(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  ทำไมต้องใช้ fender / gipson ครับ  
 
กลัวน้อยหน้าคนอื่นหรืออย่างไร
เอาไม้ประดับบารมี หรือยันต์กันผี หรือปล่าว

ตามนั้นฮะ


Rubina      12 มี.ค. 58   เวลา 12:43:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 118.172.90.141
 


  คำตอบที่ 1  
 
ขออภัย G I B S O N
และก็ " "

   Rubina      12 มี.ค. 58   เวลา 12:44:00    IP = 118.172.90.141
 


  คำตอบที่ 2  
 
เพราะอยากได้ และพอจะมีเงินซื้อมาใช้ได้ครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      BOON BOON!      12 มี.ค. 58   เวลา 12:52:00    IP = 118.174.34.150
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 3  
 
ผมเอาไว้อวดบารมีน่ะครับ เป็นยันต์กันผีด้วย
แต่ผมเล่นไม่เป็นหรอกครับ ทุกวันนี้ก็เอามาเป่าเล่น
....... ไม่เห็นมีเสียงเลยอ่า ... ???

อยากเรียนเหมือนกัน แต่ทางบ้านบอกให้รอไปก่อน
รอไปก่อนน๊า .... ทางบ้านว่างั้น .... เง้ออ

   ไม้จิ้มฟัน      12 มี.ค. 58   เวลา 13:12:00    IP = 124.121.4.185
 


  คำตอบที่ 4  
 
ใช้เพราะเห็นมาเนิ่นนานตั้งแต่เด็ก มันฝังรากอยู่ในหัวครับ

   Aehh2000      12 มี.ค. 58   เวลา 13:13:00    IP = 27.145.172.155
 


  คำตอบที่ 5  
 
เห็นศิลปินที่ชอบใช้แล้วดูเท่ห์ เลยอยากได้ แค่นั้นแหละ อิอิ


   Mariokinhed      12 มี.ค. 58   เวลา 13:46:00    IP = 115.87.197.253
 


  คำตอบที่ 6  
 
น่าจะให้หมาถามนะครับ อิอิอิอิอิอิ

   nookjkg  12 มี.ค. 58   เวลา 13:59:00    IP = 182.53.46.74
 


  คำตอบที่ 7  
 
มีติดบ้านไว้ เฉยๆ ครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      noppadol_64      12 มี.ค. 58   เวลา 14:13:00    IP = 58.11.15.70
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 8  
 
เลือกใช้เพราะเอกลักษณ์เสียงที่ได้ตรงความต้องการ

   Spin      12 มี.ค. 58   เวลา 14:17:00    IP = 118.174.69.229
 


  คำตอบที่ 9  
 
"กลัวน้อยหน้าคนอื่นหรืออย่างไร
เอาไม้ประดับบารมี หรือยันต์กันผี หรือปล่าว"

ขอตอบว่า "เรื่องของกูครับ หมาไม่เกี่ยว"

   New_Chain      12 มี.ค. 58   เวลา 14:38:00    IP = 171.100.139.212
 


  คำตอบที่ 10  
 
ผมว่ามันเป็นเรื่องชองรสนิยมครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน และเราก็ไม่ควรไปว่าคนอื่นเรื่องนี้

แล้วก็ "เงินเรา...เราจะซื้ออะไีมันก็เรื่องของเรา เงินเขา...เขาจะซื้ออะไรมันก็เรื่องของเขา" ครับ

   Gap1027      12 มี.ค. 58   เวลา 14:40:00    IP = 203.131.216.143
 


  คำตอบที่ 11  
 
คต.9 ชัดเจนเข้าใจง่ายครับ
คต.10 "เงินเขา...เขาจะซื้ออะไรมันก็เรื่องของเขา" เชือดนิ่มๆครับ(เป็นผมคงเจ็บน่าดู)
ผมว่าคุณ Rubina ไปหายากินเถอะครับ

   ce51n      12 มี.ค. 58   เวลา 14:53:00    IP = 182.255.9.62
 


  คำตอบที่ 12  
 
เพราะ fender ทำเสียง gibson ไม่ได้
ในขณะที่ gibson ก็ทำเสียงแบบ fender ไม่ได้
เพราะฉนั้นต้องมีทั้ง 2 ตัว

   กีต้าร์ธน      12 มี.ค. 58   เวลา 15:15:00    IP = 110.169.42.146
 


  คำตอบที่ 13  
 
มันดีตามแบบของมันน่ะ
คุณอคติไปเปล่า

   bbling      12 มี.ค. 58   เวลา 15:58:00    IP = 203.155.54.251
 


  คำตอบที่ 14  
 
บทที่ 2
เอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง
"แนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกับความพึงพอใจ"
ความพึงพอใจในการทำงานมีความเกี่ยวข้องกับ ความต้องการของมนุษย์และการจูงใจโดยตรง ได้มีผู้ศึกษาค้นคว้าและเขียนไว้มากมาย แต่ในที่นี้จะขอนำมากล่าวเฉพาะหลักการและทฤษฎีที่สำคัญพอสังเขป ดังนี้
Herzberg (2532 : 67-69) ได้ศึกษาทฤษฎีจูงใจค้ำจุน (Motivation Maintenance Theory) หรือ ทฤษฎีจูงใจสุขอนามัย(Motivation Hygiene Theory) เป็นทฤษฎีที่ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญ 2 ประการ ที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจและไม่พึงพอใจในการปฏิบัติงาน ปัจจัยทั้งสองได้แก่ ปัจจัยจูงใจ (MotivationFactor) และปัจจัยสุขอนามัย หรือ ปัจจัยค้ำจุน (Hygiene Factor)
ปัจจัยจูงใจ (MotivationFactor) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติโดยตรง เป็นปัจจัยที่จูงใจให้บุคลากรในหน่วยงานเกิดความพึงพอใจ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจัยจูงใจมี 5 ประการคือ
1. ความสำเร็จของงาน (Achievement)
2. การได้รับการยอมรับนับถือ (Recognition)
3. ความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน (Advancement)
4. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ (Work Itself)
5. ความรับผิดชอบ (Responsibility)
ปัจจัยค้ำจุน (Hygiene Factor) เป็นปัจจัยที่ไม่ใช่สิ่งจูงใจ แต่เป็นปัจจัยที่จะค้ำจุนให้เกิดแรงจูงในการปฏิบัติงานของบุคคล ปัจจัยค้ำจุนนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพราะถ้าไม่มีปัจจัยเหล่านี้ บุคคลในองค์กรอาจเกิดความไม่พึงพอใจในการปฏิบัติงาน ปัจจัยค้ำจุน 10 ประการ คือ
1. นโยบาย และการบริหารงานของหน่วย (Company Policy And Administration)
2. โอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าในอนาคต (Possibility Growth)
3. ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน (Interpersonal Relation to Superior, Subordinate, Peer)
4. เงินเดือน (Salary)
5. สถานะของอาชีพ (Occupation)
6. ความเป็นอยู่ส่วนตัว (Personnel Life)
7. ความมั่นคงในงาน (Security)
8. สถานการทำงาน (Working Conditions)
9. เทคนิคของผู้นิเทศ (Supervisor Technical)
10. ความเป็นอยู่ส่วนตัว (Personal Life)
Maslow (1954: 35-46) ได้ตั้งทฤษฎีทั่วไปเกี่ยวกับการจูงใจ โดยมีสมมติฐานว่ามนุษย์มีความต้องการอยู่เสมอและไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อความต้องการใดได้รับการตอบสนองแล้วความต้องการอย่างอื่นก็จะเข้ามาแทนที่ ความต้องการของคนเราอาจจะซ้ำซ้อนกัน ความต้องการอย่างหนึ่งอาจจะยังไม่ทันหมดไป ความต้องการอีกอย่างหนึ่งก็จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งความต้องการจะเป็นไปตามลำดับดังนี้
1. ความต้องการด้านสรีระ (Physiological Need) เป็นความต้องการขั้นมูลฐานของมนุษย์และเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับการดำรงชีวิต ได้แก่ อาหาร อากาศ ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ความต้องการการพักผ่อน และความต้องการทางเพศ
2. ความต้องการความปลอดภัย (Safety Need) เป็นความรู้สึกที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งรวมถึงความก้าวหน้าและความอบอุ่นใจ
3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ (Love and Belonging) เมื่อความต้องการทางร่างกายและความต้องการความปลอดภัย ได้รับการตอบสนองแล้ว ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของก็จะเริ่มเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญต่อพฤติกรรมของบุคคล ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ หมายถึง ความต้องการที่จะเข้าร่วมและได้รับการยอมรับ ได้รับความเป็นมิตรและความรักจากเพื่อนร่วมงาน
4. ความต้องการการเห็นตนเองมีคุณค่า (Esteem Need) ความต้องการด้านนี้ เป็นความต้องการระดับสูงที่เกี่ยวกับ ความอยากเด่นในสังคม ต้องการให้บุคคลอื่น รวมถึงความเชื่อมั่นในตนเอง ความรู้ ความสามารถ ความเป็นอิสระ และเสรีภาพ
5. ความต้องการที่จะทำความเข้าใจตนเอง (Need For Self Actualization) เป็นความต้องการที่จะเข้าใจตนเองตามสภาพที่ตนเองเป็นอยู่ เข้าใจถึงความสามารถ ความสนใจ ความต้องการของตนเอง ยอมรับได้ในส่วนที่เป็นจุดอ่อนของตนเอง
McGragor (1960: 33-48) กล่าวว่าโอกาสที่ครูจะได้รับการตอบสนองสิ่งจูงใจมากหรือน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับผู้บริหารโรงเรียนเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงเป็นการสมควรที่จะได้รับทราบถึงข้อสมมติฐานที่เกี่ยวกับตัวคนในทัศนะของผู้บริหาร ทั้งนี้เพราะการที่ผู้บริหารโรงเรียนจะเปิดโอกาสให้ครูมีโอกาสตอบสนองสิ่งจูงใจมากน้อยเพียงใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อสมมุติฐานหรือความเชื่อของผู้บริหารที่มีต่อตัวคน ข้อสมมุติฐานทั้งสอง คือทฤษฎี X และทฤษฎี Y ซึ่งเปรียบเทียบลักษณะของคนให้เห็นในสองทัศนะที่แตกต่างกันดังนี้
1. ทฤษฎี X
1.1 มนุษย์ปกติไม่ชอบทำงานและจะพยายามหลีกเลี่ยงเมื่อมีโอกาส
1.2 โดยเหตุที่มนุษย์ไม่ชอบทำงานดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้คนได้ปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ จึงต้องใช้วิธี การบังคับ ควบคุม สั่งการ หรือ ข่มขู่ด้วยวิธีการลงโทษต่างๆ
1.3 มนุษย์โดยปกติจะเห็นแก่ตัวเองเป็นสำคัญ จนกระทั่งไม่เอาใจใส่ในความต้องขององค์การเท่าที่ควร
1.4 มนุษย์มักมีท่าทีต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และมีความต้องการความมั่นคงในการทำงานเหนือว่าสิ่งอื่นใด
1.5 มนุษย์เมื่อเข้ามาทำงานมักจะขาดความปราดเปรียว และมักจะถูกพวกไม่เอาไหนชักนำไปในทางเสื่อมเสียได้ง่าย
ความเชื่อเกี่ยวกับทัศนะของคนทั้ง 5 ประการ นี้กำลังจะสูญไปจากสังคมปัจจุบันเพราะการบริหารงานแบบนี้ไม่มีส่วนช่วยส่งเสริมในทางที่ดีต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ ให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน จึงต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ให้ดีกว่าที่พบในข้อสันนิษฐานของทฤษฎีX นี้ McGragor ได้นำแนวความคิดของ Maslow และนำเอาทฤษฎีจูงใจของ Herzberg มาเป็นข้อสนับสนุน ข้อสันนิษฐานใหม่เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์โดยเรียกข้อสันนิษฐานใหม่นี้ว่า ทฤษฎี Y
2. ทฤษฎี Y
2.1 คนโดยทั่วไปมิใช่ว่าจะรังเกียจหรือไม่ชอบทำงานเสมอไป คนอาจถือว่าเป็นสิ่งที่สนุกสนาน หรือให้ความเพลิดเพลินได้ด้วยงานต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ดีหรือเลว ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพของการควบคุม และการจัดการอย่างเหมาะสม ก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถตอบสอนงสิ่งจูงใจของคนได้
2.2 การออกคำสั่ง การควบคุม การปูนบำเหน็จรางวัล การลงโทษทางวินัย มิใช่เป็นวิธีเดียวที่จะให้คนปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของงาน คนเราจะปฏิบัติงานตามเป้าหมายขององค์กรต่อเมื่อเขามีความศรัทธาต่อวัตถุประสงค์ขององค์การนั้น
2.3 ด้วยเหตุผลดังกล่าว การที่คนยินดีผูกมัดตนเองต่องานขององค์การ ย่อมมีผลทำให้งานดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กับสิ่งจูงใจที่จะปฏิบัติงาน
2.4 ถ้าหากงานต่างๆ ได้มีการจัดอย่างเหมาะสมแล้วคนงานจะยอมรับงานดังกล่าวและอยากที่จะรับผิดชอบในผลสำเร็จของงานนั้นด้วย
2.5 ถ้าหากได้มีการเข้าใจถึงคนโดยถูกต้องแล้วจะเห็นได้ว่า คนโดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติที่ดี คือ มีความคิดความอ่านที่ดี มีความฉลาดและมีความคิดริเริ่มที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆขององค์การได้อย่างดี

ที่มา : http://krufonclass9.blogspot.com/p/blog-page_10.html


   JiamBond      12 มี.ค. 58   เวลา 16:38:00    IP = 101.51.158.92
 


  คำตอบที่ 15  
 
ชอบครับ

   eakibanez      12 มี.ค. 58   เวลา 17:09:00    IP = 115.87.218.227
 


  คำตอบที่ 16  
 
ผมไม่มีทั้งสองแบรนด์ ยี่ห้อไหนก็ได้ขอให้Intonationไม่เพี้ยนปรับจูนแต่งให้เข้ามือตัวเองมากที่สุดผ่านเอฟเฟคน้อยที่สุด.....ลุย

   worwit      12 มี.ค. 58   เวลา 17:21:00    IP = 223.205.242.104
 


  คำตอบที่ 17  
 
เพราะตัวฉันเองไม่อาจทำตามใจเธอทุกอย่าง
เพราะถ้าใช้SquierหรือEpiphone ก็จะมาถามอีกว่าทำไมต้องใช้2ยี่ห้อนี้ บางครั่งความสงสัยก็ไม่ได้หมายความว่าคนถามอยากรู้เพื่อเกิดประโยชน์ครับ

   Invinsible Kid      12 มี.ค. 58   เวลา 19:30:00    IP = 1.46.8.180
 


  คำตอบที่ 18  
 
เหมือนรถยนต์ก็ต้องเป็นโตโยต้ากับฮอนด้า ขายต่อก็ออกตัวง่ายได้ราคาดีไม่ชํ้า
คำตอบนี้อย่าซีเรียสกันล่ะ รวมสนุกด้วยกับคำถามกวนโอ้ยที่มีมาเกือบทุกวันขอน้องเขา

   jeep0200phuket  12 มี.ค. 58   เวลา 20:44:00    IP = 58.10.153.10
 


  คำตอบที่ 19  
 
ซื้อเพราะชอบครับ ^____^ ไม่รู้จะตอบยังไงมันเป็นความชอบล้วนๆเลย

   สมาชิกแบบพิเศษ      Bengy_bank      12 มี.ค. 58   เวลา 20:55:00    IP = 1.47.201.20
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 20  
 
1.เอาไว้เสริมบารมีค่ะ เพราะยี่ห้อเค้ามีมาหลายสิบปี
เป็นต้นตำรับของกีตาร์ไฟฟ้าก็ว่าได้ เลยบารมีเยอะกว่ายี่ห้ออื่นค่ะ

2.ความสุขค่ะ เล่นยี่ห้ออื่นไม่มีความสุขเท่า
แต่ก็ความสุขของหนูเองนะคะ ไม่เดือดร้อนใคร

   เมี้ยวเมี้ยวจัง      12 มี.ค. 58   เวลา 21:11:00    IP = 171.101.86.182
 


  คำตอบที่ 21  
 
สั้นๆนะ น้องรู กรูมีตังค์ (เบื่อจริงๆกระทู้ ทำมาย ต้องใช้ gigson fender ทำมาย)

   AM13A      12 มี.ค. 58   เวลา 21:23:00    IP = 223.205.76.134
 


  คำตอบที่ 22  
 
ส่วนผม เพราะว่า จำนำได้ ตั้ง 5000- 15000 แน่ะ fender นะ ส่วน กิ๊บซี่ เค้าเรียก ตั้ง 50000 ผม สู้ราคาไม่ไหว อิอิ

   solotheson      12 มี.ค. 58   เวลา 22:45:00    IP = 49.230.209.226
 


  คำตอบที่ 23  
 
กลัวน้อยหน้าคนอื่นหรืออย่างไร
เอาไม้ประดับบารมี หรือยันต์กันผี หรือปล่าว

ไม่กลัวน้อยหน้า ปกติก็จะเกินหน้าเกินตาชาวบ้านอยู่แล้ว
เรื่องประดับบารมีก็ไม่ใช่ เพราะบารมีมีมาตั้งแต่เกิด
กันผีก็ไม่ใช่อีก ใครจะบ้าเอากีต้าร์มากันผี

   dTT      12 มี.ค. 58   เวลา 22:56:00    IP = 171.96.139.245
 


  คำตอบที่ 24  
 
ความชอบล้วนๆครับ

   yae  12 มี.ค. 58   เวลา 23:11:00    IP = 1.46.140.94
 


  คำตอบที่ 25  
 
มาตรฐานที่สุดแล้ว มันเป็น กต.มหาชน คร๊าบ.

   Solitare  13 มี.ค. 58   เวลา 0:02:00    IP = 223.27.236.130
 


  คำตอบที่ 26  
 
เข้ามาเช็คชื่อครับ

555+

   sk888      13 มี.ค. 58   เวลา 1:24:00    IP = 27.145.96.23
 


  คำตอบที่ 27  
 
ด้วยคนหนุกดี


   กีตาร์นครพนม  13 มี.ค. 58   เวลา 2:37:00    IP = 134.196.68.53
 


  คำตอบที่ 28  
 
ที่ซื้อ fender กับ gibson เพราะไปลองแล้วชอบครับ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะชอบแต่ สองยี่ห้อนี้ ยี่ห้ออื่น ถ้าผมลองแล้วชอบ ก็ซื้อหมดแหละครับ ขอแค่เงินถึง พอซื้อมาแล้วไม่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนก็พอแล้วครับ

   Rackandloso      13 มี.ค. 58   เวลา 3:28:00    IP = 180.183.12.249
 


  คำตอบที่ 29  
 
รวยครับ

   alot       13 มี.ค. 58   เวลา 8:00:00    IP = 101.108.70.243
 


  คำตอบที่ 30  
 
ชอบความเห็นที่ 29 ของพี่ alot มากครับ

   Off-Ab      13 มี.ค. 58   เวลา 8:53:00    IP = 117.121.214.212
 


  คำตอบที่ 31  
 
ชอบคำตอบที่ 30 มากครับ

   junraiman      13 มี.ค. 58   เวลา 9:35:00    IP = 61.47.106.226
 


  คำตอบที่ 32  
 
อยากรวยจริงๆเหมือนกันนะ
จะเอาพอลรีด ไทเลอร์ ดอนกรอสด้วย

   bbling      13 มี.ค. 58   เวลา 11:55:00    IP = 27.130.93.61
 


  คำตอบที่ 33  
 
สั้นๆง่ายๆ เพราะมัน "เก๋า" คนถึงอยากได้มันมาครอบครองไงครับ

   สมาชิกแบบพิเศษ      easybuying2008      21 เม.ย. 58   เวลา 7:15:00    IP = 49.49.250.94
สมาชิกแบบพิเศษ  
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket