Guitarthai : เจ็บนี้อีกนาน: 10 การเข้าสกัดสุดโหดสยองบันลือโลก

(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)

(เพจ: Guitarthai.com)

เจ็บนี้อีกนาน: 10 การเข้าสกัดสุดโหดสยองบันลือโลก

หากคุณสำรวจการจัดอันดับการเข้าสกัดสุดโหดในวงการฟุตบอลของเรา อาจทำให้ต้องถอยหนีด้วยความกลัว – เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็น โทนี่ ชูมัคเกอร์ อดีตนายทวารทีมชาติเยอรมันที่เคยอัด ปาทริค บาตติสตอง กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลก 1982 เท่านั้น...

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 10:52:00

พิมพ์

แจ้งลบ IP = 125.27.179.187
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 1

รอย คีน เข้าสกัด อัล์ฟ-อิงเก้ ฮาแลนด์ ในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ปี 2001
โดยต้นกำเนิดของเรื่องราวการเข้าสกัดที่เข่าของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อสามปีก่อนหน้านั้น
ในช่วงเวลานั้น คีนพุ่งเข้ามาสกัดบอลจากฮาแลนด์ ซึ่งยังเล่นให้กับลีดส์ ทำให้กองกลางตัวตัดเกมของยูไนเต็ดได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็นไขว้หน้า – ซึ่งฮาแลนด์ที่กำลังโมโหไม่มีความรู้สึกสงสารเขาเลย
นักเตะชาวนอร์เวย์ยืนขึ้นเหนือคีนที่นอนคว่ำอยู่แล้ว พร้อมกับตะโกนกล่าวหาว่า รอย คีน แกล้งเล่นละครตบตา
เป็นเรื่องน่าตกใจที่คีนยังคงเก็บความบาดหมางจากเหตุการณ์นี้ไว้ และในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ปี 2001 รอย คีน เห็น (หรือวางแผน) โอกาสที่จะแก้แค้น การเข้าบอล 50 – 50 ครั้งนี้อาจทำให้ฮาแลนด์ดาวเตะซิตี้ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก
รอย คีนได้ใบแดง ถูกแบน 5 นัด และปรับเงิน 150,000 ปอนด์แต่ดูเหมือนโทษดังกล่าวจะเบาเกินไปเมื่อเทียบกับความตั้งใจของเขาที่ถูกเปิดเผยในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 10:53:00 IP = 125.27.179.187
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 2

ซีเนดีน ซีดาน โขก มาร์โก มาเตรัซซี่, ฟุตบอลโลก 2006 นัดชิงชนะเลิศ
ทั่วโลกจับตามอง และพวกเขาต้องตกตะลึง
เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยม – ซีดานแสดงทักษะและความเหนือชั้นของเขาในจากสังหารจุดโทษช่วงต้นเกม และเขาอาจจะจบอาชีพนักฟุตเขาอย่างสวยงาม
แต่เหตุการณ์ที่เขาทำสิ่งซึ่งถูกเรียกในภายหลังว่า กลาสโกว์คิส ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ทำให้ตำนานนักเตะของโลกต้องออกจากเกมฟุตบอลนัดสุดท้ายในชีวิตของเขาอย่างน่าอับอายด้วยใบแดง
และนี่ไม่ใช่เกมฟุตบอลธรรมดา – เกมนี้คือศึกฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างสนใจเหตุการณ์นี้ พยายามคาดเดาคำพูดที่ทำให้ซิซูกระทำสิ่งนี้ หนังสือพิมพ์ เดลี่ สตาร์ เพลิดเพลินกับการนำเสนอ “ข้อมูลสุดพิเศษ” ในรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว และพยายามให้นักเตะทั้งสองมาเผชิญหน้ากันเพื่อขอโทษในภายหลัง
หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวใช้ภาพของมาเตรัซซี่พร้อมกรอบคำพูดที่ปากของเขาเขียนว่า: “แม่แกเป็นโสภาณี”
คำพาดหัวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังรวมไปถึง “อะไรทำให้ ซีซี ฉุนขาด” และ “ซีซีผู้เกรี้ยวกราดกับคำพูดพาดพิงคุณแม่ – คำเหยียดหยามที่รุนแรงที่สุดซึ่งทำให้ความอดทนของตำนานระเบิดออก”
ฟุตบอลไม่เคยได้รับความนิยมบนหน้าหนังสือพิมพ์ในประเทศอังกฤษมากขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่กรณีกระตุกขาของเบ็คแฮมเมื่อแปดปีก่อนหน้า แต่เราควรจะประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ของซีดานกับนักเตะอิตาลีหรือไม่? เพราะใบแดงในเกมนั้นเป็นคือใบที่ 14 ของซีดานตลอดการค้าแข้ง – มากกว่า วินนี่ โจนส์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นฮาร์ดแมนสองใบด้วยซ้ำ

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 10:58:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 3

8 มาริโอ ดาวิด เตะหัว ลิโอเนล ซานเชซ, ชิลี vs อิตาลี, ฟุตบอลโลก 1962
มีเพียงไม่มีเกมที่รวบรวมการเข้าสกัดอย่างรุนแรงไว้มากมาย จนทำให้เราไม่สามารถเลือกได้ว่าครั้งไหน “โหดร้ายที่สุด”
และมีเพียงไม่มีเกมที่จะถูกขนานนามว่า “การต่อสู้แห่งซานติอาโก” หรือ “แบทเทิล ออฟ ซานติอาโก”
แต่การเผชิญหน้ากันระหว่างชิลีกับอิตาลีในศึกฟุตบอลโลก’ 62 แสดงให้เห็นถึงคำพูดดังกล่าว
หากคุณไม่ได้ชมเกมดังกล่าว คุณจะไม่มีทางเชื่อในเหตุการณ์ต่อไปนี้; เดวิด โคลแมน ผู้บรรยายเกมชาวอังกฤษกล่าวถึงเกมนัดนี้ในรายการไฮไลท์ว่าเป็นเกมที่เต็มไปด้วย “ความโง่เขลา น่าตกใจ น่าเกลียด และสร้างความน่าอับอายให้กีฬาฟุตบอลมากที่สุดในประวัติศาสตร์”
เกมนัดนี้เต็มไปด้วยการเข้าสกัดที่น่าตกใจ การชกต่อย และตำรวจ จิออร์จิโอ้ แฟร์รินี่ ถูกไล่ออกจากสนามหลังผ่านไป 10 นาที และ มาริโอ ดาวิด ถูกไล่ออกตามไปในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา หลังจากเขาเตะ ลิโอเนล ซานเชซ ที่ศีรษะ ผู้บรรยายเรียกการเข้าสกัดครั้งนี้ว่า “การเข้าสกัดที่เหี้ยมโหดและรุนแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น”
หลังจากเหตุการณ์ “แบทเทิล ออฟ ซานติอาโก” เคน แอสตัน ผู้ตัดสินชาวอังกฤษได้กลายเป็นผู้ปรับเปลี่ยนระบบระเบียบวินัยในเกมฟุตบอล
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามวันนั้น แอสตันได้ริเริ่มระบบการให้ใบแดงและใบเหลือง และระบบดังกล่าวถูกนำมาใช้ตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลกปี 1970

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:00:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 4

7 โทนี่ ชูมัคเกอร์ ชน ปาทริค บาตติสตอง, เยอรมัน vs ฝรั่งเศส, ฟุตบอลโลก 1982 รอบรองชนะเลิศ
การทำฟาวล์ที่โด่งดัง เกิดขึ้นขณะที่ทั้งสองทีมเสมอกัน 1 – 1 ในศึกฟุตบอลโลกรอบตัดเชือกปี 1982 ปาทริค บาตติสตอง นักเตะสำรองของฝรั่งเศสกำลังหลุดเข้าเขตโทษเพื่อลุ้นทำประตูจากลูกเปิดยาว จังหวะเดียวกับที่นายทวารทีมชาติเยอรมัน โทนี่ ชูมัคเกอร์ วิ่งออกมาเพื่อตัดบอล
ทั้งสองพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็ว ไม่มีใครหลบหลีก บาตติสตองจับตามองที่ลูกบอลและเข้าถึงบอลก่อน เขาแตะบอลผ่านตัวนายทวารอินทรีเหล็ก ชูมัคเกอร์ – ผู้ซึ่งฉลาดกว่า – ตัดสินใจปล่อยลูกบอลให้ลอยผ่านไปและตั้งใจหลีกเลี่ยงการปะทะโดยการหันร่างกายด้านข้างเข้าหาฝ่ายตรงข้าม
ชูมัคเกอร์ชนนักเตะทีมตราไก่อย่างแรง โดยกระแทกบริเวณใบหน้าและทำให้ฟันของนักเตะฝรั่งเศสหักสามซี่ทันที บาทติสตองนอนคว่ำบนพื้นหญ้า ฟันหัก และมีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ทว่ากรรมการตัดสินว่าลูกไม่เป็นการฟาวล์และให้เกมกลับมาดำเนินต่อไป สร้างความประหลาดใจให้บรรดานักเตะและแฟนบอลอย่างมาก
“ผมคิดว่าเขาตายไปแล้ว” พลาตินี่กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ “เพราะว่าเขาเหมือนจะหยุดหายใจและดูซีดมาก”
เยอรมันชนะในเกมนี้ด้วยการดวลจุดโทษหลังจากทั้งคู่เสมอกัน 3 – 3 ในการต่อเวลาพิเศษ และเมื่อผู้รักษาประตูรายนี้ถูกถามถึงอุบัติเหตุที่เขาก่อขึ้น เขาตอบว่า “หากนั่นคือสิ่งผิดปกติทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขา ผมจะยกมงกุฎให้เขาเลย”

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:01:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 5

6 เบน แธตเชอร์ ศอกใส่ เปโดร เมนเดส, ปอร์ทสมัธ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2004
ความร้อนมักจะเป็นเหตุให้เรากลายเป็นคนขี้โมโหและ เบน แธตเชอร์ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้
เขาเกิดอาการคุ้มคลั่งท่ามกลางความร้อนของฤดูร้อนปี 2004
ระหว่างการอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลที่ประเทศจีนของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ศอกของเขาทำให้ หยาง ชุน กัง ได้รับบาดเจ็บบริเวณปอด และไม่ถึงสามอาทิตย์ต่อมาเขากลายเป็นนักฟุตบอลอังกฤษที่มีคนเกลียดมากที่สุดด้วยการศอกใส่เปโดร เมนเดส ของปอร์ทสมัธอย่างน่ากลัว
เมื่อเขาและเปรโดวิ่งเขาไปหาบอลที่เส้นข้างสนาม แธตเชอร์จงใจชักศอกใส่เมนเดส จนร่างของเมนเดสไหลไปขนกับป้ายโฆษณาข้างสนามและเขานอนหมดสติ เมนเดสต้องอาศัยอ๊อกซิเจนจากข้างสนามและมีอาการชักขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งเขาต้องพักค้างคืนที่นั่น
เป็นการเข้าสกัดที่รุนแรงมากและสโมสรสั่งห้ามแธตเชอร์ลงสนามหกนัดเพิ่มเติมจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่สั่งแบนเขาแปดเกม เขายังถูกห้ามลงสนามถึง 15 นัดในระยะเวลาสองปีอีกด้วย
ซึ่ง แม็ตต์ เทย์เลอร์ นักเตะปอร์ทสมัธแสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจของกรรมการที่ให้แค่ใบเหลืองกับ เบน แธตเชอร์ ว่า “เขาไม่โดนใบแดงได้อย่างไร? คุณต้องทำอะไรถึงจะถูกไล่ออก ฆ่าคนตายเหรอ?”

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:02:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 6

5 เบนจามิน แมสซิง เข้าสกัด เคลาดิโอ คานิกเกีย, แคเมอรูน vs อาร์เจนตินา, ฟุตบอลโลก 1990
ศูนย์หน้าตัวฉกาจของทีมฟ้าขาว เคลาดิโอ คานิกเกีย ไม่สามารถลงเล่นในเกมฟุตบอลโลกที่อิตาลี’90 นัดที่พบแคเมอรูนได้จนจบเกม
สิ่งนี้อาจเป็นคำสั่งก่อนเริ่มเกมที่บรรดานักเตะทีมหมอผีต้องทำให้ได้ก็เป็นได้
การปะทะกันอย่างแรงเกิดขึ้นหลังจากคานิกเกียลากบอลมาเป็นระยะทาง 80 หลา หลบผู้เล่นแคเมอรูนที่พุ่งเข้าหาตนทั้งบริเวณเส้นกึ่งกลางสนาม และผู้เล่นอีกคนต่อจากนั้น
การกระแทกของแมสซิงช่วยให้ความพยายามของเพื่อนร่วมทีมประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของเขา ทำให้นักเตะอาร์เจนไตน์ที่พยายามจะฝืนวิ่งต่อไปหลังถูกเข้าสกัดร่วงลงบนพื้นหญ้า
แมสซิงใช้เท้าเตะผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งมาขวางทางเขาขณะเดินไปเก็บรองเท้าหลุดกระเด็นจากการปะทะ ก่อนเดินกลับมาด้วยความหวังที่ว่ากรรมการจะให้เขาได้เล่นต่อไป แต่เขาถูกไล่ออก

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:05:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 7

4 แกรม ซูเนสส์ ย่ำนักเตะโรมาเนียผู้โชคร้าย, เรนเจอร์ส vs สเตอัว บูคาเรสต์, 1988
โดยประมาณนาที 2 ของนัดที่เรนเจอร์สเจอกับยอดทีมจากโรมาเนีย สเตอัว บูคาเรสต์นี้ นักเตะชาวสก็อตย่ำเท้าลงไปที่ต้นขาของฝ่ายตรงข้ามโดยการยกสตั๊ดขึ้นแล้วเหยียบลงมาอย่างแรง
แม้ผู้กระทำผิดจะไม่แปลกใจ แต่ผู้ถูกกระทำคงจะสงสัยไม่น้อย สิ่งที่ผิดปกติในกรณีนี้คืออดีตแข้งลิเวอร์พูลไม่ได้เป็นคนเข้าสกัดเอง เขาเป็นฝ่ายครองบอลอยู่
ความจริงคือ ซูเนสส์กำลังเลี้ยงบอล เห็นผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกำลังเข้ามาเพื่อแย่งบอลไปจากเท้าของเขาก่อนที่จะเกิดการปะทะกัน
ซูเนสส์พยายามประท้วงว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาถูขาตัวเองเพื่อแสดงหลักฐานให้กรรมการเห็นว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำ (ซึ่งไม่น่าเชื่อถือ) น่าเสียดายสำหรับซูเนสส์ กรรมการมองเห็นทุกสิ่งและให้ใบแดงไล่เขาออกจากสนามทันที และเรนเจอร์สตกรอบด้วยประตูรวมไปในที่สุด

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:08:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 8

ออกุสติน บินย่า เข้าสกัด สก็อต บราวน์, เซลติก vs เบนฟิก้า, 2007
มาร์ติน แฮนส์สัน กรรมการในเกมดังกล่าวพูดถึงการเปิดปุ่มสตั๊ดเข้าสกัดที่ขาของ สก็อต บราวน์ โดยจอมโหดจากเบนฟิก้า ออกุสติน บินย่า ว่า “เป็นการเข้าสกัดที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น”
ขณะที่ส้นเท้าของบราวน์อยู่บนพื้นหญ้าและเขากำลังพุ่งตัวไปด้านหน้า ขาของเขาสามารถหักได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แรงปะทะมากมายเลย
โชคดีที่บราวน์สามารถเดินออกจากสนามได้เองราวปาฏิหาริย์ และไม่น่าแปลกใจที่บินย่าจะถูกยูฟ่าสั่งห้ามลงสนามในเกมยุโรปถึงหกนัด
บราวน์ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า “เขาพยายามจะเล่นงานผมให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้”

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:09:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 9

2 เปเป้ เตะ ฆาบี้ กาสเคโร่, เรอัล มาดริด vs เกตาเฟ่, 2009
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วินาที ในเกมที่ดุเดือดระหว่างทีมคู่ปรับร่วมเมือง และคุณทำให้นักเตะฝ่ายตรงข้ามล้มลงในเขตโทษ
สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 2 – 2 และคุณกำลังจะเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะคนที่ทำให้ทีมต้องพ่ายแพ้
คุณโมโหมาก มองหาที่สำหรับระบายความโกรธ แต่สิ่งที่คุณเห็นมีเพียงนักเตะคู่แข่งที่ถูกคุณสกัดล้มลง กำลังนอนคว่ำบนพื้นสนาม คุณจึงเตะเขาซ้ำๆ และยืนมองก่อนที่จะผลักหน้าเพื่อนร่วมทีมของเขา – เป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่?
นักเตะเรอัล มาดริด เปเป้ คิดว่าใช่ เขาถูกใบแดงและโดนลากออกจากสนามโดย อิเคร์ กาซิยาส เพื่อนร่วมทีมหลังจากระบายความโกรธแค้นใส่นักเตะเกตาเฟ่ผู้โชคร้ายกาสเคโร่ และเพื่อนร่วมทีม ฆวน อัลบิน
โชคไม่ดีที่สมาคมฟุตบอลสเปนไม่เห็นด้วยกับเขาและสั่งแบนเปเป้แปดเกม ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้จนจบฤดูกาล
แต่กาสเคโร่ยังซวยได้อีก เมื่อลูกจุดโทษของเขาถูกกาซิยาสป้องกันไว้ได้ ก่อนที่กอนซาโล่ อิกวาอิน จะสังหารประตูชัยให้เรอัล มาดริดชนะไปในเกมนั้น

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:10:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ

คำตอบที่ 10

1 เอ็กเซล วิตเซล เข้าสกัด มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, สตองดาร์ด ลีแอจ vs อันเดอร์เลชท์, 2009
เกมดาร์บี้แมทช์มักจะดุเดือดเสมอ และการเจอกันระหว่างสตองดาร์ด ลีแอจ กับ อันเดอร์เลชท์เป็นเช่นเดียวกัน
แต่ในเกมเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่งยกระดับความเกลียดชังระหว่างสองทีมให้มากขึ้นไปอีก
โดยในฤดูกาลก่อนหน้าดาวรุ่งในตอนนั้นอย่างเอ็กเซล วิตเซล เป็นฮีโร่ผู้ยิงลูกโทษให้สตองดาร์ดชนะอันเดอร์เลชท์ในเกมเพลย์ออฟ และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองเป็นปีที่สองติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ในศึกดาร์บี้แมทช์เกมนี้ เขาได้ทำการเข้าสกัดอย่างน่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล โดยการพุ่งเข้าใส่กองหลังอันเดอร์เลชท์มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ ทำให้หน้าแข้งของกองหลังผู้โชคร้ายหักและแฟนบอลทั่วโลกต้องเบือนหน้าหนีด้วยความกลัว
เขาได้รับโทษอย่างปราณีด้วยการปรับเงินเพียง 250 ยูโร และห้ามลงสนาม 10 นัด ซึ่งต่อมาลดลงเหลือเพียงแค่แปดนัด สร้างความประหลาดใจต่อแฟนบอลเบลเยียมรวมถึงแฟนบอลทั่วโลก
เขาพยายามทำให้ตัวเองกลับมาเป็นที่เกลียดชังของแฟนๆ อันเดอร์เลชท์เข้าไปอีก ในเกมดาร์บี้แมทช์นัดที่สองเดือนมกราคม เขาทำการเข้าสกัดที่รุนแรง (กับโรแลนด์ จูฮาสซ์) และได้รับใบแดงอีกครั้ง

เครดิต http://www.fourfourtwo.com

top2513

2 พ.ค. 59 เวลา 11:12:00 IP = 1.20.224.128
สมาชิกแบบพิเศษ