่จะตามมาหากว่าเขาพูดความจริง การมีแม่เป็นคนป่า และทิ้งเขากลับไปอยู่กับเผ่าไม่ใช่เรื่องปกติของเพื่อนร่วมวัยเขาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีสิ่งนี้ดูจะไม่เป็นปัญหากับน้องสาวและน้องชายของเขาเลย เดวิดเล่าว่าเขาเคยไปแอบร้องไห้เมื่อตอนทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์กับเพื่อน ๆ และพบรูปแม่ของตัวเองแขวนอยู่บนผนังที่อธิบายเรื่องชนเผ่าในป่า รูปใบนั้นถ่ายไว้โดยพ่อของเขา และถูกนำไปใช้ในเพื่อประกอบการศึกษานั่นเอง

เดวิด เข้ากันไม่ค่อยได้กับพ่อ และก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ เขาคิดว่าเขาเกลียดแม่ แต่ก็รู้ว่าลึก ๆ แล้วยังโหยหา และอยากจะได้พบกับผู้เป็นแม่อีกสักครั้ง จนกระทั่งเมื่ออายุ 20 ปี เดวิดได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องชนเผ่ายาโนมามิที่พ่อเขียน และตัดสินใจว่าจะต้องไปพบหน้าแม่ให้ได้ จากนั้นเขาใช้เวลาเตรียมตัวและเก็บเงินอยู่ 3 ปี สำหรับการเดินทางสู่มาตุภูมิของผู้เป็นแม่ ในเดือนสิงหาคม 2554

เดวิดพูดถึงการเดินทางในครั้งนั้นว่า ทุกอย่างเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้พบแม่จริงไหม ถ้าพบแล้วแม่จะจำเขาได้หรือเปล่า จะต้อนรับเขาหรือเปล่า ฯลฯ แต่ในที่สุดทุกอย่างที่เขาเคยต้องการก็เกิดขึ้น เมื่อเขาได้พบกับเผ่ายาโนมามิ กลุ่มคนตัวไม่สูงนัก เปลือยอก แทบไม่สวมเสื้อผ้า และมีไม้เสียบบนหน้า โดยหนึ่งในบรรดาชนเผ่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คือแม่ของเขาเอง

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 11:17:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 18  
 
ไม่ใช่เพียงเดวิด ที่สามารถจำแม่ของเขาได้ ยาริมา ก็ดูจะจำได้โดยอัติโนมัติเช่นกันว่าบุคคลตรงหน้าคือลูกชายของเธอ ทั้งคู่ไม่ได้สวมกอดกัน ตามที่เดวิดบอกว่าเผ่ายาโนมามิไม่รู้จักภาษากายที่เรียกว่ากอด เขาทำตัวไม่ค่อยถูก ได้แต่วางมือบนไหล่ของแม่ แล้วบอกว่า "ในที่สุดผมก็ทำได้แล้วนะแม่ ผมรอวันนี้มานานนับปี ตอนนี้ผมกลับมาบ้านแล้ว"

เดวิด ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวใหญ่ที่กลางป่าอยู่อีกครึ่งเดือน เขาเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับสังคมของแม่ ค่อย ๆ ปรับเรื่องการแต่งกาย กินอาหารแบบที่คนป่ากินกัน ฯลฯ แม้จะเป็นสิ่งแปลกใหม่ และคนอื่นอาจมองว่าไร้สาระ แต่เดวิดกลับรู้สึกสบายใจเป็นที่สุด

ทริปครั้งนั้นไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของเดวิด เขายังกลับไปอีกหลายหน และในตอนนี้ก็ยังได้ตั้งกลุ่ม The Good Project ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือชนเผ่ากลางป่าให้ได้เข้าถึงยาและการพัฒนาในด้านที่เหมาะสมด้วย เรียกได้ว่ามีสำนึกรักบ้านเกิดขึ้นมาอย่างจริงจังเลยทีเดียว

จากเด็กชายลูกครึ่งคนเมือง-คนป่า ผู้ฝังใจว่าเกลียดแม่ แต่ในที่สุดก็กลับมาสู่รากฐานเดิมอันเรียบง่ายของตัวเอง และก็ได้พบว่าความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เคยมีในจิตใจได้สลายและสงบลง ในวันนี้ เดวิด กู้ด ได้ภูมิใจในชาติกำเนิดของตัวเอง และกล้าพูดเต็มปากอย่างไม่กระดากอายว่าเขามีแม่เป็นคนชนเผ่าที่อาศัยอยู่ลึกใจกลางป่าอเมซอน และแน่นอนเขารักแม่คนนี้มากอย่างไม่สามารถอธิบายได้เลย

   สมาชิกแบบพิเศษ      top2513      14 ก.ย. 57   เวลา 11:19:00    IP = 125.26.34.15
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 19  
 

ขอบคุณครับ พี่หมอ

   สมาชิกแบบพิเศษ      ชิตชัย      14 ก.ย. 57   เวลา 11:42:00    IP = 101.108.165.215
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 20  
 
ขอบคุณมากครับ

   sakai  14 ก.ย. 57   เวลา 18:49:00    IP = 125.26.205.124
 


  คำตอบที่ 21  
 
ขอบคุณครับ.

   kong3k  14 ก.ย. 57   เวลา 21:43:00    IP = 1.10.250.61
 


  คำตอบที่ 22  
 
ขอบคุณครับป๋าท็อป อ่านแล้วสนุกมากๆครับ

   deerpoison      14 ก.ย. 57   เวลา 23:52:00    IP = 180.183.45.91
 


  คำตอบที่ 23  
 
ขอบคุณคับ

   central  15 ก.ย. 57   เวลา 12:01:00    IP = 27.55.154.130
 


  คำตอบที่ 24  
 
ขอบคุณคับ

   central  15 ก.ย. 57   เวลา 12:02:00    IP = 27.55.154.130
 


  คำตอบที่ 25  
 
อ่านเพลินเลย ขอบคุณครับ

   distortion_x      15 ก.ย. 57   เวลา 13:45:00    IP = 101.51.248.113
 


  คำตอบที่ 26  
 
สนุกครับ

   แหนม  15 ก.ย. 57   เวลา 19:28:00    IP = 125.26.171.242
 


  คำตอบที่ 27  
 
...

   dTT      16 ก.ย. 57   เวลา 0:02:00    IP = 58.11.107.171
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket