(เพจ: โรงเรียนกีตาร์ไทย)


(เพจ: Guitarthai.com)
  การเรียนกีต้าร์ตามสถาบันดนตรี VS เรียนกับนักดนตรีอาชีพ อย่างไหนดีกว่า เด็ก10ปี  
 
การเรียนกีต้าร์ตามสถาบันดนตรี VS เรียนกับนักดนตรีอาชีพที่เค้าเปิดสอนกัน อย่างไหนดีกว่า เด็ก10ปี เนื้อหาการสอนเหมือนกันหรือไม่


gohong      23 มิ.ย. 60   เวลา 11:23:00       พิมพ์   แจ้งลบ      IP = 134.196.241.178
 


  คำตอบที่ 1  
 
แล้วแต่คนและที่ด้วยครับ บางคนเล่นเก่งสอนไม่รู้เรื่องบางคนเล่นไม่เก่งสอนดีก็มี

   steve_nui      23 มิ.ย. 60   เวลา 16:09:00    IP = 182.232.168.242
 


  คำตอบที่ 2  
 
ตามสถาบันน่าจะดีกว่า เพราะคิดว่ามีการลำดับเนื้อหาน่าจะเรียนได้ผลกว่า แต่เรื่องลำดับเนื้อหา แต่ถ้าอยากเรียนกับนักดนตรีก็ลองถามๆเค้าดูว่าลำดับเนื้อหาเป็นไง หัวข้อมีครบเหมือนตามสถาบันไหม ถ้าเค้าตอบได้ นักดนตรีอาชีพก็ไม่เลว

   สมาชิกแบบพิเศษ      breaklnwz      23 มิ.ย. 60   เวลา 18:24:00    IP = 1.47.96.102
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 3  
 
ลองสอบถามรายละเอียดหลักสูตรที่เขาจะสอนก่อนสิครับ ว่าที่ไหนเป้นยังไง
จากนั้นก็ค่อยพิจารณาดูว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน

   สมาชิกแบบพิเศษ      xsefiroth      23 มิ.ย. 60   เวลา 22:17:00    IP = 124.121.66.58
สมาชิกแบบพิเศษ  
 


  คำตอบที่ 4  
 
ต้องถามตัวเองก่อนว่าจะเรียนไปเพื่ิอะไร ถ้าเล่นเล่นไม่ต้องไปเรียนดูyoutube ก็มีมากมายมหาศาลแล้วครับ ถ้าเล่นเพื่อเป็นอาชีพอันนี้ต้องคิดให้ดีดีนะ ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำของวงการดนตรี เพราะหมดยุคขายtape,cd แล้ว เงินจากการขายเพลงคงยากเพราะคนload ฟรี
นักดนครี99%จนครับ คนที่มีguitar ,effect ,amplifier ราคาแพงแพงตัวละ50000บาทขื้นไป หายาก ,นักดนตรีในห้องอัดหลายคนต้องหางานอื่นทำหรืออาชีพเสริม ,ครูสอน guitar ก็หาคนมาเรียนยากแต่คนสอนมันเยอะแม้ค่าสอนจะถูกก็ตาม และต้องแข่งกับ youtube ที่มีนักguitar ระดับโลกมาสอนมาเล่นให้ดูมากมาย คนที่จะอยู่ได้และมีรายได้ดีดีต้องเก่งจริงจริง ชีวิตนี้ส่วนใหญ่ต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมวันละอย่างน้อย 6 ชม ทั้งชีวิดหรืออย่างน้อย20ปีถ้าจะเอาเก่งระดับmaster มันก็เหมือนนักกีฬาอาชีพเค้าทำกันละครับ
ต้องมี 1) เงิน (ต้องไม่กังวลความเป็นอยู่ในการเลี้ยงชีพ,และเงินที่ใช้จ่ายกับดนตรี)
ถ้าผ่านข้อ1)ได้ก็ได้เปรียบคนอื่นเยอะมาก
2) ต้องเรียนดนตรีเป็นระบบที่สากลยอมรับอย่างเช่น berklee usa. ถ้าในthai ผมไม่รู้ที่เค้าเปิดกันมันเป็นแบบไหนมีตำราแบบไหนแล้วตัวครูเก่งแค่ไหนเรียนมามากแค่ไหนและคูณธรรมแค่ไหน(ข้อนี้สำคัญมากไม่งั้นอาจจะเจอ"หลอกแดกการดนตรี"
3)ต้องกัดไม่ปล่อย,เวลา
ต้องคิดให้ดีนะครับ เล่นดนตรีมันไม่สวยหรูเหมือนอาชีพอื่นอย่าง หมอ วิศวะกร .....(ความมั่นคง)ถ้าแสวงหาความรวยทางนี้ยากครับ ที่นี่ไม่ใช่ america or europe.



   beginner2017  24 มิ.ย. 60   เวลา 3:32:00    IP = 115.87.59.250
 


  คำตอบที่ 5  
 
สาเหตุที่ให้เค้าเรียนคือต้องการให้เค้ามีความสามารถพิเศษขึ้นมาต่างจากเด็กทั่วไปครับ ดีกว่าเอาเวลามาอยู่กับจอในโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ครับ ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นครับ

   gohong      24 มิ.ย. 60   เวลา 10:08:00    IP = 134.196.241.178
 


  คำตอบที่ 6  
 
นักดนตรีบางคนอาจจะสอนไม่เป็นนะครับ สำหรับเด็กสิบขวบ

   811      24 มิ.ย. 60   เวลา 11:47:00    IP = 27.145.132.187
 


  คำตอบที่ 7  
 
ตอนลูกชายอายุ10กว่าปี ผมให้เรียนที่สถาบันเพื่อให้ได้พื้นฐานแบบทั้วไปครับ อย่างน้อยๆผู้สอนก็เป็นครูที่ยังไม่มีชื่อเสียงพอที่จะสร้างทิศทางของตนให้เด็กได้ พอลูกได้พื้นฐานแล้วถึงมาสอนเองบ้างให้ลุงๆอาๆช่วยบ้างครับ...แต่ก็แล้วแต่จะพิจารณานะ...

   gula101      24 มิ.ย. 60   เวลา 13:10:00    IP = 223.206.251.78
 


  คำตอบที่ 8  
 
ถ้าเรียนกับสถาบันก็ได้เรื่องพิ้นฐานการอ่านโน้ต แต่ฝีมือคงจะไม่ได้หวือหวามากมาย
ถ้าเรียนกับนักดนตรีอาชีพที่สอนดี ๆ (ย้ำว่าสอนดี ๆ นะครับ) ผมว่าฝีมือพัฒนาไวกว่า

แต่ทั้งหมดนี้ตัวเด็กต้องมีความสนใจในดนตรีจริง ๆ ถ้าไปบังคับเขาโดยที่เขาไม่ได้อยากจะเล่น เรียนกับ อ.แจ๊ค อ.หนึ่งซัก 10 ปี ก็คงได้แค่คอร์ด C ขูดมะพร้าวครับ

   nookjkg  24 มิ.ย. 60   เวลา 13:47:00    IP = 124.121.185.250
 


  คำตอบที่ 9  
 
โรงเรียนส่วนตัวผมมองว่ามันแค่เป็นระบบ
ระบบมากจนแบบว่าบางทีก็จะตึงเกินไปฮะ

ส่วนเรียนกับอาจารย์ที่เปิดสอนเอง
หลายท่านผมว่าหายห่วงเรื่องเบสิค
อีกทั้งมันไม่ตึงเกินไปนะ

สุดท้ายคือการเดินทางที่สะดวก
แล้วก็อธิบายได้ดีก็คนนั้นล่ะฮะ
เด็กเดินทางไกลๆเปลืองพลังงาน
กว่าจะไปเรียน

ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเขาฮะ

   bbling      24 มิ.ย. 60   เวลา 15:32:00    IP = 171.7.124.44
 


  คำตอบที่ 10  
 
โรงเรียนก่อนครับ ให้อ่านโน้ตได้เป็นหลักก่อน
นักดนตรีร้านหลายคนโดยส่วนมากอ่านโน้ตไม่ค่อยจะเป็นเท่าไหร่ครับ (ที่ไม่ใช่เอกดนตรี)
ถ้าอ่านโน้ตได้ปุ๊บปั๊บ อันนี้พร้อมละครับ

เเต่ถ้ากะเอาไปเรียนเเบบเน้นภาคปฏิบัติพอเล่นได้เเบบไม่เน้นอ่านโน้ตก็เเล้วเเต่สะดวกครับ

   birser      24 มิ.ย. 60   เวลา 22:30:00    IP = 118.172.113.210
 


  คำตอบที่ 11  
 
สำหรับผมคิดว่าเรียนกับสถาบันจะดีกว่า เรียนกับมืออาชีพบางคนหวงวิชา กั๊ก อีกอย่างเรียนสถาบันได้พื้นฐานการอ่านโน๊ตด้วย เรียนกับมืออาชีพไม่รู้ว่าเขาจะสอนอ่านโน๊ตไหม บางคนเล่นเก่งมากยังอ่านโน๊ตไม่เป็นก็มี ส่วนใหญ่มีเวลาบ้างไม่มีเวลาบ้าง เขาเหล่านั้นเวลาว่างสอนจะไม่ค่อยมีด้วยเพราะต้องซ้อมๆๆๆและศึกษาวิชาใส่ตัวเองเป็นส่วนใหญ่ นอกเสียจากนักดนตรีอาชีพจะเปิดสอนอย่างเป็นทางการอันนี้ก็อาจจะเข้าท่าหน่อย อ่อ อีกอย่างพวกนักดนตรีอาชีพจะอารมส่วนตัวสูงครับ หรือ อีโก้สูง อาจจะโดนดุได้ถ้าเซ้าซี้มาก แต่ก็มีบางคนใจเย็นอยู่ที่ดวง ซึ่งถ้าเป็นสถาบันอันนี้เขาคัดแบบดีๆมาสอนให้แล้วหายห่วง แทบจะกราบนักเรียน สุดท้ายผมก็ศึกษาเอง ส่วนตัวไม่ได้เอามาเล่นเป็นอาชีพ แต่เล่นเป็นงานอดิเรก เพราะผมมองว่าถ้าเอาจริงเอาจังด้านนี้จริงๆอย่างน้อยต้องฝึกวันละไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อวันเล่นกว่าจะเก่งในระดับนึงบางคน10 ปีกว่าฝึมืแพรวพราว ซึ่งนักดนตรีฝรั่งอย่าง ไมเคิลแองเจลโล่ เขาฝึกกีต้าร์วันละ 14ชั่วโมง จนทุกวันนี้ ก็ยังฝึกแบบนั้น เคยดูรายการนึงเขาให้สัมภาษแบบนั้น ขณะออกรายการกีต้าร์แทบไม่ห่างตัว ปั่นๆๆๆๆๆๆๆอยู่อย่างนั้นตลอดรายการซึ่งขณะพิธีกรณ์ให้สัมภาษมือเขายังปั่นกีต้าร์ ซึ่งผมเองไม่มีเวลาฝึกขนาดนั้น ยิ่งสมัยนี้มีนักดนตรีฝีมือไร้เทียมทานอายุน้อยออกมาให้เห็นกันมากหน้าหลายตา มันกลับสวนทางกับสมัยเมื่อ 10กว่าปีก่อนเหลือเกิน ปล ผมรักที่จะเล่นดนตรีเหมือนเช่นทุกคน ซึ่งอันนี้ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ อย่าด่าผมนะ 5555

   rinucha      26 มิ.ย. 60   เวลา 14:04:00    IP = 171.100.76.158
 


  คำตอบที่ 12  
 
ผมเคยเรียนจาก ทั้งสถานบัน และ นักดนตรี

เรียนจากสถานบันจะได้เรื่องของมาตรฐานครับ

ส่วนเรียนกับนักดนตรีนี่วัดดวงครับ เจอที่ดีก็ดีไป(ดีกว่าสถาบัน) แต่ถ้าเจอที่เหมือนจะดีแล้ว แย่ครับ ได้พื้นฐานแย่ ๆ ติดตัวไปอีกต่างหาก

   guitarnut  26 มิ.ย. 60   เวลา 14:26:00    IP = 110.76.153.100
 
 

Bigtone.in.th Online Music Store

Yamaha



ตั้งกระทู้ Login ก่อน Click ที่นี่
ผู้ตอบ :
รูปภาพ:  ( ไม่เกิน 150 K )
ข้อความ :
 

any comments, please e-mail   guitarthai@gmail.com (นายดู๋ดี๋)
© All rights reserved 1999 - 2015. All contents in this web site are the properties of www.guitarthai.com and Saratoon Suttaket